29 ธันวาคม 2553

แหล่งพลังแห่งความแกร่งกล้า

อ่าน 1ซามูเอล 17:20-26; 28; 31-47 (สำนวนแปล อมตธรรมร่วมสมัย)

20ดาวิดทิ้งฝูงแกะไว้กับคนเลี้ยงอีกคนหนึ่ง แล้วออกเดินทางตามคำสั่งของเจสซีตั้งแต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นพร้อมด้วยของฝาก เขามาถึงค่ายพอดีกับที่กองทัพอิสราเอลกำลังจะยกออกไปสนามรบ มีเสียงตะโกนเสียงโห่ร้องออกศึก 21กองพลอิสราเอลและฟีลิสเตียก็มาตั้งกระบวนประจันหน้ากัน 22ดาวิดทิ้งข้าวของไว้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสัมภาระ แล้ววิ่งออกไปที่แนวรบและทักทายพวกพี่ๆ 23ขณะกำลังคุยกับพวกพี่ๆ โกลิอัทยอดนักรบชาวฟีลิสเตียจากเมืองกัทก้าวออกจากแถวมายืนร้องท้าเช่นเคย และดาวิดก็ได้ยิน 24ทันทีที่เห็นโกลิอัท คนอิสราเอลก็พากันวิ่งหนีด้วยความกลัวยิ่งนัก
25คนอิสราเอลพูดกันว่า “เจ้าเห็นคนนี้ไหม? เขาออกมาสบประมาทอิสราเอลอยู่เป็นประจำ กษัตริย์จะประทานทรัพย์สินมากมายให้แก่คนที่ฆ่าเขาได้ และจะยกธิดาให้เป็นภรรยา ยิ่งกว่านั้นครอบครัวของบิดาของเขาจะได้รับการยกเว้นภาษีด้วย”
26ดาวิดถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ว่า “ผู้ที่ฆ่าฟีลิสเตียคนนี้และกู้หน้าให้อิสราเอลจะได้รับบำเหน็จอะไรบ้าง? ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้เป็นใครกันถึงบังอาจมาร้องท้ากองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่?”...
28เมื่อเอลีอับ พี่ชายคนโตของดาวิดได้ยินดาวิดพูดกับคนนั้นก็โกรธ และถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วเจ้าทิ้งแกะไม่กี่ตัวในถิ่นทุรกันดารไว้ให้ใครดูแล? ข้ารู้ว่าเจ้าชอบคุยโวและรู้จักใจชั่วช้าของเจ้านึกอยากจะมาดูเขารบกันล่ะสิ”...
31มีผู้ได้ยินคำพูดของดาวิดจึงไปทูลรายงานซาอูล พระองค์จึงให้คนไปตามตัวดาวิดมาเข้าเฝ้า 32ดาวิดทูลซาอูลว่า “อย่าให้ผู้ใดเสียขวัญเพราะชาวฟีลิสเตียคนนี้เลย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปรบกับเขา”
33ซาอูลตรัสว่า “เจ้าออกไปสู้กับชาวฟีลิสเตียคนนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเป็นเพียงเด็ก ส่วนเขาเป็นนักรบมาตั้งแต่หนุ่ม”
34แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทดูแลแกะของบิดา เมื่อมีสิงโตหรือหมีมาคาบแกะไปจากฝูง 35ข้าพระบาทจะไล่ตามฟาดฟันช่วยแกะนั้นออกมาจากปากของสิงโต หากมันหันมาเล่นงาน ข้าพระบาทก็จะกระชากขนของมัน ฟาดมัน และฆ่าเสีย 36ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าทั้งสิงโตและหมีมาแล้ว ชาวฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้จะเป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้น เพราะเขามาสบประมาทกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ 37องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพระบาทจากเขี้ยวเล็บของสิงโตและหมี จะช่วยข้าพระบาทจากมือชาวฟีลิสเตียผู้นี้” ซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “ไปเถิด ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเจ้า”
38จากนั้นซาอูลก็ให้ดาวิดสวมเครื่องทรงของซาอูลเอง มีเสื้อเกราะและหมวกเกราะทองสัมฤทธิ์ 39ดาวิดสะพายดาบทับเสื้อเกราะ ลองเดินไปรอบๆ เพราะไม่คุ้นเคยกับชุดแบบนี้มาก่อน
ดาวิดทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทออกไปอย่างนี้ไม่ได้เพราะไม่เคยชิน” แล้วดาวิดก็ถอดชุดนั้นออก 40จากนั้นเขาหยิบไม้เท้าและไปเก็บหินเกลี้ยงห้าก้อนจากลำธารใส่ไว้ในย่ามของเขา ในมือถือสลิง เดินเข้าไปหาชาวฟีลิสเตียคนนั้น
41ขณะนั้น โกลิอัทเดินเข้ามาหาดาวิด มีคนแบกโล่เดินนำหน้า 42เมื่อเห็นดาวิดซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่ม รูปหล่อผิวพรรณดี ก็นึกดูหมิ่น 43 และกล่าวว่า “เห็นข้าเป็นหมาหรือไง ถึงได้ถือไม้เท้าออกมาหา” แล้วก็แช่งด่าดาวิดโดยอ้างนามเทพเจ้าต่างๆ ของตน 44โกลิอัทพูดว่า “มาสิ เดี๋ยวข้าจะแล่เนื้อเจ้าให้นกกาและสัตว์ป่ากิน!”
45ดาวิดพูดว่า “ท่านถือดาบ ถือหอก และหอกซัดมาสู้กับเรา ส่วนเราจะสู้กับท่านในพระนามของพระยาเวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าของกองทัพอิสราเอลซึ่งท่านลบหลู่ 46วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบท่านแก่เรา เราจะฆ่าและตัดหัวท่าน... แล้วทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าในอิสราเอล 47คนทั้งปวงที่ชุมนุมกันอยู่ที่นี่จะได้รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงช่วยให้รอดด้วยดาบหรือหอก การศึกครั้งนี้เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงมอบเจ้าทุกคนไว้ในมือของพวกเรา”

โกลิอัทนักรบพันธุ์ยักษ์ ยืนท้าทายกองทัพ และ พระเจ้าของอิสราเอลอย่างอหังการ และก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มีคนส่วนหนึ่งที่ไม่สนใจใยดีกับคำกล่าวเย้ยหยันที่ทำร้ายทำลายจิตใจของอิสราเอล ไม่มีใครต้องการที่จะยืนขึ้นต่อปากต่อกรกับคนหยาบคายป่าเถื่อนและคนพาลอย่างโกลิอัท นอกจากชายหนุ่มเลี้ยงแกะที่ชื่อดาวิดที่สนใจถามไถ่ถึงความเป็นไปของเหตุการณ์นี้ด้วยความห่วงใย

ดาวิดสนใจในรายละเอียดของเหตุการณ์วิกฤติ เพื่อประมวลให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์นั้น จะได้เผชิญหน้ากับความเลวร้ายนั้นด้วยความพร้อมรอบคอบ และสามารถเห็นถึงแผนการของพระเจ้าแล้วจะรู้ว่าตนมีส่วนร่วมในพระราชกิจของพระเจ้าครั้งนี้เช่นไรบ้าง

ดาวิดกับโกลิอัท! มวยคู่ต่อสู้ที่ผิดรุ่นผิดขนาด จนกลายเป็นเรื่องกล่าวขานกันมิใช่ในพระคัมภีร์เท่านั้นแต่ในวรรณกรรมของโลกด้วย แต่คำถามที่มักถามกันเป็นประจำคือ อะไรที่ทำให้ดาวิดมีความกล้าหาญยืนหยัดต่อสู้กับมวยข้ามรุ่น อะไรที่ทำให้ดาวิดกล้าหาญต่อสู้กับสิ่งที่ดูแล้วไม่มีทางที่จะเอาชนะได้?

อะไรที่ทำให้ดาวิดเกิดความกล้าหาญ? อะไรที่เสริมหนุนให้เขาก้าวไปข้างหน้าในขณะที่คนอื่นๆในกองทัพอิสราเอลถอยหนี? สิ่งที่ทำให้ดาวิดกล้าหาญและมีพลังเดินไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็งมั่นใจคือการที่เขารู้ชัดแน่ใจว่า สิ่งนั้นยิ่งใหญ่และมีพลังมากกว่าการรอดพ้นปลอดภัยของอิสราเอล, งานนี้ยิ่งใหญ่กว่าผลประโยชน์ ทรัพย์สินเงินทอง สถานภาพใหม่ที่ตนจะได้รับ, สิ่งนั้นยิ่งใหญ่และมีพลังอำนาจยิ่งกว่ามนุษย์พันธุ์ยักษ์โกลิอัท, และสิ่งนั้นยิ่งใหญ่และสูงส่งกว่าชีวิตของตน สิ่งที่ทำให้ดาวิดมีพลังก้าวไปข้างหน้าคือ ชีวิตที่มีเป้าหมายให้เกิดการยกย่องสรรเสริญพระเจ้า

ท่านพร้อมและเต็มใจที่จะยืนขึ้นลุกก้าวไปข้างหน้าอย่างชายหนุ่มดาวิด เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งท้าทายที่น่าสยอง กับการกล่าวหา คำพูดที่ทำให้อ่อนอกอ่อนใจ การไม่เห็นด้วย หรือคำทำนายว่าแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง และการกดดันจากคนพวกเดียวกันเอง หรือการที่ทำให้ท่านต้องรู้สึกโดดเดี่ยวตัวคนเดียว ในเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจถึงการถวายเกียรติแด่พระเจ้าเลย

ในสภาพการวิกฤติเช่นนั้น พระเจ้าได้ใช้สร้างให้เราแกร่งกล้าขึ้นอย่างดาวิด สถานการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ในชั้นเรียน ในที่ทำงาน ในโรงงาน ในสำนักงาน ในตลาด ในท้องทุ่งท้องนา ในชุมชน ในบ้าน หรือแม้กระทั่งในคริสตจักร พระเจ้าจะทรงใช้เหตุการณ์เหล่านั้นสร้างท่านให้แกร่งกล้าขึ้นเช่นกัน

ผู้คนในแต่ละกลุ่มแต่ละช่วงวัย แต่ละยุคแต่ละสมัยต่างมีจุดอ่อนข้อบกพร่อง และความไม่สมบูรณ์ในชีวิตแห่งการอุทิศตนแด่พระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง แต่ถ้าแต่ละคนเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อเหตุการณ์รอบด้าน และรู้ชัดว่าเป้าหมายของการเผชิญหน้ากับความเลวร้ายที่รายรอบในชีวิตเป็นโอกาสที่จะสรรเสริญพระเจ้า และพระเจ้าการทรงสร้างชีวิตเราขึ้นใหม่แล้ว ท่าที ความมั่นใจ ความกล้าหาญ และกำลังชีวิตย่อมเปลี่ยนไปให้เห็นอย่างเด่นชัด

แต่เหนือสิ่งอื่นใด การมุ่งมองสู่การดำเนินชีวิตที่ถวายเกียรติและพระสิริแด่พระเจ้าในทุกสถานการณ์และทุกบริบทชีวิตนั้นสำคัญใหญ่ยิ่งที่สุด เพราะสิ่งนี้นี่เองที่จะทำให้ท่านสามารถยืนหยัดมั่นคง ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างดาวิด แทนที่ท่านจะมีชีวิตที่หลอมละลายถูกกลืนเข้าไปในฝูงชนส่วนใหญ่

ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ทำให้เราลืมตัวและหลงกับความทันสมัยในเทคโนโลยีด้านต่างๆ พอเราไม่สามารถไล่ตามทันเทคโนโลยีเหล่านั้นเราก็จะท้อถอย อ่อนใจ และยอมแพ้ ในปีใหม่นี้อย่าลืมสิ่งสำคัญกว่าเทคโนโลยีที่พระเจ้าทรงสะสมเสริมสร้างไว้ในตัวท่านคือ ศักยภาพ ความสามารถ ของประทานพิเศษ ความชำนาญช่ำชองและสิ่งคุ้นชินที่มีอยู่ในตัวท่าน ท่านสามารถนำออกมาใช้ได้ทันทีที่ต้องการ เมื่อท่านใช้ศักยภาพความสามารถที่พระเจ้าประทานให้ ท่านตระหนักรู้ชัดเจนทันทีว่า การเผชิญหน้าวิกฤตินั้นๆ พระเจ้าทรงเป็นผู้ขับเคลื่อนจัดการและท่านเป็นเพื่อนร่วมในแผนงานของพระองค์ อย่างที่ดาวิดประกาศก้องว่า การศึกครั้งนี้เป็นของพระเจ้า

ดาวิดต้องปฏิเสธในการสวมชุดออกศึกที่สามารถปกป้องคุ้มครองให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตของเขาเมื่อมีการต่อสู้ เพราะดาวิดไม่ “คุ้นชิน” กับความทันสมัยเหล่านั้น แต่ดาวิดเลือกใช้สลิงและหินเกลี้ยงเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ เพราะเป็นสิ่งที่ดาวิดคุ้นชิน เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงเสริมสร้างสะสมในชีวิตของ ดาวิด เขานำมาใช้ยามเมื่อวิกฤติดาหน้าเข้าหาชีวิตของตน แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ท่านต้องมั่นใจว่าการเผชิญหน้ากับทุกปัญหา เหตุการณ์ยากลำบาก และวิกฤติที่เลวร้าย ผู้ที่นำหน้าท่านคือองค์พระผู้เป็นเจ้า ด้วยเป้าหมายและแผนการของพระองค์ ภารกิจหลักของท่านคือการเรียนรู้ถึงเป้าประสงค์และแผนงานเฉพาะของพระเจ้า เพื่อท่านจะเข้าร่วมในพระราชกิจของพระองค์อย่างเหมาะสมตามพระประสงค์ของพระองค์

ในการมุ่งหน้าก้าวเข้าสู่ปีใหม่นี้
ให้ท่านยืนมั่นก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยพลังที่มาจากมุมมองใหม่
มุมมองที่มุ่งมั่นมีชีวิตที่ทำทุกอย่างเพื่อถวายพระเกียรติและพระสิริแด่พระเจ้า
มุมมอง ที่ท่านมิได้เป็นผู้จัดการกับ “ปัญหาพันธุ์ยักษ์” ที่ท้าทายข้างหน้าท่าน
มุมมอง ที่พระเจ้าทรงเป็นผู้ลงมือจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ตามพระประสงค์
มุมมอง ที่ท่านเป็นผู้ร่วมในพระราชกิจของพระองค์ และ ร่วมในชัยชนะของพระองค์
มุมมอง ที่ท่านกำลังรับการฝึกฝนและเพิ่มพูนความแข็งแกร่งจากพระองค์มากยิ่งขึ้น
มุมมอง ที่ท่านกำลังทำสิ่งที่ถวายเกียรติและพระสิริแด่พระเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น