19 มิถุนายน 2559

เมื่อผู้นำสูญเสียความไว้วางใจจากผู้ตาม

ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ย่อมรู้ค่าราคาของความไว้วางใจที่เขาได้รับ
และเขาทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องรักษามันไว้

การสูญเสียที่สำคัญยิ่งใหญ่สำหรับผู้นำคือ เมื่อเขาสูญเสียความนิยมยอมรับและความไว้วางใจจากผู้คนที่เขานำ   เป็นการยากลำบากอย่างยิ่งที่ผู้นำคนนั้นจะเรียกความไว้วางใจ หรือ ความเชื่อมั่นคืนมาใหม่

ขอตั้งข้อสังเกตว่า ยิ่งเป็นผู้นำยาวนานแค่ไหน   เป็นการง่ายที่ผู้นำคนนั้นจะสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนที่เขานำมากขึ้นแค่นั้น  ยิ่งในยุคปัจจุบัน  สำหรับผมแล้วดูเหมือนว่า  ผู้คนมีความสงสัยในตัวผู้นำมากยิ่งกว่ายุคสมัยที่ผ่านมา

แล้วอะไรล่ะ ที่เป็นสาเหตุให้ผู้นำสูญเสียความไว้วางใจจากคนที่เขานำ   คงมีหลายสาเหตุด้วยกัน   ขอกล่าวถึง 9 สาเหตุที่ผู้นำสูญเสียความไว้วางใจจากคนที่เขานำ

1.  ทำงานแบบลวก ๆ:  
บางครั้งเมื่องานประดังทับถมจนล้นมือที่จะรับไว้  หรือ บางครั้งเกิดความเบื่อหน่ายในงานที่ทำ   มีแนวโน้มที่เราจะทำแบบลวก ๆ หรือ ทำให้เสร็จ   เราละเลย ไม่ใส่ใจ หรือ ไม่ระมัดระวังหลักการในการเป็นผู้นำที่ดีที่เรารู้   เราทำผิดพลาดมากกว่าปกติ   คนอื่นรอบข้างมองว่า เราไม่สนใจในงานที่กำลังทำ  คนรอบข้างเริ่มสงสัยในตัวเรา

ประเด็นท้าทาย:  ลดความรีบเร่ง เร่งด่วนในการทำงานลง แบ่งความรับผิดชอบในงานที่ทำ  ขอให้เพื่อนร่วมงานช่วยตรวจสอบความถูกต้อง

2.  ใช้อำนาจเผด็จการผ่านอีเมล์:
ในยุคความทันสมัยที่สื่อสารด้วยระบบดิจิตอล   โดยเฉพาะในการใช้อีเมล์  อีเมล์มักสร้างความเข้าใจผิดได้บ่อย   มักสร้างความเข้าใจที่สับสน  บางครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือในการตอบสวนกลับ แก้เผ็ด   ทำให้เกิดความกลัว   การกระทำแบบนี้เป็นภาวะผู้นำที่ไม่เป็นกันเองกับผู้ที่เราสื่อสาร   เมื่อผู้นำเลี่ยงการสื่อสารแบบปรึกษาสนทนาต่อกัน   ซึ่งเป็นการจัดการงานแบบสัมพันธ์ตรง   เมื่อนั้นผู้นำเริ่มสูญเสียความชื่นชอบยอมรับ แล้วนำไปสู่ความสูญเสียความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงาน

ประเด็นท้าทาย:  ในเรื่องที่มีสาระสำคัญ และมีเรื่องความถูกต้องชัดเจนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย   บางครั้ง เราจำเป็นที่จะต้องยกหูโทรศัพท์ปรึกษา หรือ นัดหมายเวลาที่จะพบปะพูดคุยกัน

3.  ผู้นำหายตัว...ไม่รู้ไปอยู่ไหน
เมื่อผู้นำมีงานความรับผิดชอบมากมาย   และบางครั้งต้องการที่จะแยกหรือเก็บตัวเพื่อสามารถจัดการกับงานรับผิดชอบนั้นให้สำเร็จลุล่วง   ถ้าผู้นำไม่ระมัดระวัง   แทนที่จะเลี่ยงออกไปทำงานให้เสร็จ   เพื่อที่จะได้งาน   แต่ผู้นำกลับถูกมองว่า “หายตัวไปไหนไม่รู้” ทำให้คนรอบข้างเข้าใจได้ว่า  ผู้นำคนนี้ไม่สนใจในงานที่เขาต้องรับผิดชอบ   เป็นผู้นำที่ไม่ทุ่มเท   มีความอ่อนแอในการนำในสายตาของทีมงาน

ประเด็นท้าทาย:  แสดงตารางเวลาการทำงานของตนให้ทีมงานสามารถรับรู้ชัดเจน  เป็นช่องทางให้สามารถสื่อสารกับทีมงานสม่ำเสมอ

4.  พูดเอาใจทีมงาน
ทุกคนต้องการคนชอบและชื่นชมตน   ถ้าผู้นำไม่ระมัดระวัง  แล้วไปพูดชื่นชมในสิ่งที่ทีมงานต้องการได้ยิน  ทั้ง ๆ สิ่งนั้นไม่ถูกต้อง   การพูดชื่นชอบทีมงานแบบนี้ทำให้เราสูญเสียความไว้วางใจจากคนในทีมงานที่พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ประเด็นท้าทาย:  เป็นคนที่จริงใจ โปร่งใส  พูดเรื่องต่าง ๆ ด้วยความรัก  และไม่พยายามสื่อสารในสาระที่มีความหมายแอบแฝงซ่อนเร้น   จริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่

5.  ผู้นำแบบ “รู้แล้ว...รู้แล้ว”
ผู้นำสูญเสียความชื่นชอบและไว้วางใจเมื่อผู้นำตัดสินใจเองทุกเรื่อง   ทั้งนี้ผู้นำทึกทักเอาว่าตนเองรู้ทุกอย่าง  ตนเองมีคำตอบสำหรับทุกเรื่องแล้ว  ไม่จำเป็นต้องถามต้องปรึกษาคนในทีมงาน   ไม่มีอะไรที่ตนต้องเรียนรู้  เพราะเขามั่นใจว่าตน “รู้แล้ว” ทุกเรื่อง  เพื่อนร่วมงานในทีมจะรู้สึกด้อยค่า  และเขายังรู้สึกว่า เขาไม่ได้อยู่และทำงานเพื่อความคาดหวังของคนอื่น   แต่เขาเองมีค่าและมีความคาดหวังในที่ทำงานด้วย   ผู้คนในทีมจะมองว่า ผู้นำคนนี้หยิ่งผยอง

ประเด็นท้าทาย:  บางครั้งเราในฐานะผู้นำเราอาจจะไม่มีคำตอบในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง   นี่เป็นความจริงที่เป็นธรรมดามิใช่หรือ  จำเป็นด้วยหรือที่ผู้นำจะต้องรู้ไปเสียทุกเรื่อง   เมื่อเรายังไม่รู้และไม่มีคำตอบให้เราเงียบและฟังจะดีไหม   โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรื่องนั้นมิใช่เรื่องคอขาดบาดตายต่อองค์กร   เปิดโอกาสให้คนในทีมได้ช่วยกันให้คำตอบ   ให้ทีมงานได้แสดงศักยภาพ ความรู้ และแสดงออกถึงภาวะผู้นำทางความคิด    แต่มิใช่ให้คนใดคนหนึ่งพูดอยู่คนเดียว

6.  เหยียดคุณค่างานของคนอื่นให้ด้อยลง
ในฐานะผู้นำองค์กร   บางครั้งเรามีความคิด “ภาพใหญ่” ขององค์กร   จนบางครั้งเราลืมที่จะให้ความสนใจถึงความคิดดี ๆ ของเพื่อนร่วมงานที่เสนอขึ้นมา   ผู้นำล้มเหลวที่จะเรียนรู้ รับรู้ และชื่นชมในความคิดที่มีคุณค่าของผู้ร่วมทีมงานคนนั้นและความสำเร็จของเขา

ประเด็นท้าทาย:  โปรดระมัดระวัง  จงเป็นผู้นำที่มีความรู้สึกไวที่จะเห็นและได้ยินถึงความคิดที่มีคุณค่าและความสำเร็จของผู้ร่วมงานในทีม   พร้อมทั้งแสดงความยินดีชื่นชมในสิ่งดี ๆ ของแต่ละคนในทีมที่ทำให้เกิดความสำเร็จแก่ทีมงาน

7.  อ่อนด้อยความกล้าหาญ
เราไม่สามารถเป็นผู้นำโดยไม่กล้าที่จะเสี่ยง   เมื่อผู้นำขาดความกล้าหาญ   ผู้ร่วมทีมย่อมต้องมุ่งมองหาใครคนอื่นบางคนที่จะนำพวกเขาไปให้ถึงที่ ๆ เขายังไม่รู้จัก

ประเด็นท้าทาย:  จงยืนมั่นบนความเชื่อศรัทธาของท่าน   และก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยเชื่อมั่นว่า  พระเจ้าทรงอยู่ข้างหน้าเราและกำลังกระทำพระราชกิจเพื่อให้เกิดสิ่งดียิ่งแก่ทีมงานของเรา

8.  บุคลิกที่ลื่นไหล พลิกพลิ้ว
การที่ใครคนใดคนหนึ่งจะเป็นผู้นำได้   คน ๆ นั้นจะต้องได้รับความไว้วางใจจากทีมงาน  และต้องเป็นความไว้วางใจแบบไม่สั่นคลอน หวั่นไหว หรือ โอนเอน และชื่อเสียงของผู้นำเป็นสิ่ง “บอบบาง” (แตกหักง่าย)   คนรอบข้างมักประเมินผู้นำคนนั้น  ที่ความเข้มแข็งทางใจและคุณธรรมของผู้นำ   เช่น  ความสัตย์ซื่อและเป็นคนที่มีคุณธรรมย่อมเป็นคุณลักษณะสำคัญเหนือบุคลิกภาพอื่น ๆ และตำแหน่งที่เขามีอยู่ในเวลานั้น   การที่ผู้นำเป็นผู้ที่มีความสัตย์ซื่อและคุณธรรมเป็นตัวตัดสินว่าผู้นำคนนั้นจะได้รับการยอมรับ ชื่นชอบ  และความไว้วางใจจากทีมงานหรือไม่

ประเด็นท้าทาย:  “จง​ระ​แวด​ระ​วัง​ใจ​ของ​เจ้า​ยิ่งกว่า​สิ่ง​อื่น​ใด   เพราะ​ทุก​สิ่ง​ที่​เจ้า​ทำ​ออก​มา​จาก​ใจ” (สุภาษิต 4:23 มตฐ.)  ให้ผู้นำทำสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ดี และ มีวินัยชีวิตที่จะหลีกเลี่ยงอำนาจแห่งการทดลองชีวิตในลักษณะต่าง ๆ

9.  หยิ่งยโส อหังการ
ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้ผู้นำต้องสูญเสียการยอมรับ และ ไว้วางใจอย่างรวดเร็วเท่ากับ การเป็นผู้นำที่หยิ่งยโส อหังการ  คุยโตโอ้อวด (ขี้คุย)   ถ้าทีมงานใดมีผู้นำแบบนี้   ลูกทีมมักไม่พูดอะไรมาก  แต่ปล่อยให้ผู้นำคนนั้นชื่นชมความเก่งกาจของตนไปคนเดียว

ประเด็นท้าทาย:  ผู้นำจะต้องถ่อม   และถ้าผู้นำคนใดไม่รู้ว่าตนจะถ่อมได้อย่างไร  ทูลถามพระเจ้าและทูลขอพระองค์ช่วยให้ท่านเป็นคนที่ถ่อมลง  พระเจ้าช่วยท่านได้   และนี่น่าจะเป็นทางออกสำหรับผู้นำที่ทุกครั้งต้องการที่จะเป็นผู้นำที่ถ่อม

ไม่มีผู้นำคนใดที่ต้องการสูญเสียการยอมรับ  ชื่นชอบ  และการไว้วางใจจากทีมงานของตน   ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ย่อมรู้ซึ้งในความสำคัญยิ่งของ “ความไว้วางใจ” ที่ทีมงานให้กับตน และ ทุ่มเททำงานหนักเพื่อบรรลุความสำเร็จ


เรียบเรียงจาก ข้อเขียนของ Ron Edmondson,  Churchleader.com


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น