วันนี้ท่านเต็มใจที่จะมอบทั้งกายและถวายทั้งชีวิตรับใช้พระเจ้า ในที่ที่ท่านดำเนินชีวิตอยู่หรือไม่? ไม่ว่าในครอบครัวคริสตจักร
หรือที่ที่พระคริสต์ส่งท่านออกจากคริสตจักรเข้าไปในสังคม/ชุมชน ไม่ว่า ในครอบครัวของท่าน ในที่ทำงานของท่าน ในเวลาที่ท่านใช้กับเพื่อนของท่านในกลุ่ม หรือ
ผ่านเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ
รวมถึงการร่วมในงานพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชน
คริสตชนหลายท่านอาจจะตอบว่า
ตนเต็มใจที่จะมอบกายถวายชีวิตนี้รับใช้พระเจ้า แต่ตนยังขาดความพร้อม เราต้องไม่ลืมแต่ต้องตระหนักชัดว่า เมื่อพระเจ้าทรงใช้เรา พระองค์มิได้มองว่า
“เรามีความพร้อม” มากน้อยแค่ไหน
พระเจ้ามิได้ทรงเรียกเรารับใช้พระองค์ด้วยความสามารถ สติปัญญาของเราเท่านั้น แต่พระองค์ต้องการที่จะทำงานในและผ่านทุก ๆ มิติในชีวิตของเรา อ่านให้ชัดนะครับว่า “พระเจ้าต้องการทำงานในและผ่านชีวิตของเรา”
ใช่ พระองค์ทำงานผ่านความรู้ ความสามารถ และ ทักษะที่เราเองอาจจะรู้ “จำกัด” หรือ
“ขาดด้อย” แต่พระองค์ทำงานในชีวิตและผ่านชีวิตของเรา
พระองค์จะทรงเติมเต็มเราให้มีสิ่งจำเป็นเหล่านี้เพียงพอสำหรับงานที่พระองค์กระทำผ่านชีวิตของเรา
ให้เราระลึกถึง
แป้งที่ติดก้นหม้อ และ น้ำมันที่อยู่ก้นไห ของหญิงม่ายเมืองศาเรฟัท
ที่ยอมทำตามคำขอของเอลียาห์
ผลที่เกิดขึ้นคือ ทั้งน้ำมัน และ แป้ง
ใช้ไม่หมดสักทีในช่วงเวลาที่อดอยากขัดสน
มีพอทุกมื้อทุกวัน และยังพอสำหรับทั้งท่านผู้เผยพระวจนะ
และ ตัวนางพร้อมลูกของนางด้วย (1พงศ์กษัตริย์ 17:8-16)
เมื่อพระเจ้าทำงานผ่านชีวิตของเรา
นอกจากเรามีส่วนร่วมที่จะทำให้พระประสงค์ของพระองค์ในครั้งนั้น ๆ สำเร็จ
เราเองยังได้รับการพัฒนาเสริมเพิ่มเติมเต็มจากพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา ทักษะ ความสามารถ ความรู้ ความชำนาญ
และความเข้าใจในชีวิตรอบด้านด้วย
หรือถ้าจะกล่าวว่า
“ยิ่งทำยิ่งพร้อม”
“ยิ่งรับใช้ยิ่งเข้มแข็ง และ เติบโตในพระคริสต์” ก็ไม่ผิด!
เปาโลบอกกับคริสตชนในโครินธ์ว่า “...ท่านจงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของท่านเถิด”
(1โครินธ์ 6:20 ข. มตฐ.)
ให้เราถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยทั้ง
กาย ใจ จิตวิญญาณ ตะลันต์ความสามารถ ความรู้พร้อมทักษะ และของประทานทั้งหลายที่เราได้รับจากพระองค์
นอกจากพระประสงค์ของพระเจ้าจะสำเร็จผ่านชีวิตที่รับใช้ของเราแล้ว เราเองยังได้รับการเสริมสร้างจากพระเจ้าที่มี
“ความพร้อม” มากขึ้นในการรับใช้พระเจ้าในงานต่อ ๆ ไปด้วย
นอกจากนั้นแล้ว
การร่วมรับใช้พระประสงค์และพระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงกระทำผ่านชีวิตของเรา ยังนำความรู้สึกชื่นชม
ขอบคุณของผู้ได้รับผลจากการรับใช้
ซึ่งทำให้เกิดการถวายพระเกียรติ และ สรรเสริญพระนามพระเจ้า ทั้งคริสตชนที่รับใช้พระเจ้าก็ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์ด้วย
และนี่คือการถวายเกียรติและสรรเสริญพระนามของพระเจ้าอย่างแท้จริง
มิใช่แค่การมาร่วมในการนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรเท่านั้น
การรับใช้พระเจ้าวันนี้
คือจุดเริ่มต้นของการดำเนินชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้า หรือ ในแผ่นดินสวรรค์
อย่างเป็นรูปธรรม(สัมผัส จับต้องในชีวิตจริงปัจจุบัน)
และการรับใช้ทำให้เรามีชีวิตเติบโตและเข้มแข็งขึ้นในแผ่นดินสวรรค์ที่พระคริสต์ได้เริ่มต้นสถาปนาขึ้นแล้วบนแผ่นดินโลกนี้
การรับใช้พระเจ้าจึงเป็นการสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ในที่ที่เราแต่ละคนมีชีวิตและดำเนินชีวิตประจำวัน
ชีวิตในแผ่นดินสวรรค์
หรือ ชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้า ที่พระคริสต์นำมาสถาปนาบนโลกใบนี้ มิใช่การนุ่งขาวห่มขาว
มิใช่ชีวิตที่แยกตนออกจากสังคมโลกและหามุมมืดที่จะนั่งบ่นภาวนาเท่านั้น แต่สำหรับพระคริสต์แล้ว ชีวิตของคนที่เข้าในแผ่นดินของพระเจ้า ต้องเป็นชีวิตที่เป็นแสงสว่าง และ
ความเค็มของเกลือที่แทรกซึมเข้าไปในทุกอณูชีวิตของสังคมที่เราอาศัยอยู่ด้วย
ดังนั้น
คริสตจักรคือชุมชนที่พระคริสต์ตั้งขึ้นเพื่อบ่มเพาะ ฟูมฟัก
เลี้ยงดูให้ทุกคนในคริสตจักรมอบกายถวายทั้งชีวิตรับใช้พระคริสต์ในชุมชนที่ตนมีชีวิตอยู่
และนี่คือพระประสงค์ของพระคริสต์ที่ทรงก่อตั้งคริสตจักรขึ้น
คริสตจักรของพระคริสต์
ที่มิใช่เป็นเพียงการ “หาคนใหม่ ๆ มาใส่คริสตจักร” จำนวนสมาชิกมากขึ้น เพื่อมีเงินถวายมากขึ้น เพราะถ้าทำเช่นนั้นเรากำลังสร้างคริสตชนเหมือนคนประหลาดที่นำมาแสดงในงานวัดในอดีต ที่เอาคนพิการลักษณะประหลาด ๆ มาแสดงเก็บสตางค์จากผู้ชม ถ้าเช่นนั้นเรากำลังสร้าง “คริสตชนที่หัวโต ตัวเล็ก ไร้แขนและขาลีบ” นอกจากทำอะไรไม่ได้แล้ว
ยังต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นช่วยให้สามารถมีชีวิตต่อไปด้วย
การรับใช้พระคริสต์ในชีวิตประจำวันของคริสตชนเป็นหัวใจสำคัญประการหนึ่ง
ในการเป็นสาวกของพระคริสต์
เพราะเท่ากับเราเปิดชีวิตของเรารับการสร้างเสริมเพิ่มเติมเต็มจากพระเจ้าให้เป็นคนที่เติบโตขึ้น
และ เป็นคนที่พระองค์ใช้ได้ตามพระประสงค์
อย่าตระหนักผิดคิดพลาดนะครับว่า เรายังไม่พร้อมที่จะรับใช้พระเจ้า
แต่ให้เราตระหนักชัดว่า
วันนี้ให้เรามอบกายถวายทั้งชีวิตของเราให้พระคริสต์ทำงานผ่านชีวิตของเรา
(ไม่ใช่เราทำเองด้วยความสามารถของเรา)
ในกระบวนการรับใช้และพระองค์ทำงานผ่านชีวิตของเรานั้นเองที่พระเจ้าทรงสร้างเสริมเติมเต็มให้ชีวิตของเรา
“พร้อม” ที่จะรับใช้ตามพระประสงค์ของพระองค์มากขึ้น
จุดเริ่มต้นสำหรับวันนี้ ขอท่านพิจารณาใคร่ครวญถึงชีวิตของตนว่า
ปัจจุบันนี้ท่านกำลังใช้ทุกมิติชีวิตของท่านเพื่อตนเอง หรือ
เพื่อให้พระคริสต์จะทำงานผ่านชีวิตประจำวันของท่านตามพระประสงค์ของพระองค์?
เมื่อพบความจริงอย่างไรแล้วก็ให้ปรึกษากับพระคริสต์ตรง ๆ ว่า พระองค์จะทรงทำงานในชีวิต และ
ผ่านชีวิตของท่านอย่างไรในวันนี้ก็เต็มใจให้พระองค์ใช้ตามพระประสงค์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น