20 กรกฎาคม 2553

บ้านที่วางรากฐานบนศิลา

46“เหตุไฉนท่านทั้งหลายจึงเรียกเราว่า 'พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า' แต่ไม่กระทำตามที่เราบอกนั้น 47ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา และกระทำตามคำนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้ใด 48เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง 49ส่วนคนที่ได้ยินและมิได้กระทำตาม เปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึกบนดินไม่ก่อราก เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่งตึกนั้น ตึกนั้นก็พังทลายลงทันที และความพินาศของตึกนั้นก็ใหญ่ยิ่งนัก” (ลูกา 6:46-49)

ท่านจงเฝ้าระวังพร้อมที่จะฟังเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า และ กระทำตามทันที
การเชื่อฟังจนยอมทำตามนั้นเป็นหมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของความเชื่อศรัทธา
องค์พระผู้เป็นเจ้าเคยตรัสกับเหล่าสาวกและคนติดตามพระองค์จำนวนมาก
ที่ฟังคำสอนของพระองค์แต่ไม่ได้กระทำตามว่า
“ทำไมพวกท่านเรียกเราว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ไม่ทำตามสิ่งที่เราบอกนั้น?”

องค์พระผู้เป็นเจ้าเปรียบคนที่ได้ยินคำของพระองค์แต่ไม่กระทำตามว่า
เป็นเหมือนคนที่สร้างบ้าน แต่มิได้ก่อราก
เมื่อเกิดกระแสน้ำพัดแรงบ้านนั้นก็พังทลายลง

องค์พระผู้เป็นเจ้ายังเปรียบคนที่ได้ยินคำของพระองค์แล้วกระทำตามทันทีว่า
เป็นผู้ที่ “ขุดลึก” วางรากฐานบ้านของตนลงบนศิลา
เมื่อเกิดพายุและกระแสน้ำพัดอย่างรุนแรง
บ้านนั้นยังตั้งมั่นคงอยู่ไม่โยกคลอน

ท่านโปรดอย่าเข้าใจว่า
สิ่งที่กำลังกล่าวนี้หมายถึงการที่กระทำตามพระบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น และ
ก็มิใช่เพียงการทำตามคำสอนที่บนภูเขาของพระองค์เท่านั้นด้วย
พระองค์หมายความมากยิ่งกว่านั้นสำหรับคนที่รู้จักพระองค์อย่างใกล้ชิดสนิท
พระองค์หมายถึงการที่ท่านยอมกระทำตามในทุกอย่าง
ยอมทำตามเสียงแห่งการทรงนำของพระองค์ภายในชีวิตของท่าน และ
คำสั่งเล็กๆ น้อยๆ ที่พระองค์มีถึงจิตวิญญาณแต่ละดวง
ความปรารถนาของพระองค์ที่สำแดงออกแก่ท่าน
เพื่อที่ท่านจะได้กระทำให้ความปรารถนาของพระองค์สำเร็จ

ชีวิตสาวกของพระองค์ ที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน
เปรียบเหมือนบ้านที่หยั่งรากลงในศิลานั้น
มิใช่สร้างได้ในชั่วพริบตา ทันที
แต่จะต้องให้เวลาในการวางรากฐาน
อิฐแต่ละก้อนที่วางทับซ้อนกันขึ้นมา
จนเป็นราก
เป็นคานที่แข็งแรง
จากนั้นค่อยก่อกำแพง เชื่อมโครงหลังคา...
ด้วยการกระทำที่เชื่อฟัง
เป็นการกระทำตามพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าในแต่ละวัน และ
เป็นการกระทำตามความปรารถนาของพระองค์ด้วยความรัก

“ทุกคนที่มาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและฟังคำของพระองค์แล้วทำตาม
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะสำแดงให้พวกท่านรู้ว่าท่านเป็นเหมือนอะไร
ท่านเป็นเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก
ท่านขุดลึกลงไปแล้ววางรากฐานอยู่บนศิลา
เมื่อมีน้ำท่วมและมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาซัดตึกนั้น
ตึกนั้นก็ไม่หวั่นไหว เพราะถูกสร้างไว้อย่างมั่นคง”

บ้านที่หยั่งรากลึกลงในศิลานี้
เป็นบ้านที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยการดลใจและทรงนำของพระเจ้า
เป็นบ้านแห่งความเชื่อฟังและทำตาม
เป็นการแสดงออกถึงการสรรเสริญและการนมัสการพระเจ้าอย่างจริงแท้ที่สุด และ
ในบ้านนั้นเองที่พระเจ้ามาอยู่ด้วยกับคนที่พระองค์ทรงรัก

องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ให้ความหวังแก่งานที่ท่านทำหรือ?
มิได้ประทานความหวังในวันที่มืดมนหรือ?
เพียงแค่ท่านจะวางอิฐแห่งหน้าที่ธรรมดาๆ ก้อนเล็กๆ ของท่าน
ท่านก็ได้ทำให้ความปรารถนาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้เกิดเป็นรูปธรรม
เป็นสิ่งที่เสริมสร้างท่านให้มีบุคลิกคริสเตียนที่มั่นคง ไม่สั่นคลอน หวั่นไหว
ตามที่เปาโลผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้กระตุ้นเตือนให้ผู้ติดตามทุกคนมีบุคลิกเช่นนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น