23 พฤศจิกายน 2553

ลำแสงแห่งความชื่นชมยินดี

14“ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้ 15เมื่อจุดตะเกียงแล้ว ไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในเรือนนั้น 16ท่านทั้งหลายก็เหมือนกับตะเกียง จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์ (มัทธิว 5:14-16)

ท่านมิเพียงแต่จะมีความชื่นชมยินดีเท่านั้น
แต่ท่านจะต้องสำแดงความชื่นชมยินดีนั้นให้คนทั้งหลายได้รู้ได้เห็นด้วย
เทียนไขควรจุดไว้บนเชิงตะเกียง
ไม่ควรเอาถังครอบไว้
เพื่อเทียนนั้นจะส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในเรือนนั้น

คนทั้งหลายจะต้องเห็นและรู้ถึงความชื่นชมยินดีของท่าน และ
พวกเขาได้เห็นและรู้อย่างไม่มีข้อสงสัยถึงความชื่นชมยินดีของท่าน
ว่าเป็นความชื่นชมยินดีที่เกิดจากการที่ท่านไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า และ
เกิดจากการที่ท่านมีชีวิตอยู่ร่วมกับพระองค์

วิถีที่มิใช่ทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า และ เป็นทางที่ไม่ฉลาดอย่างยิ่ง
คือการละทิ้งหลีกหนีที่จะเดินไปบนเส้นทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเดินทางเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม
พระองค์รู้แล้วว่าเสียงร้องว่าโฮซันนา และ
ขบวนที่เต็มไปด้วยเสียงแห่งความยินดีมีชัย
บนเส้นทางนั้นพระองค์กลับต้องถูกปฏิเสธ
ถูกหมิ่นประมาท
ถูกถากถางด่าทอ
ถูกกระทำด้วยความหยาบคาย และ
ถูกคนศรัทธา ใกล้ชิด และสนิททอดทิ้ง
ความตายรอองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ข้างหน้า

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่มหานครเยรูซาเล็ม
แต่พวกเขามิได้สังเกตเห็นถึงความเศร้า
ที่องค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวแก่สาวกของพระองค์ในอาหารมื้อสุดท้าย

แต่เมื่อพระองค์ร้องเพลงสรรเสริญแล้ว
องค์พระผู้เป็นเจ้าเดินทางต่อไปยังภูเขามะกอกเทศ
พระองค์ทุ่มเทแรงทั้งชีวิตในการอธิษฐานต่อพระบิดา
เพื่อพระองค์จะมีกำลังเพียงพอที่จะกล้าหาญมั่นคงเดินไปบนเส้นทางแห่งพระประสงค์
แม้รู้อยู่เต็มอกว่าความตายยืนตระหง่านรอคอยอยู่ข้างหน้าก็ตาม
เพื่อพระองค์จะทอแสงแห่งความชื่นชมยินดีบนเส้นทางชีวิตที่ขรุขระ ทุกข์ยาก และความตาย
เพื่อพระองค์จะไม่หนี ละทิ้งพระราชกิจที่พระบิดาทรงมอบหมาย

บนเส้นทางชีวิตที่ขรุขระ ทุกข์ยาก ลำบาก และความมืดมน ในวันนี้
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเดินเคียงข้างไปกับท่านอย่างสงบ มั่นคง
บนเส้นทางชีวิตสายนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าประสงค์ให้ท่านส่องสว่างแห่งความปีติยินดี
เพื่อคนรอบข้างจะได้รับ “ความสว่างและไออุ่น” จากแสงแห่งความปีติชื่นชม

พระธรรมภาวนา

ยอห์น 16:22
ฉันใดก็ดี ขณะนี้ท่านทั้งหลายมีความทุกข์ แต่เราจะมาหาท่านอีก และใจท่านจะชื่นชมยินดี และไม่มีผู้ใดจะช่วงชิงความชื่นชมยินดีไปจากท่านได้

โรม 12:12
จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงอดทนต่อความยากลำบาก จงขะมักเขม้นอธิษฐาน

ฟิลิปปี 4:4
จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด

1 เปโตร 1:6
ในความรอดนั้นท่านทั้งหลายชื่นชมยินดี ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ จำเป็นที่ท่านจะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วขณะหนึ่งในการถูกทดลองต่างๆ

1 เปโตร 4:13
แต่ว่าท่านทั้งหลายจงชื่นชมยินดีในการที่ท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยากของพระคริสต์ เพื่อว่าเมื่อพระสิริของพระเจ้าปรากฏขึ้น ท่านทั้งหลายก็จะได้ชื่นชมยินดีเป็นอันมากด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น