14 พฤศจิกายน 2559

พระเจ้า...ลูกยังไม่พร้อม?

วันนี้ท่านเต็มใจที่จะมอบทั้งกายและถวายทั้งชีวิตรับใช้พระเจ้า  ในที่ที่ท่านดำเนินชีวิตอยู่หรือไม่?   ไม่ว่าในครอบครัวคริสตจักร   หรือที่ที่พระคริสต์ส่งท่านออกจากคริสตจักรเข้าไปในสังคม/ชุมชน  ไม่ว่า ในครอบครัวของท่าน   ในที่ทำงานของท่าน  ในเวลาที่ท่านใช้กับเพื่อนของท่านในกลุ่ม หรือ ผ่านเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ   รวมถึงการร่วมในงานพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชน

คริสตชนหลายท่านอาจจะตอบว่า   ตนเต็มใจที่จะมอบกายถวายชีวิตนี้รับใช้พระเจ้า   แต่ตนยังขาดความพร้อม   เราต้องไม่ลืมแต่ต้องตระหนักชัดว่า   เมื่อพระเจ้าทรงใช้เรา พระองค์มิได้มองว่า “เรามีความพร้อม” มากน้อยแค่ไหน   พระเจ้ามิได้ทรงเรียกเรารับใช้พระองค์ด้วยความสามารถ  สติปัญญาของเราเท่านั้น   แต่พระองค์ต้องการที่จะทำงานในและผ่านทุก ๆ มิติในชีวิตของเรา   อ่านให้ชัดนะครับว่า “พระเจ้าต้องการทำงานในและผ่านชีวิตของเรา” ใช่ พระองค์ทำงานผ่านความรู้ ความสามารถ และ ทักษะที่เราเองอาจจะรู้ “จำกัด” หรือ “ขาดด้อย”   แต่พระองค์ทำงานในชีวิตและผ่านชีวิตของเรา  พระองค์จะทรงเติมเต็มเราให้มีสิ่งจำเป็นเหล่านี้เพียงพอสำหรับงานที่พระองค์กระทำผ่านชีวิตของเรา  

ให้เราระลึกถึง แป้งที่ติดก้นหม้อ และ น้ำมันที่อยู่ก้นไห ของหญิงม่ายเมืองศาเรฟัท ที่ยอมทำตามคำขอของเอลียาห์   ผลที่เกิดขึ้นคือ ทั้งน้ำมัน และ แป้ง ใช้ไม่หมดสักทีในช่วงเวลาที่อดอยากขัดสน   มีพอทุกมื้อทุกวัน  และยังพอสำหรับทั้งท่านผู้เผยพระวจนะ และ ตัวนางพร้อมลูกของนางด้วย (1พงศ์กษัตริย์ 17:8-16)  

เมื่อพระเจ้าทำงานผ่านชีวิตของเรา   นอกจากเรามีส่วนร่วมที่จะทำให้พระประสงค์ของพระองค์ในครั้งนั้น ๆ สำเร็จ   เราเองยังได้รับการพัฒนาเสริมเพิ่มเติมเต็มจากพระเจ้า   ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา  ทักษะ ความสามารถ ความรู้  ความชำนาญ  และความเข้าใจในชีวิตรอบด้านด้วย  

หรือถ้าจะกล่าวว่า “ยิ่งทำยิ่งพร้อม”  “ยิ่งรับใช้ยิ่งเข้มแข็ง และ เติบโตในพระคริสต์” ก็ไม่ผิด!

เปาโลบอกกับคริสตชนในโครินธ์ว่า  “...ท่าน​จง​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​เจ้า​ด้วย​ร่างกาย​ของ​ท่าน​เถิด​” (1โครินธ์ 6:20 ข.  มตฐ.) 

ให้เราถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยทั้ง กาย ใจ จิตวิญญาณ  ตะลันต์ความสามารถ  ความรู้พร้อมทักษะ  และของประทานทั้งหลายที่เราได้รับจากพระองค์   นอกจากพระประสงค์ของพระเจ้าจะสำเร็จผ่านชีวิตที่รับใช้ของเราแล้ว   เราเองยังได้รับการเสริมสร้างจากพระเจ้าที่มี “ความพร้อม” มากขึ้นในการรับใช้พระเจ้าในงานต่อ ๆ ไปด้วย

นอกจากนั้นแล้ว   การร่วมรับใช้พระประสงค์และพระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงกระทำผ่านชีวิตของเรา  ยังนำความรู้สึกชื่นชม ขอบคุณของผู้ได้รับผลจากการรับใช้    ซึ่งทำให้เกิดการถวายพระเกียรติ และ สรรเสริญพระนามพระเจ้า  ทั้งคริสตชนที่รับใช้พระเจ้าก็ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์ด้วย   และนี่คือการถวายเกียรติและสรรเสริญพระนามของพระเจ้าอย่างแท้จริง   มิใช่แค่การมาร่วมในการนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรเท่านั้น

การรับใช้พระเจ้าวันนี้ คือจุดเริ่มต้นของการดำเนินชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้า หรือ ในแผ่นดินสวรรค์ อย่างเป็นรูปธรรม(สัมผัส จับต้องในชีวิตจริงปัจจุบัน)   และการรับใช้ทำให้เรามีชีวิตเติบโตและเข้มแข็งขึ้นในแผ่นดินสวรรค์ที่พระคริสต์ได้เริ่มต้นสถาปนาขึ้นแล้วบนแผ่นดินโลกนี้   การรับใช้พระเจ้าจึงเป็นการสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ในที่ที่เราแต่ละคนมีชีวิตและดำเนินชีวิตประจำวัน

ชีวิตในแผ่นดินสวรรค์ หรือ ชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้า ที่พระคริสต์นำมาสถาปนาบนโลกใบนี้   มิใช่การนุ่งขาวห่มขาว   มิใช่ชีวิตที่แยกตนออกจากสังคมโลกและหามุมมืดที่จะนั่งบ่นภาวนาเท่านั้น   แต่สำหรับพระคริสต์แล้ว   ชีวิตของคนที่เข้าในแผ่นดินของพระเจ้า   ต้องเป็นชีวิตที่เป็นแสงสว่าง และ ความเค็มของเกลือที่แทรกซึมเข้าไปในทุกอณูชีวิตของสังคมที่เราอาศัยอยู่ด้วย  

ดังนั้น   คริสตจักรคือชุมชนที่พระคริสต์ตั้งขึ้นเพื่อบ่มเพาะ ฟูมฟัก เลี้ยงดูให้ทุกคนในคริสตจักรมอบกายถวายทั้งชีวิตรับใช้พระคริสต์ในชุมชนที่ตนมีชีวิตอยู่   และนี่คือพระประสงค์ของพระคริสต์ที่ทรงก่อตั้งคริสตจักรขึ้น  

คริสตจักรของพระคริสต์ ที่มิใช่เป็นเพียงการ “หาคนใหม่ ๆ มาใส่คริสตจักร” จำนวนสมาชิกมากขึ้น   เพื่อมีเงินถวายมากขึ้น   เพราะถ้าทำเช่นนั้นเรากำลังสร้างคริสตชนเหมือนคนประหลาดที่นำมาแสดงในงานวัดในอดีต  ที่เอาคนพิการลักษณะประหลาด ๆ  มาแสดงเก็บสตางค์จากผู้ชม   ถ้าเช่นนั้นเรากำลังสร้าง  “คริสตชนที่หัวโต  ตัวเล็ก ไร้แขนและขาลีบ”   นอกจากทำอะไรไม่ได้แล้ว   ยังต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นช่วยให้สามารถมีชีวิตต่อไปด้วย

การรับใช้พระคริสต์ในชีวิตประจำวันของคริสตชนเป็นหัวใจสำคัญประการหนึ่ง ในการเป็นสาวกของพระคริสต์   เพราะเท่ากับเราเปิดชีวิตของเรารับการสร้างเสริมเพิ่มเติมเต็มจากพระเจ้าให้เป็นคนที่เติบโตขึ้น และ เป็นคนที่พระองค์ใช้ได้ตามพระประสงค์

อย่าตระหนักผิดคิดพลาดนะครับว่า   เรายังไม่พร้อมที่จะรับใช้พระเจ้า

แต่ให้เราตระหนักชัดว่า  วันนี้ให้เรามอบกายถวายทั้งชีวิตของเราให้พระคริสต์ทำงานผ่านชีวิตของเรา (ไม่ใช่เราทำเองด้วยความสามารถของเรา)  ในกระบวนการรับใช้และพระองค์ทำงานผ่านชีวิตของเรานั้นเองที่พระเจ้าทรงสร้างเสริมเติมเต็มให้ชีวิตของเรา “พร้อม” ที่จะรับใช้ตามพระประสงค์ของพระองค์มากขึ้น

จุดเริ่มต้นสำหรับวันนี้   ขอท่านพิจารณาใคร่ครวญถึงชีวิตของตนว่า   ปัจจุบันนี้ท่านกำลังใช้ทุกมิติชีวิตของท่านเพื่อตนเอง หรือ เพื่อให้พระคริสต์จะทำงานผ่านชีวิตประจำวันของท่านตามพระประสงค์ของพระองค์?   เมื่อพบความจริงอย่างไรแล้วก็ให้ปรึกษากับพระคริสต์ตรง ๆ ว่า  พระองค์จะทรงทำงานในชีวิต และ ผ่านชีวิตของท่านอย่างไรในวันนี้ก็เต็มใจให้พระองค์ใช้ตามพระประสงค์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น