16 กุมภาพันธ์ 2553

พระเยซูจะรู้ถึงความยากของการทำงานในยุคนี้หรือ?

เพราะเรามิได้มีมหาปุโรหิต ซึ่งไม่อาจจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา
แต่ทรงถูกลองใจเช่นเดียวกับเราทุกประการ กระนั้นก็ทรงปราศจากบาป
(ฮีบรู 4:15 อมตธรรมร่วมสมัย)

หลักคิดในการทำงาน
พระเยซูรู้ด้วยประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการต่อสู้กับการทดลอง ชัยชนะจะเป็นของเราได้โดยผ่านทางพระองค์

ในที่ทำงานเต็มไปด้วยการทดลอง นี่คือคำตอบจากคุณสมทรง เธอเป็นเลขานุการทางด้านกฎหมายในสำนักงานใหญ่แห่งหนึ่ง เธอนั่งเงียบในที่ทำงานของเธอแต่ภายในกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับการทดลอง

ไม่รู้ว่าคุณพจมานจะทำอย่างไร ถ้าเขารู้ว่าสุดารัตน์เป็นคนไร้ความสามารถ แต่ถ้าฉันจะบอกคุณพจมานถึงความผิดพลาดบางประการของสุดารัตน์ เขาอาจจะชื่นชอบฉันมากขึ้น... แน่นอน เธอกับฉันเป็นเพื่อนซี้กันอยู่แล้ว... แต่ว่าบางครั้งการที่เราจะได้เปรียบทางธุรกิจ คุณก็ต้องระมัดระวังตนเองให้ดีด้วย...

ถ้าอีตาสามารถแสดงอาการเย้ยหยันแดกดันฉันอีกครั้งหนึ่งล่ะก็..

จำเนียร ขอฉันช่วยซื้อกล่องใส่แผ่นดิสก์คอมพิวเตอร์สำหรับงานโครงการที่โรงเรียน ในสำนักงานของเรามีกล่องใส่แผ่นดิสก์มากมาย ฉันคิดว่าถ้าฉันจะเอาไปสักใบหนึ่งคงไม่มีใครในสำนักงานนี้จะรู้ แค่นี้ขนหน้าแข้งบริษัทไม่ร่วงหรอก

ถ้าเราไม่ระมัดระวัง ในเวลาที่เราถูกทดลองให้ทำในบางสิ่งบางอย่างที่รู้ในส่วนลึกของจิตใจว่าผิด เราก็ตกอยู่ในภาวะของการต่อสู้ภายในระหว่างตัวตนเดิมของเรากับชีวิตใหม่ที่เราได้รับทางพระคริสต์ “เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังขัดแย้งพระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ขัดแย้งเนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่สามารถทำสิ่งที่ท่านปรารถนาจะทำ” (กาลาเทีย 5:17) แม้เราจะพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องมากแค่ไหนก็ตาม แต่เราถูกครอบงำให้ทำในสิ่งที่ผิด

ไม่มีใครที่เข้าใจเรื่องนี้ดีเกินไปกว่าพระเยซู ผู้ต่อสู้กับการทดลอง พระองค์ก็เป็นมนุษย์ด้วยเช่นกัน

ลองคิดดูซิว่า พระองค์จะมีความรู้สึกเช่นใดเมื่อคนในเมืองของพระองค์ไม่ยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า แม้แต่สาวกของพระองค์ก็ทำให้พระองค์เสียพระทัยครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีใครชื่นชมและเข้าใจถึงพันธกิจของพระองค์ในโลกนี้ เหตุการณ์เหล่านี้น่าจะชวนให้พระองค์ท้อแท้ใจ “พอที...พระบิดา ข้าพระองค์ยอมแพ้แล้ว การที่พระองค์ส่งข้าพระองค์มาทำพันธกิจในโลกนี้ดูเป็นการไร้ค่า อุปสรรคมากมายใหญ่หลวงนัก”

มั่นใจได้ว่า พระเยซูถูกทำให้เกิดความรู้สึกที่ต้องการแก้เผ็ดศัตรูของพระองค์ เพราะพวกนี้ได้รวมหัวกันคิดอุบายวางกับดักทางบทบัญญัติ หลักการทางศาสนศาสตร์ และ กับดักทางการเมืองเพื่อจะจับผิดพระองค์ หาเหตุที่จะทำร้ายทำลายพระองค์เสีย เป็นการง่ายแค่ไหนที่พระองค์จะโต้ตอบศัตรูที่โป้ปดมดเท็จด้วยกับดักซ้อนกับดัก โต้ตอบความรุนแรงด้วยความรุนแรง

เมื่อฝูงชนห้อมล้อมและกลุ้มรุมยัดเยียดเข้าหาพระองค์ที่เหน็ดเหนื่อย ต่างไขว่คว้าจับฉวยพระองค์ให้ได้ ส่งเสียงร้องหาพระองค์ ในสภาพการณ์เช่นนี้เป็นการง่ายที่พระองค์จะหันมาตะโกนบอกฝูงชนว่า “ถอยออกไป... เราไม่สามารถช่วยทุกคนได้”

พระเยซูมีประสบการณ์ในความเป็นมนุษย์ที่ต้องการทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ต้องต่อสู้กับสถานการณ์ที่บีบคั้นให้พระองค์ต้องทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม พระองค์ได้ต่อสู้กับการทดลองที่ต้องการให้พระองค์ยอมจำนนต่ออารมณ์และความปรารถนาในความเป็นมนุษย์ในตัวของพระองค์ แต่พระองค์ยืนหยัดจงรักภักดีและสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า

พระองค์ต้องการประทานพลังดังกล่าวแก่เราด้วยความรัก ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงเข้าใจเราเมื่อเราต้องพ่ายแพ้ต่อการทดลอง พระองค์พร้อมที่จะยกโทษแก่เราเมื่อเรายอมเข้ามาหาพระองค์ด้วยการสารภาพอย่างจริงใจ


อธิษฐาน

พระเจ้าที่รัก วันนี้ถ้าข้าพระองค์ถูกทดลอง...
ให้ข้าพระองค์ตอบแทนความเจ็บแสบด้วยการยอมรับความเจ็บปวด
ให้ทำงานเต็มความสามารถที่ทรงประทานให้ในตัวข้าพระองค์
ตั้งความปรารถนาของตนเองที่พระประสงค์ของพระองค์

โปรดเตือนให้ข้าพระองค์ระลึกถึง พระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงรู้ถึงความเป็นมนุษย์
โปรดประทานชัยชนะแก่ข้าพระองค์ โดยทางกำลัง และ การอภัยโทษจากพระองค์ และ
โดยทางความรักของพระองค์ อาเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น