จงจดจำบทเรียนจากเมล็ดพืชให้ดี
เมื่อเมล็ดงอกราก
มันจะงอกและหยั่งลงไปในพื้นดิน
เพื่อที่จะเจาะลึกแผ่รากเกาะยึดออกเป็นวงกว้าง
ในขณะเดียวกันเมล็ดจะแตกหน่ออ่อนแทงขึ้นบนพื้นดิน
เติบโตเป็นลำต้น เกิดดอก และ ออกผล
จนเป็นสวนพฤกษาของโลกนี้
การเจริญเติบโตทั้งสองทางของเมล็ดพืชนั้น
เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น
ถ้าปราศจากรากที่แข็งแรงแผ่กว้าง
ต้นไม้ก็จะเหี่ยวเฉา
เฉกเช่นที่ท่านกระทำการได้หลายสิ่งหลายอย่าง
แต่มิได้เจริญเติบโตขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า
ยิ่งต้นไม้เจริญสูงใหญ่มากขึ้นแค่ไหน
รากของต้นไม้นั้นจะต้องหยั่งลึกและยึดเกาะอย่างแผ่กว้างมากขึ้นแค่นั้น
หลายคนที่หลงลืมบทเรียนนี้
งานของเขาจึงมิได้เกิดผลเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ท่านจงระวังว่าจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่มีใบและดอกแต่ปราศจากรากที่แข็งแรง
พระธรรมภาวนา
มาระโก 4:5-6
5บ้างก็ตกที่ซึ่งมีพื้นหินมีเนื้อดินแต่น้อย จึงงอกขึ้นโดยเร็ว เพราะดินไม่ลึก 6แต่เมื่อแดดจัด แดดก็แผดเผา เพราะรากไม่มี จึงเหี่ยวไป
เยเรมีย์ 17:8:
เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ
ซึ่งหยั่งรากของมันออกไปข้างลำน้ำ
เมื่อแดดส่องมาถึงก็ไม่กลัว
เพราะใบของมันคงเขียวอยู่เสมอ
และไม่กระวนกระวายในปีที่แห้งแล้ง
เพราะมันไม่หยุดที่จะออกผล
อิสยาห์ 27:6:
ในวันข้างหน้า ยาโคบจะหยั่งราก
อิสราเอลจะผลิดอกและแตกหน่อ
กระทำให้พิภพทั้งสิ้นมีผลเต็ม
โคโลสี 2:7:
จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ และมั่นคงอยู่ในความเชื่อ ตามที่ท่านได้รับคำสั่งสอนมาแล้ว และจงบริบูรณ์ด้วยการขอบพระคุณ
ลูกา 6:48:
เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น