อาชีพการงานเป็นสิ่งที่เราท่านต่างเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องทำ และต้องทำอย่างดีในแต่ละวัน
สำหรับเรามองและเข้าใจว่า
เราทำงานอาชีพแต่ละวันไปทำไม?
อะไรคือเป้าหมายสูงสุดในการทำงาน
และประกอบอาชีพของเรา?
เรารู้อยู่แก่ใจแล้วว่า
เหตุผลหนึ่งของการทำงานประกอบอาชีพก็เพื่อที่จะได้รับค่าจ้างหรือค่าแรงที่จะนำมาเลี้ยงตนเองและครอบครัว
เหตุผลที่สูงขึ้นเพื่อแสดงถึงความรู้ความสามารถของเรา ศักยภาพ สมรรถนะในงานที่เราทำ
เพื่อนำไปสู่การได้รับหน้าที่ตำแหน่งที่สูงขึ้น แน่นอนครับได้รับเงินเดือน และ
สวัสดิการเพิ่มขึ้นด้วย
มีความมั่นคงในงานที่ทำและความมั่นคงในรายได้ต่อไปในอนาคต
จึงไม่น่าแปลกใจที่เกิดการแก่งแย่งตำแหน่งหน้าที่ในการทำงานกันแบบเอาเป็นเอาตาย แบบเอาด้วยเล่ห์ไม่ได้ก็เอาด้วยเหลี่ยม
เอาด้วยผลงานไม่ได้ก็เอาด้วยการเป็น “เด็กเส้น” ของใคร ในเหตุการณ์นี้มีทั้งคนที่สมหวัง และ
คนที่เสียใจจนสิ้นหวัง
หมดกำลังใจที่จะทำงานต่อไป
หรือหมดความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำดีทำถูกต้องต่อไป มาตรการเกียร์ว่างก็อาจะเกิดขึ้นได้
แล้วคริสตชนมีความเชื่อ
และ มุมมองเกี่ยวกับ การทำงานประกอบอาชีพอย่าง?
ท่านเข้าใจเรื่องนี้อย่างไร?
คริสตชนทำงานเพราะ
ตนเชื่อว่า การทำงานเป็นการทรงเรียกของพระเจ้าที่ทรงมีสำหรับแต่ละคน ดังนั้นงานที่เราทำ
อาชีพที่เราประกอบจึงเป็นการที่เราทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจ และ
การกระทำเพื่อตอบสนองสิ่งที่พระเจ้าประสงค์ให้เรากระทำ
ดังนั้น การทำงานประกอบอาชีพของคริสตชนจึงเป็นการทำงานร่วมและสานต่อพระราชกิจของพระเจ้าให้เกิดสิ่งดี
ๆ ขึ้นในโลกที่พระองค์ทรงสร้าง
กระทำให้เกิดสิ่งดี ๆ แก่ชีวิตมนุษย์ในสังคมโลก การทำงานและประกอบอาชีพในแต่ละวันของเราจึงเป็นการทำงานร่วมกับพระเจ้า เพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตในสังคมชุมชนโลกตามพระประสงค์ของพระเจ้า ที่ทรงต้องการให้
“แผ่นดินของพระเจ้ามาตั้งอยู่
สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เกิดขึ้นในสวรรค์ก็ให้เกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมในสังคมชุมชนโลกด้วย”
การกระทำงานประกอบอาชีพประจำวันของเราควรมีความมุ่นมั่นตั้งใจทำอย่างที่พระบิดาทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ในโลกนี้คือ “...พระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นส่องสว่างแก่คนดีและคนชั่วเสมอกัน
และให้ฝนตกแก่คนชอบธรรมและคนอธรรม... เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม
เหมือนอย่างที่พระบิดาของท่าน ผู้สถิตในสวรรค์ทรงดีพร้อม” (มัทธิว 5:45, 48)
การทำงานประกอบอาชีพประจำวัน บนรากฐานความเชื่อและคุณธรรมข้างต้น คริสตชนจึงมองว่า การทำงานประกอบอาชีพประจำวันเป็นการดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า และเป็นการกระทำเพื่อเป็น
“การนมัสการพระเจ้า”
ที่ว่าเป็นการนมัสการพระเจ้าเพราะ
เราน้อมรับพระประสงค์ของพระเจ้าเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเรา เราเชื่อฟังพระองค์
มีพระองค์เป็นเอกเป็นต้นในชีวิตของเรา
ในการคิด การตัดสินใจ และ ในการกระทำทุกเรื่องของเราด้วยความสัตย์ซื่อ
แต่น่าอันตรายสำหรับการทำงานและประกอบอาชีพของคริสตชนในปัจจุบัน! เกิดคำถามว่า
การทำงานและประกอบอาชีพของคริสตชนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้
“เป็นการนมัสการพระเจ้า” หรือ “เป็นการนมัสการสิ่งอื่น”? “คริสตชนกำลังนมัสการใคร? หรือ
กำลังนมัสการอะไรกันแน่?
เราทำงานด้วยความหวังสูงสุด...
(1) เพื่อที่จะทำงานสานต่อตามพระประสงค์ของพระเจ้า
และทำงานเพื่อให้เกิดสิ่งดี ๆ ในชีวิตอย่างเป็นรูปธรรมแก่ผู้คนรอบข้าง และ
คนในสังคมโลก
เยี่ยงการทำงานของพระบิดาที่ทรงกระทำสิ่งดี ๆ แก่ผู้คนทั้งคนดีและคนชั่ว? หรือ
(2) เพื่อที่เราจะได้รายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว?
(3) เพื่อเป็นการไต่เต้าตำแหน่งที่สูงขึ้น มีเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น มีชื่อเสียงที่ดังขึ้น...? หรือ
(4) เพื่อตอบสนองความปรารถนาทางจิตใจที่อยากได้รับใช้พระเจ้า
“ในตำแหน่งนี้”? หรือ
(5) เพื่อแสดงให้ผู้คนได้เห็นชัดถึงศักยภาพ
ความสามารถของตน ที่สามารถได้รับเลือกให้รับตำแหน่งนี้?
(6) เพื่อความมั่นใจว่าตนมีคุณค่าที่คนอื่นยังเรียกใช้? แม้ฝ่ายตรงกันข้ามก็ยังเรียกใช้?
(7)
เพื่อประคับประคองให้ตนเองยืนบนตำแหน่งนี้ให้นานเท่านาน? ตราบจนหมดโอกาส? เพื่อแสดงออกถึงความรับผิดชอบ แม้จะทำอะไรไม่ได้อย่างใจมุ่งหวังก็ตาม?
แล้วท่านทำงานโดยมีความหวังสูงสุดในข้อไหนครับ?
ถ้าท่านทำงานด้วยความหวังสูงสุด...ตามข้อ
(1)
ท่านมุ่งที่จะทำงานเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
การทำงานของท่านเป็นการนมัสการพระเจ้าครับ เป็นการสานต่อพระราชกิจของพระเจ้า เป็นการตอบสนองการทรงเรียกอย่างสัตย์ซื่อ ถ้าท่านทำงานโดยมีจุดประสงค์นี้สูงสุดเป็นเป้าหมาย ด้วยความจริงใจไม่มีเหตุอื่นแอบแฝง
ถ้าท่านเลือกข้อ
(2) ถึง (7) ข้อใดข้อหนึ่ง หรือ มากกว่าหนึ่งข้อ
ท่านกำลังทำงานด้วยการกราบไหว้งานที่ทำอยู่ และเพื่อบูชาตนเองครับ
แต่บางท่านจะเลือกข้อ
(1) และ
ข้อใดข้อหนึ่ง หรือ มากกว่าหนึ่งข้อจากข้อ (2) ถึง (7) ท่านกำลังนมัสการพระเจ้า และ
ในเวลาเดียวกันกำลังกราบไหว้งานที่ทำ และ ตนเองครับ ประการหลังนี้น่าจะอันตรายที่สุดครับ
ท่านคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ครับ? แบ่งปันให้รับรู้กันได้ไหมครับ?
คริสตจักรไทยสอนอะไร
อย่างไรในเรื่องนี้ครับ?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น