เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ หรือ อ่านพระวจนะของพระเจ้าเรามักทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่า เราพยายามที่จะทำให้พระคัมภีร์เป็นเรื่องของเรา แล้วเปิดไปในแต่ละหน้าเพื่อค้นหาตนเอง เช่น เราต้องการที่จะรู้ว่าเราจะต้องกระทำอย่างไรในชีวิต หรือ ทำอย่างไรชีวิตจิตวิญญาณของเราจะเติบโต เราอ่านพระคัมภีร์เพื่อที่เราจะมีสันติสุข ความมั่นใจในชีวิต ความเข้มแข็งเติบโต ผมไม่ได้ว่าที่กล่าวมานี้ผิดนะครับ พระวจนะของพระเจ้าได้กระทำอะไรต่อมิอะไรในชีวิตของเรามากกว่านี้มากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นเพียง “ผลพลอยได้” สำหรับเราในชีวิตเท่านั้น
ขอให้เราเข้าใจให้ชัดเจนว่า
ใช่... พระคัมภีร์ หรือ พระวจนะนั้นมี “เพื่อเรา” แต่แก่นหลักมิใช่ “เกี่ยวกับเรา”
บ่อยครั้งที่คริสตชนอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ด้วยมุมมองที่มี “ตนเองเป็นศูนย์กลาง”
จึงทำให้เราคิดถึงแต่ตนเอง สิ่งนี้ปิดบังสัจจะความจริงของพระเจ้า และ
ความหมายที่แท้จริงของพระวจนะ น่าเสียใจว่า
บ่อยครั้งนักที่เราหลงทางคลาดเคลื่อนจากจุดประสงค์ของพระคัมภีร์ ที่ต้องการให้เรารู้ถึง
“พระเจ้า” ผู้ได้ดลใจให้เขียนพระคัมภีร์เล่มนี้ขึ้น
เป้าประสงค์แรกของพระคัมภีร์คือ
เรารู้แล้วว่า
พระคัมภีร์เป็นเรื่องราวที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าให้บันทึกเป็นพระคัมภีร์ พระคัมภีร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า
วัตถุประสงค์ของพระคัมภีร์คือการทรงเปิดเผยของพระเจ้า ถึงคำสอนของพระองค์สำหรับเรา,
พระลักษณะบุคลิกภาพของพระองค์, พระประสงค์ของพระองค์, แผนการของพระองค์, พระราชกิจของพระองค์ และวิถีทางของพระองค์
และยังรวมถึงแผนการที่พระองค์ได้จัดเตรียมและประทานความรอดแก่เราผ่านชีวิตและพระราชกิจของพระเยซูคริสต์
พระเจ้าเป็นผู้ขับเคลื่อนตัวหลักของทุกเรื่องราวในพระคัมภีร์
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ดาวิดกับโกลิอัท (1ซามูเอล 17:1-49) ดาเนียลในถ้ำสิงโต
(ดาเนียล 6:1-24) เปาโลและสิลาในคุกเมืองฟีลิปปี (กิจการ 18:16-40) แม้กระทั่งในเรื่องของเอสเธอร์
ที่ไม่ได้เอ่ยถึงพระนามของพระเจ้าเลย
พระองค์ทรงเป็นผู้ขับเคลื่อนเรื่องราวทุกเรื่องในพระคัมภีร์ พระหัตถ์ที่ทรงตระเตรียมและประทานสิ่งต่าง
ๆ ก็เป็นพระหัตถ์เดียวกันที่ประทานความรอดสำหรับประชากรของพระองค์
แล้วเราจะอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ด้วยมุมมองที่พระเจ้าทรงเป็นแก่นหลัก
หรือ เป็นศูนย์กลางของพระคัมภีร์ได้อย่างไร?
เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์หรือศึกษาพระวจนะของพระเจ้าให้เราจดจ่อมุ่งมองไปที่พระเจ้า
ก่อนที่เราจะสามารถระบุชัดลงไปว่า
พระคัมภีร์ตอนนี้ “หมายความ” ว่าอย่างไร เราต้องสังเกตว่า พระคัมภีร์ตอนนั้น ๆ กำลังพูดถึงเรื่องอะไร
ในขณะที่มีหลายเรื่องหลายประเด็นที่น่าสังเกตในพระคัมภีร์ตอนนั้น พระเจ้าต้องเป็นเรื่องที่เราจะต้องจดจ่อใส่ใจสังเกตเป็นสิ่งแรกในการศึกษาพระคัมภีร์ตอนนั้น
ๆ ให้เราอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ด้วยการแสวงหาสัจจะที่ยกย่องและถวายเกียรติแด่พระเจ้า
หลายท่านที่อ่านพระคัมภีร์จะใช้สีต่าง ๆ ขีดหรือทำเครื่องหมายที่มีความหมายสำคัญ เช่น
จะใช้สีเน้นชัดคำ วลี
หรือประโยคในพระคัมภีร์ทุกที่ที่แสดงถึงสัจจะเกี่ยวกับพระเจ้า
ซึ่งมีตัวอย่างที่แสดงถึงความสำคัญของพระเจ้าในประเด็นดังนี้ เช่น...
• พระลักษณะของพระเจ้า พระคัมภีร์ตอนนี้สอนเราเกี่ยวกับพระลักษณะเฉพาะของพระเจ้าอะไรบ้าง?
• พระประสงค์ของพระเจ้า เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับแผนการของพระเจ้าสำหรับโลกนี้ สำหรับประชากรของพระองค์ สำหรับแผนการแห่งความรอด
และ ฯลฯ อะไรบ้าง?
• วิถีทางของพระเจ้า พระเจ้าทรงติดต่อสัมพันธ์กับมนุษย์อย่างไร? แล้วพระองค์สื่อสารพระประสงค์ของพระองค์กับมนุษย์อย่างไร?
การตอบสนองต่อสิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าจากการอ่านพระคัมภีร์
• กลับใจ เมื่อเราเผชิญหน้ากับพระเจ้าผู้บริสุทธิ์เปิดเผยให้เราเห็นถึงความบาปผิดของเรา
เราจะต้องหันหลังและหลีกหนีออกจากอะไรบ้าง?
• นมัสการ ยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้ามากขึ้นแค่ไหน
เรายิ่งตระหนักชัดว่าพระองค์สมควรอย่างยิ่งที่เราจะยกย่องสรรเสริญ
• เชื่อ เราได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพระเจ้าที่เราไม่เคยรู้มาก่อน? ที่ปรับเปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อพระองค์ และเราเชื่อในสิ่งนั้นหรือไม่?
• เชื่อฟัง เมื่อมีความรู้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้า
เกิดการกระตุ้นให้เรากระทำบางสิ่งบางอย่างที่พระองค์ต้องการให้เรากระทำหรือไม่?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น