8อับรามจึงพูดกับโลทว่า
“ขออย่าให้เราและคนเลี้ยงสัตว์ของเราทะเลาะกันเลย
เพราะเราเป็นญาติสนิท 9ที่ดินทั้งหมดอยู่ตรงหน้าเจ้าไม่ใช่หรือ?
ขอให้เจ้าแยกไปจากเราเถิด ถ้าเจ้าไปทางซ้ายเราก็จะไปทางขวา
หรือเจ้าจะไปทางขวา เราก็จะไปทางซ้าย” (ปฐมกาล 13:8-9 มตฐ.)
พระเจ้าทรงเมตตากรุณา ในทุกสถานการณ์ชีวิตทั้งความสุขรุ่งเรือง หรือ
ในความสูญเสีย หลงทาง
พระเจ้าทรงใช้ทุกสถานการณ์เหล่านั้นที่จะสร้างคน ๆ นั้นขึ้นใหม่ได้ แม้คน ๆ นั้นจะเคยไม่ได้ไว้วางใจในพระองค์ในบางครั้ง
แต่ถ้าเขายังมีใจที่จะติดตามการทรงนำและพระประสงค์ของพระองค์ พระเจ้าก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และ
เสริมสร้างเขาขึ้นใหม่ อย่างเช่นอับราม
เป็นต้น
ในปฐมกาลบทที่ 12
เราได้พบว่า อับรามได้วางอุบายที่เอาตัวรอด แต่ซารายต้องได้รับความเจ็บปวด และ
ความทุกข์ยากจากอุบายดังกล่าวของอับราม
แต่จากเหตุการณ์ครั้งนั้น
อับรามได้เรียนรู้อย่างชัดเจนว่า
พระเจ้าทรงไปเคียงข้างเขาในทุกที่ ทุกสถานการณ์ พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและชอบธรรม แม้อับรามไม่ได้ไว้วางใจพระองค์ในครั้งที่เข้าไปในอียิปต์ จนเกิดเหตุร้ายแก่ซารายภรรยาของเขา แต่โดยพระคุณเมตตาของพระองค์ทรงช่วยกู้ซารายออกจากการตกเป็นเหยื่อของความหายนะ
แล้วพระองค์กลับอวยพระพรด้านทรัพย์สินมากมายแก่ครอบครัวของเขา
อับรามได้ค่อย ๆ รับการเสริมสร้างใหม่จากพระเจ้า เขาได้เรียนรู้ที่จะไว้วางใจพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจและสุดชีวิตของเขา อับรามเป็นผู้นำคนใหม่
ในปฐมกาลบทต่อมา คือบทที่ 13 เราพบอับรามผู้นำคนใหม่
จากผู้นำที่คิดอุบายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
โดยไม่คิดถึงผลเสียหายและความสูญเสียของของซารายภรรยาของตน แต่ได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำที่มีจิตใจเมตตา และเชื่อศรัทธาไว้วางใจในพระเจ้าอย่างสุดใจ
เมื่ออับรามและครอบครัวทั้งสิ้นของเขาได้รับพระพรมากมาย
จนมีฝูงสัตว์เลี้ยงจำนวนมากจนทุ่งหญ้ามีไม่เพียงพอสำหรับฝูงสัตว์เลี้ยงของอับราม
และ โลทหลานชายของอับราม จนคนเลี้ยงสัตว์ของทั้งอับราม และ
โลทเกิดการทะเลาะแก่งแย่งทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และแหล่งน้ำเลี้ยงสัตว์
ด้วยความเป็นผู้นำที่ต้องการยุติความขัดแย้ง และรักษาสัมพันธภาพ
อีกทั้งให้ฝูงสัตว์เลี้ยงได้มีทุ่งหญ้าที่เพียงพอ อับรามเห็นความจำเป็นที่จะต้องแยกการนำออกโดยต่างมีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่พอเพียงสำหรับฝูงสัตว์เลี้ยงของตน
ท่านจึงเปิดโอกาสให้โลทผู้เป็นหลานเป็นผู้เลือกพื้นที่และทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่โลทต้องการก่อน ส่วนท่านก็จะรับเอาส่วนที่เหลือ
โลทเลือกพื้นที่อุดมสมบูรณ์บริเวณที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดนทั้งหมด ส่วนอับรามจึงเคลื่อนย้ายคาราวานของตนไปยังแผ่นดินคะนาอัน
อะไรที่ทำให้อับรามเปลี่ยนแปลงชีวิตและวิถีการเป็นผู้นำมากมายถึงเพียงนี้
อะไรที่เปลี่ยนอับรามจากการเป็นผู้นำที่เห็นแก่ตัว ที่มิได้ไว้วางใจในพระเจ้า แต่กลับจัดการด้วยอุบายตนเอง จนเกิดความเพลี่ยงพล้ำ เกือบต้องสูญเสียทั้งภรรยาและคาราวาน
มาเป็นผู้นำที่มีจิตใจเมตตาและศรัทธาไว้วางใจในพระเจ้า?
สิ่งที่เปลี่ยนอับรามมากมายเช่นนี้ก็เพราะพระเมตตาคุณแห่งการทรงช่วยกู้ของพระเจ้า
ที่ทำให้อับรามไว้วางใจในพระเจ้าที่มากยิ่งขึ้น เขามั่นใจในการเคียงข้างของพระเจ้าในทุกสถานการณ์ชีวิตของเขา
นอกจากที่เขาจะไม่เป็นผู้นำที่เห็นแก่ตัวอย่างที่เคยเป็นเท่านั้น
แต่กลับเปลี่ยนเป็นผู้นำที่มีจิตใจเมตตากว้างขวาง
ให้โอกาสแก่โลทเป็นผู้เลือกพื้นแผ่นดินที่อุดมก่อน
ที่อับรามเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำได้มากเช่นนี้ เพราะประสบการณ์ในความรักเมตตาของพระเจ้า
ทำให้เขาเป็นผู้นำที่สำนึกในความรักเมตตาของพระเจ้า
ในบทนี้
อับรามเป็นผู้นำที่ห่วงหาอาทรถึงความอยู่ดีมีสุขของผู้อื่น
เป็นผู้นำที่ให้โอกาสแก่คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาที่จะเลือกและตัดสินใจ เป็นผู้นำที่เคารพในการตัดสินใจของทีมงาน
เป็นผู้นำที่รักสัมพันธภาพมากกว่าผลประโยชน์แห่งตน เป็นผู้นำที่พร้อมจะก้าวไปในทุกที่เพราะมั่นใจในการทรงเคียงข้างของพระเจ้า
ใคร หรือ ผู้นำคนไหนก็ตาม แม้เขาเคยพยายามวางแผนวางอุบายเพื่อตนเอง แล้วพบความล้มเหลวมาแล้วก็ตาม แต่ผู้นำคนนั้นยังต้องการที่จะติดตามการทรงเรียกของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างคน ๆ นั้นให้เป็นผู้นำคนใหม่ได้
เราพร้อมไหมที่จะมุ่งมั่นที่จะติดตามการทรงเรียกของพระเจ้า
และยอมตนรับการทรงเปลี่ยนแปลงและสร้างใหม่จากพระองค์ อย่างที่พระเจ้าทรงกระทำในชีวิตของอับราม?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น