08 กรกฎาคม 2558

คริสตจักร: ชุมชนเรียนรู้ที่จะรักเหมือนพระคริสต์


ตัวเราคนเดียวไม่สามารถเป็นพระกายของพระคริสต์ได้   แต่พระกายของพระคริสต์เป็นการร่วมกันของเรากับคนอื่น ๆ ในชุมชนของผู้เชื่อ   แล้วร่วมกันสำแดงชีวิตตามพระประสงค์    เราเป็นพระกายของพระคริสต์เพราะเราร่วมกัน   ไม่ใช่แยกกันต่างคนต่างอยู่

คริสตจักรเป็นครอบครัวใหญ่ที่หล่อหลอม เสริมสร้าง  และช่วยดึงให้เราหลุดรอดออกจากการที่เอาตนเองเป็นศูนย์กลางในชีวิต   หลุดรอดออกจากชีวิตที่เป็นปัจเจก “ตัวใครตัวมัน”   แยกตนเองออกจากคนอื่น   คริสตจักรท้องถิ่นจึงเป็นเหมือนชั้นเรียนแห่งชีวิตที่จะช่วยกันหล่อหลอม เสริมสร้างกันและกันที่ให้เกิดการเรียนรู้ว่า  เราจะดำเนินชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ ในคริสตจักรซึ่งเป็นครอบครัวของพระเจ้าอย่างไร   เป็นพื้นที่หรือเวทีที่แต่ละคนที่ฝึกฝนตนเรียนรู้ที่จะ “ไม่เห็นแก่ตัว”  แต่มีใจรักเมตตา  เห็นอกเห็นใจกัน  และเสียสละเพื่อคนอื่น ๆ อย่างพระคริสต์

ในฐานะที่เราเป็นคนหนึ่งที่ร่วมในชีวิตครอบครัวคริสตจักร   เราจะต้องเอาใจใส่ชีวิตของคนอื่น และ ร่วมในประสบการณ์ชีวิตของคนต่าง ๆ ในครอบครัวคริสตจักรด้วย   นั่นหมายความว่า “ถ้า​อวัยวะ​หนึ่ง​ทุกข์ อวัยวะ​ทั้ง​หมด​ก็​ร่วม​ทุกข์​ด้วย ถ้า​อวัยวะ​หนึ่ง​ได้​รับ​เกียรติ อวัยวะ​ทั้ง​หมด​ก็​ร่วม​ชื่น​ชม​ยินดี​ด้วย” (1โครินธ์ 12:26 มตฐ.)

ในเมื่อชุมชนคริสตจักรคือชุมชนของผู้คนในคริสตจักรที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันที่แตกต่างจากความสัมพันธ์กันแบบสังคมทั่วไป   ดังนั้น คริสตจักรไทยปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันแบบนี้ในคริสตจักร หรือที่เรามักเรียกว่า “สามัคคีธรรม” จากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่   เพราะสามัคคีธรรมมิใช่การที่เรามาร่วมกันร้องเพลง อธิษฐาน นมัสการพระเจ้า ถวายทรัพย์  แล้วอยู่ด้วยกัน  กินด้วยกันใน “คริสตจักร” เท่านั้น

ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่   สามัคคีธรรมคือการที่แต่ละคนเชื่อมสัมพันธ์เข้าด้วยกันโดยการทำหน้าที่รับผิดชอบตามที่พระเจ้าประทานให้   มีเป้าหมายเพื่อให้คริสตจักรที่เป็นพระกายของพระคริสต์ “เจริญและเสริมสร้างกันด้วยความรัก” (เอเฟซัส 4:16)  ด้วยการทำหน้าที่ที่สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกัน (โรม 12:4-5) อันเกิดจากการที่เราแต่ละคน “ยึดมั่นในพระคริสต์”  เพื่อให้การร่วมงานกันของเราทุกคนมุ่งไปสู่พระประสงค์เดียวกันของพระเจ้า (โคโลสี 2:19)  ด้วยความห่วงใยกันและกัน (1โครินธ์ 12:25)  และนี่คือความหมายของ “สามัคคีธรรม” ในคริสตจักรตามพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่

สามัคคีธรรมตามพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่   คือการที่แต่ละคนในคริสตจักรยอมอุทิศมอบกายถวายทั้งชีวิตแด่พระคริสต์   และในเวลาเดียวกันพระเจ้าทรงคาดหวังเราแต่ละคนให้ชีวิตของตนแก่กันและกันในชุมชนคริสตจักรด้วย   เราท่านทุกคนรู้จักพระคัมภีร์ ยอห์น 3:16 อย่างดี   แต่ในเวลาเดียวกันก็ต้องไม่ลืมและละเลยที่จะตระหนักชัดใน 1ยอห์น 3:16 ด้วย  “เช่น​นี้​แหละ​เรา​จึง​รู้​จัก​ความ​รัก โดย​ที่​พระ​องค์​ได้​ยอม​สละ​พระ​ชนม์​ของ​พระ​องค์​เพื่อ​เรา และ​เรา​ก็​ควร​จะ​สละ​ชีวิต​ของ​เรา​เพื่อ​พี่​น้อง” (1ยอห์น 3:16 มตฐ.)

แล้วคริสตจักรไทยจะมี “สามัคคีธรรม” แบบนี้ได้อย่างไรหนอ?

พระเจ้าทรงคาดหวังให้คริสตชนไทยแต่ละคนสำแดงความรักที่เสียสละแบบนี้แก่คนอื่น ๆ รอบข้างในชุมชนคริสตจักรด้วย คือเป็นคริสตชนที่เต็มใจที่จะรักคนอื่นอย่างพระคริสต์ที่ทรงรักและเสียสละเพื่อตัวเราเองด้วย

ณ วันนี้ในคริสตจักรไทยคงต้องกลับมามองตนเองว่า คริสตจักรได้กระทำตามพระบัญชาของพระคริสต์   ที่จะให้เรารักอย่างที่พระองค์ทรงรักหรือไม่ คริสตจักรมี “สามัคคีธรรม” ที่แท้จริงหรือไม่ หรือคริสตจักรมัวแต่ทำตามพระบัญชาให้คนในสังคมให้ได้เข้าใต้ร่มแห่งความรอด แต่เป็นความรอดที่ พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตของคนที่เข้ามาในคริสตจักรเลยหรือไม่? แล้วนี่จะเป็นความรอดในพระคริสต์ได้อย่างไร?

ถึงเวลาแล้วที่คริสตจักรจะต้องกลับมาพิจารณาตนเอง  คริสตจักรได้ทำตามพระมหาบัญชาของพระคริสต์จริง ๆ ครบถ้วนหรือไม่?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น