10 พฤศจิกายน 2558

เมื่อผู้นำต้องประสบความสิ้นหวัง

27เวลา​เช้า​มืด​อับ​รา​ฮัม​ออก​ไป​ยัง​ที่​ที่​ท่าน​ยืน​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์​เวห์  28ท่าน​มอง​ลง​ไป​ทาง​เมือง​โสโดม​และ​เมือง​โก​โม​ราห์ และ​ที่​ดิน​แดน​ทั้ง​หมด​ใน​ที่​ลุ่ม ก็​เห็น​แผ่น​ดิน​ลุก​เป็น​ควัน​พลุ่ง​ขึ้น​เหมือน​ควัน​เตา​เผา (ปฐมกาล 19:27-28 มตฐ.)

ในฐานะคริสตชน  ถ้ามีฐานะตำแหน่งในการเป็นผู้นำไม่ว่าจะเป็นในคริสตจักร  ในโรงเรียน  ในโรงพยาบาล ในหน่วยงาน หรือ แม้แต่ในหน้าที่การงานทางธุรกิจหรือองค์กร   ผมเชื่อว่าทุกคนคงคาดหวังว่าตนต้องการเห็นผลที่เกิดขึ้นจากการที่ตนได้ลงทุนลงแรงในการนำงานนั้น ๆ ที่ตนรับผิดชอบ   ท่านคงต้องการเห็นความก้าวหน้าเกิดผลและพอใจในความสำเร็จ   แม้เราจะรู้อยู่กะใจว่า ความสำเร็จก้าวหน้าดังกล่าวจะมิใช่มาจากการทำงานหนักของเราเท่านั้น  แต่เพราะพระคุณของพระเจ้าในชีวิตและการงานของเราด้วย

แล้วท่านจะรู้สึกอย่างบ้าง  ถ้าท่านได้ลงทุนลงแรงในฐานะผู้นำในงานที่ทำแต่ไม่เกิดผลเลยตามที่คาดหวัง   ทั้ง ๆ ที่ท่านได้ลงทุนลงแรงทั้งสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด  ทุ่มทั้งกำลังกายกำลังใจที่พยายามขับเคลื่อนงานด้วยวิถีแนวทางต่าง ๆ แต่ไม่เกิดผลตามที่ท่านคาดหวัง

อับราฮามได้เรียนรู้ทั้งความชื่นชมยินดีและความทุกข์เศร้าใจในการเป็นผู้นำ   ที่ผ่านมาเราได้เห็นถึงความพยายามของอับราฮามที่ต่อรองแสวงหาทางที่จะช่วยเมืองโสโดมให้รอดพ้นจากการถูกทำลาย    และเมื่อพระเจ้าสัญญากับอับราฮามว่า ถ้ามีคนชอบธรรมในเมืองโสโดม 10 คนพระองค์จะไม่ทำลายเมืองโสโดม   คำสัญญานั้นทำให้อับราฮามดีใจเป็นเหมือนการพยายามของตนได้ผล   นอกจากที่เมืองโสโดมจะไม่ถูกทำลายแล้ว   หลานและครอบครัวของเขาก็จะได้ปลอดภัยจากการถูกทำลายของเมืองโสโดมด้วย

แต่พอรุ่งเช้าวันใหม่  เมื่ออับราฮามตื่นขึ้น   แล้วไปยังสถานที่ที่เขาได้สนทนาต่อรองกับพระเจ้าและได้รับคำสัญญาที่พระเจ้าทรงเมตตาแก่เมืองโสโดมและโกโมราห์   ถ้าพระเจ้าพบ 10 คนที่ชอบธรรมในเมืองโสโดม  เมืองนี้จะไม่ถูกทำลาย   “แต่เมื่อท่านมองลงไปทางเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ และที่ดินแดนทั้งหมดในที่ลุ่ม ก็เห็นแผ่นดินลุกเป็นควันพลุ่งขึ้นเหมือนควันเตาเผา...บนที่พื้นราบ” (19:28 มตฐ.)   ในวินาทีนั้นเอง อับราฮามตระหนักรู้ทันทีว่า พระเจ้าทรงทำลายเมืองนั้น   สิ่งที่เขาพยายามต่อรองขอกับพระเจ้าล้มเหลว ไม่เกิดผล (ในเวลานั้นอับราฮามยังไม่รู้ว่า พระเจ้าได้ทรงช่วยนำโลทและครอบครัวให้ออกจากเมืองโสโดม ก่อนที่เมืองนั้นจะถูกทำลาย)

ในพระธรรมปฐมกาลตอนนี้ไม่ได้กล่าวถึงความรู้สึกของอับราฮามที่เห็นการถูกทำลายของเมืองนั้น   แต่เราคงพอที่จะรู้ได้ว่าอับราฮามรู้สึกอย่างไรบ้าง   เขาคงห่วงกังวลอย่างหนักถึงโลทและครอบครัวของเขา  กลัวว่าคนในครอบครัวโลทจะเสียชีวิต   สิ้นหวังในความกล้าหาญและพยายามต่อรองกับพระเจ้าแล้วไม่เกิดผลตามคาดหวัง   เศร้าเสียใจที่เมืองนั้นถูกทำลาย  และคนที่อยู่ในเมืองนั้นซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของอับราฮาม   จะเป็นไปได้ไหมที่อับราฮามอาจจะโกรธพระเจ้าที่ตัดสินอย่างรุนแรงไปหน่อยในส่วนลึกจิตใจของเขา   เพราะในความคิดของอับราฮามน่าจะมีคนชอบธรรมสัก 10 คนในเมืองนั้น

ในพระธรรมปฐมกาลตอนนี้ไม่ได้บอกเราถึงว่าอับราฮามทำอย่างไรหรือพูดอะไรออกมาเมื่อเห็นควันไฟพวยพุ่งออกจากเมืองที่ตั้งบนพื้นราบลุ่มนั้น   อับราฮามอาจจะอธิษฐาน   เพราะจากพระคัมภีร์ในตอนอื่น ๆ  และประสบการณ์ของผมเมื่อต้องประสบพบกับความสิ้นหวัง  รวมไปถึงเกิดความรู้สึกผิดหวังกับพระเจ้า   ในเวลาเช่นนั้นไม่รู้จะทำอะไรได้นอกเสียจากหลับตาและก้มหัวลง  แล้วเปิดใจต่อพระเจ้าในความเงียบ หรือ ในคำอธิษฐาน

ในเวลาผิดหวังหรือสิ้นหวังเช่นนี้  เราต้องระวังที่จะไม่ให้ความสิ้นหวังครอบงำและมีอิทธิพลเหนือความรู้สึก ความคิด และการตัดสินใจของเรา   แต่ให้เราสงบ รู้และไว้วางใจในการทำพระราชกิจของพระเจ้า   ท่ามกลางทุกวิกฤติสิ้นหวัง   เราต้องไว้วางใจว่า   พระเจ้าทรงมีแผนการ และ กำลังทรงกระทำสิ่งที่ดีที่สุดตามพระประสงค์ของพระองค์ในเหตุการณ์ที่เลวร้ายเสื่อมถอยลงนั้น  ในเวลาที่เราไม่รู้จะทำอย่างไรพระเจ้ากำลังเสริมสร้างเราขึ้นตามพระประสงค์ของพระองค์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น