02 กุมภาพันธ์ 2553

การทรงเรียก

บทเรียนจากเจ้าชายแห่งอียิปต์

โมเสสจึงทูลตอบว่า: “แต่พระองค์เจ้าข้า เขาจะไม่เชื่อข้าพระองค์หรือฟังเสียงของข้าพระองค์ เพราะเขาจะว่า 'พระเจ้ามิได้ทรงปรากฏแก่ท่านเลย' ”
พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า: “อะไรอยู่ในมือของเจ้า”
ท่านทูลว่า: “ไม้เท้า พระเจ้าข้า”
อพยพ 4:1-2

Steve Sjogren เป็นท่านหนึ่งที่ได้รับเชิญให้เป็นผู้วิพากษ์ภาพยนตร์เรื่อง “เจ้าชายแห่งอียิปต์” ก่อนที่จะนำออกฉาย ท่านบอกว่าความตื่นเต้นสูงสุดในการชมและวิพากษ์ภาพยนตร์เรื่องนี้มิเพียงแต่เนื้อหาและการนำเสนอที่น่าสนใจเท่านั้น แต่พระเจ้าตรัสกับท่านตลอดเรื่องราวของโมเสสในภาพยนตร์เรื่องนั้น

เรื่องราวเริ่มต้นที่พระเจ้าทรงปรากฏพระองค์แก่โมเสสที่พุ่มไม้ไฟ ที่นั่นท่านได้สนทนากับพระเจ้า ท่านต่อรองกับพระองค์และปฏิเสธว่าท่านไม่สามารถที่จะนำชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ โมเสสรู้สึกว่าตนไม่มีความสามารถเหมาะสมที่จะนำใครออกจากที่ไหนทั้งนั้น ผ่านการถกเถียงกับพระเจ้าสองสามรอบ พระเจ้าถามโมเสสด้วยคำถามธรรมดาสามัญว่า “อะไรอยู่ในมือของเจ้า” ในมือของโมเสสถือไม้เท้าเลี้ยงสัตว์อยู่ ซึ่งเขาได้ใช้เป็นเครื่องมือในการเลี้ยงฝูงแกะของเขามากว่า 40 ปีในดินแดนทะเลทราย

เมื่อพระเจ้าทรงเรียกเราให้ทำหรือนำในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พระเจ้ามักจะทรงเริ่มต้นจาก “เครื่องมือที่อยู่ในมือของเรา” หรือ ความสามารถที่มีอยู่ในตัวเรา พระองค์ทรงใช้เราทำพันธกิจของพระองค์ด้วยศักยภาพ ความสามารถ ความรู้ หรือ ทักษะที่เราเคยใช้อย่างได้ผลในงานอื่นๆ มาก่อนหน้านี้แล้ว บทบาทหน้าที่ที่พระองค์ทรงเรียกให้เรารับผิดชอบเมื่อดูผิวเผินในตอนแรกอาจจะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร ไม่ใช่เรื่องของชีวิตจิตวิญญาณเลย หรือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับตัวเรา

เรื่องราวที่โมเสสเผชิญหน้ากับพระเจ้าในตอนนี้เปี่ยมด้วยความจริงในชีวิตจิตวิญญาณสำหรับผู้นำ โดยขอตั้งข้อสังเกตดังนี้

เป็นผู้ที่มีความเชื่อศรัทธาที่ยืนหยัดและไว้วางใจ พระเจ้าทรงเรียกเราให้ทำในสิ่งที่เราทำอยู่แล้วแต่ให้ทำต่อไปในแนวทางที่พระองค์ประสงค์ ไม่สำคัญที่ผู้นำจะต้องมีของประทานมากกว่าคนอื่น แต่เป็นผู้ที่ใช้ของประทานและทำอย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

พระเจ้าประสงค์ความเต็มใจของเรา พระคัมภีร์ได้ชี้ให้เห็นชัดถึงความรู้สึกไม่สู้เต็มใจของโมเสสที่จะทำตามการทรงเรียกให้นำชนชาติอิสราเอลออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ แต่ในที่สุดถึงแม้ตนเองยังกลัวต่อการที่จะทำหน้าที่ตามการทรงเรียก และมีความผิดพลาดแต่หนหลังคอยหลอกหลอนอยู่(ที่โมเสสเคยฆ่าทหารอียิปต์) แต่ในที่สุดโมเสสยอมที่จะเชื่อและทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเขา

กำลังของพระเจ้ามาถึงผู้ที่มีจิตใจที่เชื่อฟังพระองค์ ในสายตาของโมเสส “เครื่องมือ” ที่อยู่ในมือของท่านดูเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่ท่านถือไปทุกวัน แต่เมื่อเครื่องมือนั้นอยู่ในพระประสงค์ของพระเจ้ากลับกลายเป็นสิ่งที่เปี่ยมด้วยพลังถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนได้ จากพระคัมภีร์ตอนนี้เป็นต้นไป “เครื่องมือ” ที่โมเสสใช้กลายเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงใช้นำอิสราเอลให้หลุดพ้นออกจากการเป็นทาส ทุกครั้ง เมื่อกล่าวถึง “เครื่องมือ” พระเจ้ากำลังบอกกับเราทุกคนว่า สิ่งธรรมดาสามัญกลับกลายเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพลานุภาพของพระเจ้าอยู่ในเครื่องมือนั้น

พระเจ้าทรงจัดเตรียม สิ่งที่เราได้ทำไปแล้วเกิดจากการที่เราเตรียมการในสิ่งนั้นๆ ที่เราจะทำ ถ้าเราอ่านพระคัมภีร์เราจะพบว่า โมเสสถือกำเนิดเป็นชนอิสราเอล ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตอย่างคนอียิปต์ กลับมามีความสัมพันธ์กับพี่น้องของตนที่ตกเป็นทาส การที่เราทำงานของพระเจ้ามิใช่ทำด้วยกำลังอำนาจของตน(เช่น การที่โมเสสฆ่าทหารอียิปต์) พระเจ้าทรงใช้เวลาขัดเกลาชีวิตของโมเสสในทะเลทรายก่อนการทรงใช้ครั้งยิ่งใหญ่ของพระองค์ นี่เป็นการทรงเตรียมของพระเจ้าอย่างชัดเจนตลอดชีวิตของท่าน พระเจ้าทรงเตรียมท่านให้นำประชากรอิสราเอลของพระองค์ออกจากกรงทาสแห่งอียิปต์ ตามหลักคิดของพระเจ้าในพระคัมภีร์แล้ว นี่ไม่ใช่ “การเสียเวลา” แต่เป็นการ “ใช้เวลา” เตรียมโมเสสสำหรับงานของพระองค์

ประเด็นการคิดไตร่ตรอง

ในชีวิตของฉันมี “เครื่องมือ” อะไรอยู่ที่พระเจ้าจะทรงเจิมเพื่อใช้ในพระประสงค์ของพระองค์

อธิษฐาน

องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะเรียนรู้ว่า โอกาสที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่จำเป็นเป็นสิ่งที่อยู่ไกลโพ้น แต่อาจจะเป็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้าข้าพระองค์ หรือ ข้างๆ ตัวข้าพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเมตตา ในวันนี้ โปรดสร้างและเตรียมข้าพระองค์ให้มีจิตใจที่มีความกล้าและเชื่อฟังที่จะกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ในโอกาสที่ทรงประทาน อาเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น