30 พฤศจิกายน 2553

ทนทุกข์เพื่อการทรงกอบกู้

27สิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหาร โดยพระวิญญาณทรงนำ และเมื่อบิดามารดาได้นำพระ
กุมารเยซูเข้าไป เพื่อจะกระทำแก่พระกุมารตามธรรมเนียมแห่งธรรมบัญญัติ
28สิเมโอนจึงอุ้มพระกุมาร และสรรเสริญพระเจ้าว่า
29“ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้พระองค์ทรงให้ทาสของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์
30เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว
31ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าบรรดาชนชาติทั้งหลาย
32เป็นสว่างส่องแสงแก่คนต่างชาติ และเป็นศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค์”
33ฝ่ายบิดามารดาของพระกุมารก็ประหลาดใจ เพราะถ้อยคำซึ่งท่านได้กล่าวถึงพระกุมารนั้น
34แล้วสิเมโอนก็อวยพรแก่เขา แล้วกล่าวแก่นางมารีย์มารดาพระกุมารนั้นว่า
“ดูก่อน ท่านทรงตั้งพระกุมารนี้ไว้ เป็นเหตุให้หลายคนในพวกอิสราเอลล้มลงหรือยกตั้งขึ้น
และจะเป็นหมายสำคัญซึ่งคนปฏิเสธ 35เพื่อความคิดในใจของคนเป็นอันมากจะได้ปรากฏแจ้ง
ถึงหัวใจของท่านเองก็ยังจะถูกดาบแทงทะลุด้วย” (ลูกา 2:27-35)

จงให้ความสุข-ทุกข์ในแต่ละวันเป็นงานที่ท่านทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
ด้วยเหตุนี้พระวิญญาณแห่งพระพรก็จะบังเกิดขึ้นในทุกงานที่ท่านทำ
จงมอบถวายทุกวันแห่งการบริการรับใช้ของท่านแด่พระองค์
ท่านก็จะมีส่วนร่วมในชีวิตแห่งพระราชกิจของพระองค์
อันเป็นการมีส่วนร่วมการช่วยพระองค์ในการกอบกู้โลกนี้

มาเรีย และ โยเซฟ ได้ใช้ชีวิตประจำวันในการเลี้ยงดูพระกุมาร
ทั้งสองอาจจะไม่สามารถมองเห็นว่า งานนี้เป็นการร่วมในพระราชกิจของพระเจ้าอย่างไร
แต่มาเรียได้เอาคำเล่าของผู้เลี้ยงแกะ และ คำกล่าวของสิเมโอน รำพึงภาวนาอยู่ในใจ(2:19, 33-35)

การทำงานในชีวิตประจำวันของท่าน
ท่านอาจจะมองไม่เห็นว่านี่เป็นการช่วยกอบกู้โลกได้เช่นใด
แต่พลังอำนาจของผู้ทำงานด้วยความอุทิศถวายเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้านั้น
เป็นพลังร่วมในการกอบกู้ที่อยู่เหนือความสามารถที่จะเข้าใจได้ของมนุษย์ในโลกนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น