และบัดนี้ลูกทั้งหลายเอ๋ย จงอยู่ในพระองค์…
(1ยอห์น 2:28 มตฐ.)
คนที่เคยปลูกและดูแลต้นไม้ย่อมรู้ดีว่า
กิ่งจะเกิดดอกออกผลได้ก็ต่อเมื่อกิ่งนั้นยังติดสนิทอยู่กับลำต้น แต่ถ้ากิ่งไหนถูกตัดให้ขาดจากลำต้น กิ่งนั้นก็ไม่สามารถเกิดผล ทำไมหรือ?
เพราะท่อน้ำเลี้ยงที่ส่งอาหารจากรากขึ้นลำต้นและจากลำต้นที่ไปเลี้ยงกิ่งก้านเล็กใหญ่ถูก
“ตัดขาด”
ดังนั้นจึงไม่มีอาหารหรือน้ำเลี้ยงไปเป็นอาหารเลี้ยงกิ่งนั้น กิ่งจึงต้องติดสนิทแนบกับลำต้น มีท่อน้ำเลี้ยงจากลำต้นไปยังส่วนต่าง ๆ ของกิ่ง เพื่อน้ำเลี้ยงจะสามารถเข้าไปอยู่ในกิ่งนั้นแล้วเป็นอาหารเลี้ยงกิ่งนั้นให้มีชีวิต
เติบโต แข็งแรง เกิดดอกออกผลได้
ชีวิตคริสตชนก็เช่นกัน พระเยซูคริสต์ชี้ประเด็นนี้แก่สาวกว่า “เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง
ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา
ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก
เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” (ยอห์น 15:5, 1971) ในที่นี้พระเยซูคริสต์ชี้ชัดลงไปว่า มิใช่แค่ให้กิ่งติดอยู่กับลำต้นเท่านั้น
แต่ท่อน้ำเลี้ยงจากลำต้นต้องต่อสนิทและสามารถเป็น “ท่อ” ส่งน้ำเลี้ยงจากลำต้นไปเลี้ยงบำรุงกิ่งได้อย่างดีด้วย
ที่กล่าวเช่นนี้เพราะพระเยซูคริสต์อธิบายว่า “ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเรา และ
เราเข้าสนิทอยู่ในผู้นั้น” จะเกิดผลมาก
ขอตั้งข้อสังเกตว่า
มิเพียงแต่ให้เราเข้าสนิทในพระเยซูเท่านั้น แต่พระเยซูคริสต์เข้าสนิท “อยู่ในผู้นั้น”
ด้วย ในที่นี้หมายความว่า
แค่การที่กิ่งอยู่ติดกับต้นนั้นไม่เพียงพอ
แต่อาหารจากลำต้นต้องสามารถส่งผ่านเข้าไปเลี้ยงกิ่งนั้น ๆ ได้ด้วย คำที่สำคัญที่พระคริสต์ชี้ชัดคือ
“เราเข้าสนิทอยู่ในเขา”
คือการที่พระเยซูคริสต์เข้าสนิทและอยู่ในชีวิตของเราแต่ละคน
และที่เราเกิดผลเพราะพระคริสต์เป็นผู้กระทำพระราชกิจในชีวิตของเรา
นั่นหมายความว่า การที่คริสตชนแต่ละคนสามารถเติบโต เข้มแข็ง
และเกิดดอกออกผลได้นั้น เพราะพระคริสต์ทรงสถิตและเป็นน้ำเลี้ยงชีวิตของคริสตชนคนนั้น
ๆ พระองค์กระทำให้ชีวิตที่เข้าไปอยู่ด้วยนั้นเติบโต และพระวิญญาณของพระเจ้าทรงเป็นกำลังที่เข้มแข็งของเขา แล้วพระคริสต์ทรงกระทำให้ชีวิตของเขาให้เกิดผลตามพระประสงค์ของพระองค์
ถ้าเช่นนั้น คริสตชนคงต้องกลับมาพิจารณาถึงชีวิตที่
“ติดสนิทกับพระเจ้า” ให้ถ้วนถี่อีกสักครั้งหนึ่ง
ทุกวันนี้เราติดสนิทกับพระเจ้าในระดับไหน?
เราติดสนิทกับพระเจ้าเพราะเราอธิษฐานทุกวัน เราไปนมัสการพระเจ้าในเช้าวันอาทิตย์ เราไปร่วมกลุ่มแจกใบปลิว เราไม่ขาดการถวายทรัพย์ ฯลฯ แต่ขอถามว่า แล้วพระเยซูคริสต์
เข้าไปเป็นน้ำเลี้ยงในชีวิตประจำวันของเราหรือไม่? พระเยซูคริสต์ทรงกระทำพระราชกิจในชีวิตของเราหรือไม่?
พระเจ้าทรงเป็นกำลังในทุกสถานการณ์ชีวิตของเราหรือไม่?
ท่านได้เปิดชีวิตให้พระคริสต์เข้าสนิทอยู่ในชีวิตของท่านแล้วหรือยัง?
เราอาจจะทำศาสนพิธีในรูปแบบต่าง
ๆ มากมายเป็นประจำ
แต่เราต้องให้ท่อน้ำเลี้ยงชีวิตจากพระคริสต์เข้าในชีวิตของเราเป็นท่อที่ต่อติดสนิทกับพระคริสต์ที่น้ำเลี้ยงชีวิตจากพระองค์สามารถไหลเข้าในชีวิตของเราได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือ การที่เรายอมเปิดชีวิตของเราให้พระคริสต์ทรงกระทำพระราชกิจตามพระประสงค์ของพระองค์
เพื่อชีวิตของเราจะเกิดดอกออกผลตามที่พระองค์ทรงต้องการ
(มิใช่ที่เราปรารถนา)
จากประสบการณ์ชีวิตในพระเยซูคริสต์ การติดสนิทกับพระเจ้า
และพระคริสต์ทรงเข้าอยู่ในชีวิตและกระทำพระราชกิจในชีวิตของเรานั้น เป็นประเด็นและจุดประสงค์หลักของการที่เราเชื่อศรัทธาในพระเยซูคริสต์
แต่เป็นสิ่งที่ต้องปล้ำสู้มาตลอดเวลาของชีวิต ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากมากในชีวิตคริสตชน ทั้งนี้เพราะพลังอำนาจแห่งความบาปชั่วในรูปแบบต่าง
ๆ ที่แผ่ขยายครอบงำในโลกนี้ จะต่อต้านขัดขวางทุกหนทางเพื่อมิให้คริสตชนติดสนิทกับพระเจ้าจนเปิดชีวิตให้พระคริสต์เข้าไปครอบครองในชีวิตของตน เพราะนั่นเท่ากับอำนาจบาปชั่วต้องพ่ายแพ้
ดังนั้นมารจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้คริสตชนรู้สึกสบายใจที่ได้ทำความดี ที่ได้ทำศาสนพิธี แต่จะมีพลังขวางต้านทุกครั้งเมื่อเราคิดจะเอาจริงเอาจังที่จะให้พระคริสต์เป็นใหญ่ในชีวิตของตน และประเด็นที่ต้องระวังคือ การที่คริสตจักรพยายามจัดให้มีกิจกรรมมากมายที่จะทำในคริสตจักร
แล้วทำให้สมาชิกรู้สึกสบายใจที่ได้ร่วมในกิจกรรมเหล่านั้น ระวังที่คริสตจักรจะมีงานมากมายจนไม่สามารถที่จะช่วยให้สมาชิกของตนเรียนรู้ที่จะมี
“ท่อน้ำเลี้ยงชีวิต”
ที่ต่อติดสนิทจนน้ำเลี้ยงชีวิตจากพระคริสต์เข้ามาอยู่ในชีวิตของสมาชิก และให้พระคริสต์กระทำพระราชกิจในชีวิตของคริสตชนแต่ละคน
คริสตชนต้องระวังว่า เราอาจจะง่วนอยู่กับการกระทำความดีให้ผู้คนพอใจ
และตนเองภูมิใจ ใช้เวลากับศาสนพิธี ทำกิจกรรมมากมายที่คริสตจักรได้จัดขึ้น จนเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าในวันอาทิตย์ และต้องระวังว่า
เรากำลังทำผิดพระมหาบัญญัติที่ว่า
รักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจและความนึกคิดของเรา เพราะเรามิได้มีพระเจ้าทรงเป็นเอกเป็นต้นในชีวิตของเรา แต่เรากลับไปให้สิ่งอื่นที่ทำเป็นเรื่องสำคัญกว่าการที่จะมีชีวิตที่พระเจ้าทรงเป็นผู้ครอบครอง
การตัดท่อน้ำเลี้ยงแห่งชีวิตจากพระคริสต์ คือการแยกขาดคริสตชนออกจาการติดสนิทกับพระคริสต์
ขวางการทำงานของพระคริสต์ในชีวิตคริสตชน และนี่คือยุทธการของมารที่ต้องการทำให้ชีวิตของคริสตชนแห้งเฉาไปในที่สุด ไม่มีกำลังในตนเอง ง่ายที่มารจะครอบงำตามใจปรารถนาของมันต่อไป
ประเด็นใคร่ครวญ
- ทุกวันนี้เราได้ทุ่มเท และ ทำอะไรบ้างที่ให้เวลามากกว่าการติดสนิทสัมพันธ์ให้พระคริสต์ เพียงมีเวลาอ่านพระคัมภีร์ อธิษฐาน ร่วมนมัสการเช้าวันอาทิตย์ ประกอบศาสนพิธี หรือร่วมกิจกรรมคริสตจักร?
- ท่านทำอะไรที่แสดงถึงการที่ท่านให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ ของการมีชีวิตที่เติบโต แข็งแรง และเกิดผลในจิตวิญญาณ? ท่านคิดว่าอะไรคือรากฐาน หรือ สาเหตุหลักของการเติบโต แข็งแรง เกิดผลในชีวิตท่าน?
- ท่านคิดว่า ท่านจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในชีวิต ที่ท่านจะมีชีวิตที่ติดสนิทกับพระคริสต์ จนพระคริสต์สนิทและทำพระราชกิจในชีวิตของท่าน?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ