06 มกราคม 2558

ชีวิตใหม่...เริ่มที่ความคิดจิตใจ!

จุดเริ่มต้นที่มนุษย์ตกใต้การครอบงำของอำนาจแห่งความบาปชั่ว  เริ่มต้นจากความคิดและความรู้สึกจากใจของเขาคนนั้นที่ต้องการเป็นเหมือนพระเจ้า   ต้องการให้ตนเองมีอำนาจเหมือนพระเจ้า   จนทำให้ยอมตัดสินใจที่กล้าขัดขืนหรือไม่เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้า   พลังอำนาจแห่งความบาปชั่วเข้ามาครอบงำในชีวิตของมนุษย์ด้วยการกำกับควบคุมกระบวนการคิดของมนุษย์   และพลังจากความคิดนั้นเองที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของมนุษย์   การตัดสินใจนำสู่การกระทำแม้จะขัดต่อพระบัญชาของพระเจ้าก็ตาม   เพราะในเวลาที่ความคิดของมนุษย์ถูกครอบงำจากอำนาจของบาปผิด   มนุษย์คิดว่าตนเป็นใหญ่ในชีวิตของตนแทนพระเจ้าที่ทรงเป็นเอกเป็นตันในชีวิตของเขา

ก่อนที่พระเจ้าจะทรงให้น้ำท่วมโลกในสมัยโนอาห์   พระเจ้าทรงเห็นว่า “...​ความ​ชั่ว​ร้าย​ของ​มนุษย์​มี​มาก​บน​แผ่น​ดิน และ​ทรง​เห็น​ว่า​เค้า​ความ​คิด​ใน​ใจ​ทั้ง​หมด​ของ​เขา​ล้วน​เป็น​เรื่อง​ชั่ว​ร้าย​ตลอด​เวลา” (ปฐมกาล 6:5 มตฐ.)

เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาในโลกนี้เพื่อสานต่อพระราชกิจของพระบิดา   อันเป็นพระราชกิจแห่งการกอบกู้  พลิกฟื้นและการทรงสร้างใหม่นั้น   จุดเริ่มต้นประการแรกในพระราชกิจของพระเยซูคริสต์คือ  พระองค์ทรงประกาศเรียกร้องให้มนุษย์ “จงกลับใจเสียใหม่”   เพราะแผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้แล้ว

รากศัพท์ของคำว่า “กลับใจใหม่” ในภาษากรีก  มีความหมายว่าให้เปลี่ยนวิธีคิด
  • ให้เปลี่ยนวิธีคิด และ ความคิดของเรา  
  • ให้คิดแตกต่างจากวิธีที่เคยคิด หรือ ที่คุ้นชินกับความคิดนั้น  
  • ปรับเปลี่ยนกรอบคิด มุมมองเสียใหม่  


เมื่อความคิดและวิธีคิดของใครเปลี่ยนไป   แน่นอนว่า ท่าที การแสดงออก  การกระทำก็จะเปลี่ยนไปด้วย   ดังนั้น การที่ชีวิตของเราจะเกิดผลเช่นไรก็จะต้องเริ่มต้นเปลี่ยนที่ความคิดและวิธีคิด    เพราะวิธีคิดและความคิดมีอิทธิพลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตของเรา  

ดังนั้น   การที่จะให้ชีวิตของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงและเป็นชีวิตที่เกิดผลตามพระประสงค์ของพระเจ้า   สิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนแปลงคือ   ต้องเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิธีคิด  เปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในหัว และ ในจิตใจของเราก่อน   และนี่คือสิ่งแรกที่จะต้องเกิดขึ้น

เปาโลชี้ชัดว่า  การที่มนุษย์เรามีชีวิตที่แปลกแยกตัดขาดจากพระเจ้า  สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือเกิด “สงคราม” หรือ “การต่อสู้กัน” ในความคิดจิตใจของเรา​   “...เมื่อ​ก่อน​นี้​พวก​ท่าน​ถูก​ตัด​ขาด​จาก​พระ​เจ้า และ​เป็น​ศัตรู​ใน​ใจ​โดย​การ​ทำ​ชั่ว​ต่าง ๆ ” (โคโลสี 1:21 มตฐ.)   และการที่มนุษย์ดำเนินชีวิตหรือประพฤติที่ผิดและไม่เหมาะสมก็เพราะมนุษย์มี “จิตใจที่เสื่อมทราม” (โรม 1:28 มตฐ.)   และครั้งเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงดุว่าเปโตร  ถึงขนาดเรียกว่าซาตาน   เพราะเปโตร  “ไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า”  แต่เขา “คิดอย่างมนุษย์” (มัทธิว 16:23 มตฐ.)   เมื่อมนุษย์คิดแตกต่างจากพระเจ้าก็เพราะความคิดของมนุษย์ถูกครอบงำจากอำนาจแห่งความบาปชั่ว

พระคัมภีร์กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงพลิกฟื้นความคิดเป็นเหมือนการเปลี่ยนแปลงและพลิกฟื้นชีวิตของเรา   กล่าวคือเราจะต้องมี “ความคิดและวิธีคิดแบบพระคริสต์”  หรือ “มีจิตใจ (คิดและรู้สึก) ที่เป็นเหมือนพระคริสต์” หรือ  “มีพระทัยพระคริสต์” (1โครินธ์ 2:16 มตฐ.) 

เปาโลกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า   การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง “จิตใจ” ของเรานั้นทำให้เราได้เรียนรู้ว่า  อะไรคือพระประสงค์ของพระเจ้า(ดู โรม 12:2 อมต.)  การที่เราได้ “​...​รับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​จิต​ใจ”   ส่งผลให้เราเกิดการเปลี่ยนแปลงด้าน​อุป​นิสัย​ (โรม 12:2 มตฐ.)     

ตลอดพระคัมภีร์ทั้งเล่มสิ่งที่เราพบและเรียนรู้คือ  สิ่งที่เกิดขึ้นกับวิธีคิดและความคิดของมนุษย์สร้างผลกระทบต่อทั้งชีวิตของมนุษย์  สังคมมนุษย์  และสภาพแวดล้อมทั้งสิ้นของมนุษย์ด้วย   เราคิดอย่างไรเราก็จะมีชีวิตเช่นนั้น   การคิดคือตัวกำหนดเป้าหมายปลายทางชีวิตของเรา   ถ้าเราคิดอย่างพระคริสต์เราก็จะมีชีวิตอย่างพระคริสต์   และผลที่ตามมาคือเราจะมีเป้าหมายชีวิตที่ร่วมสานต่อพระราชกิจแห่งการพลิกฟื้นและการทรงสร้างใหม่ของพระคริสต์

ดังนั้น ภารกิจหลักของการสร้างสาวกของพระคริสต์คือ   การที่ช่วยให้สาวกเหล่านั้นได้รับการเปลี่ยนแปลงความคิดจิตใจจากพระคริสต์   ซึ่งมีสองประการที่สำคัญในกระบวนการนี้คือ

ประการแรก  ให้ชีวิตของคน ๆ นั้นเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์   ดำเนินชีวิตด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์   คือเป็นชีวิตที่ได้รับการเติมเต็มให้เป็นชีวิตที่มีเป้าหมายตามน้ำพระทัยของพระคริสต์   และได้รับพระกำลังหนุนเสริมให้สามารถกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์

ประการที่สอง   ชีวิตของคน ๆ นั้นต้องจับจ้องมุ่งมองที่พระเยซูคริสต์  รัก ใคร่ครวญ ไตร่ตรองถึงพระคริสต์   “...(ให้เรา)​มอง​ดู​พระ​รัศมี​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า แล้ว​เรา​ก็​ได้​รับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ให้​เป็น​เหมือน​พระ​ฉายา​ของ​พระ​องค์​โดย​มี​ศักดิ์​ศรี​เป็น​ลำ​ดับ​ขึ้น​ไป เหมือน​อย่าง​ศักดิ์​ศรี​ที่​มา​จาก​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ทรง​เป็น​พระ​วิญ​ญาณ” (2โครินธ์ 3:18 มตฐ.)    ยิ่งเรามุ่งมองจับจ้องคิดไตร่ตรองถึงองค์พระคริสต์มากเท่าใด   เราก็จะมีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นเท่านั้น   เราจะคิดอย่างที่พระองค์คิด   เพราะวิธีคิดและความคิดของพระองค์จะซึมซับเข้าไปในความคิดของเรา   แล้วการมีชีวิตของพระคริสต์ก็จะแผ่ซ่านเข้าไปทั่ววิถีการดำเนินชีวิตของเรา

ความคิดของเรา วิธีคิดของเราจะเปลี่ยนแปลงเมื่อเราดำเนินชีวิตเคียงข้างไปกับพระองค์  เมื่อถึงเวลานั้น  เราไม่จำเป็นที่จะต้องลงแรงทุ่มเทสุดกำลังในการเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของเรา   เพราะเมื่อความคิดและวิธีคิดของเราเปลี่ยนไปเป็นเหมือนพระคริสต์  สิ่งอื่น ๆ ในชีวิตก็จะเปลี่ยนแปลงตามมาด้วย

ปีใหม่นี้เราต้องเริ่มต้นที่จะยอมรับการเปลี่ยนความคิดและวิธีคิดไปเป็นอย่างพระคริสต์!

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น