13 ตุลาคม 2558

ทำไมพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานสักที?

เมื่ออธิษฐานแล้วยังไม่ได้คำตอบ   ในพระธรรมเอเฟซัสบอกเราว่า
“จง​อธิษฐาน​... ​​เฝ้า​ระวัง​ด้วย​ความ​เพียร​​...” (6:18 มตฐ.)
ทำไมเราต้องอธิษฐานด้วยความเพียรทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับคำตอบจากการอธิษฐาน
มีรากฐานความเข้าใจในชีวิตคริสตชนสำคัญในเรื่องนี้สี่ประการ คือ...

ประการแรก:   การอธิษฐานด้วยความเพียรเป็นการช่วยให้เรามุ่งเน้นแสวงหาความเด่นชัดลงไปในเรื่องที่เรากำลังอธิษฐาน   การที่เรามุ่งมั่นเพียรอธิษฐานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างพากเพียรหลายครั้ง   มิใช่เป็นการเตือนความทรงจำของพระเจ้าไม่ให้ลืมเรื่องที่เราทูลอธิษฐานต่อพระองค์   แต่เพื่อที่จะเตือนตนเองว่า  พระเจ้าทรงเป็นแหล่งแห่งคำตอบในเรื่องที่เราอธิษฐาน  และพระองค์เป็นแหล่งที่จะประทานในสิ่งที่จำเป็นต้องการที่เราทูลขอพระเจ้า   ถ้าเราอธิษฐานแล้วก็ได้รับคำตอบโดยอัตโนมัติ  จะเกิดสองสิ่งในชีวิตของเราคือ  

สิ่งแรก การอธิษฐานกลายเป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตของเราเอง   เพราะเราจะไม่เรียนรู้และตระหนักชัดว่าชีวิตของเราต้องพึ่งพิงในพระเจ้า   แต่เรากลับไปพึ่งพิงการกระทำของเราเองคือการอธิษฐาน   การอธิษฐานของเรากลายเป็น “เครื่องหยอดเหรียญ” เพื่อให้ได้สิ่งที่เราอยากได้ต้องการ  

สิ่งที่สอง การอธิษฐานควรจะเป็นการที่เราติดต่อสัมพันธ์และการติดสนิทกับพระเจ้า   เรากำลังใช้การอธิษฐานในการใช้พระเจ้าทำในสิ่งที่เราอยากได้ต้องการหรือไม่?   แล้วเรามักมุ่งมองไปที่สิ่งที่เราอยากจะได้รับ   มากกว่าที่จะมุ่งมองไปที่พระเจ้าผู้ทรงอวยพระพรแก่เราหรือเปล่า?   และที่สำคัญคือ  เราละเลยและไม่สนใจว่าพระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรในชีวิตของเรา   มุ่งสนใจแต่ความต้องการของตนเอง

ประการที่สอง: การอธิษฐานด้วยความเพียร  ช่วยให้เราค่อย ๆ ชัดเจนในสิ่งที่เราอธิษฐานวิงวอน   การที่เราไม่ได้รับคำตอบจากการอธิษฐานของเราทันทีหรือโดยอัตโนมัติ   ทำให้เราต้องเพียรอธิษฐาน  การที่เรามีโอกาสเพียรอธิษฐานทำให้เรามีเวลาในการใคร่ครวญในสิ่งที่เราอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้ามากขึ้น ละเอียดขึ้น   ครั้งแล้วครั้งเล่า   ทำให้เราสามารถแบ่งแยกชัดเจนระหว่างความปรารถนาจากส่วนลึกในชีวิต กับ ความต้องการใฝ่ฝันหรือการปรารถนาตามอำเภอใจ   การที่เราไม่ได้รับคำตอบจากการอธิษฐานทันที   เป็นโอกาสให้เราได้ใคร่ครวญลงลึกว่าเราใส่ใจในเรื่องนั้นแท้จริงแค่ไหน   มิใช่พระเจ้าละเลยเมินเฉยต่อการอธิษฐานของเรา   แต่พระเจ้าใช้โอกาสที่เราอธิษฐานในการเสริมสร้างให้เราเติบโตขึ้นเป็น “ผู้ใหญ่ในพระคริสต์” มากยิ่งขึ้นต่างหาก

ประการที่สาม:  “เพราะ​พวก​ท่าน​รู้​ว่า​การ​ทด​สอบ​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​นั้น ทำ​ให้​เกิด​ความ​ทรหด​อดทน  และ​จง​ให้​ความ​ทรหด​อด​ทน​นั้น​มี​ผล​อย่าง​สม​บูรณ์ เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​เป็น​คน​ที่​สม​บูรณ์​และ​ดี​พร้อม โดย​ไม่​ขาด​สิ่ง​ใด​เลย” (ยากอบ 1:3-4 มตฐ.)  การที่เราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ได้นั้น “ความเชื่อ ความศรัทธาของเราต้องผ่านการทดสอบ”   ดังนั้น การที่เราไม่ได้รับคำตอบทันทีจากการอธิษฐานเพราะพระเจ้ามีแผนการที่จะใช้สิ่งหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา   ที่เรานำมาทูลอธิษฐานต่อพระเจ้าในการเสริมสร้างเราให้เติบโต และ มีชีวิตที่เข้มแข็ง   เพื่อเตรียมเราท่านให้พร้อมที่จะรับและใช้สิ่งที่พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานให้เกิดผลและเป็นประโยชน์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า

ประการที่สี่:  การเพียรอธิษฐานเป็นโอกาสที่พระเจ้าจะทรงเตรียมชีวิตจิตใจของเราให้พร้อมที่จะรับคำตอบจากพระองค์   เพราะพระองค์ประสงค์ที่จะตอบในสิ่งที่เราอธิษฐานวิงวอนมากกว่าเราที่คาดหวัง  และดีกว่าที่เราปรารถนา   ดังนั้น   พระองค์จึงประสงค์ที่จะเตรียมชีวิตจิตใจของเราให้พร้อมรับคำตอบจากพระองค์   เพราะเราอธิษฐานวิงวอนสิ่งต่าง ๆ ตามกรอบคิดกรอบเชื่อที่จำกัดของเรา   แต่พระองค์ประสงค์ที่จะประทานตามพระประสงค์ของพระองค์ที่ใหญ่กว่า และ ดีกว่าที่เราอธิษฐานทูลขอ   ดังนั้น ช่วงเวลาที่เรายังไม่ได้รับคำตอบจากการอธิษฐานของเรา   จึงเป็นเวลาที่พระเจ้าจะทรงเสริมสร้างเปลี่ยนแปลงและเตรียมเราให้พร้อมที่จะสามารถรับสิ่งที่พระองค์จะตอบคำอธิษฐานของเราตามพระประสงค์ของพระองค์

อย่าลืมว่าพระเจ้า “...​ผู้​ทรง​สา​มารถ​ทำ​ทุก​สิ่ง​ได้​มาก​ยิ่ง​กว่า​ที่​เรา​ทูล​ขอ​หรือ​คิด...” (เอเฟซัส 3:20 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น