11 พฤศจิกายน 2554

ผู้นำในชุมชนแผ่นดินของพระเจ้า (3)

อ่านลูกา 22:24-30

มีการโต้เถียงกันในพวกสาวกว่าใครในพวกเขาที่นับว่าเป็นใหญ่ พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “กษัตริย์ของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้านายเหนือเขาทั้งหลาย และผู้ที่มีอำนาจเหนือเขานั้นเรียกตัวเองว่าเจ้าบุญนายคุณ แต่พวกท่านจะไม่เป็นอย่างนั้น ในพวกท่านคนที่เป็นใหญ่ต้องเป็นเหมือนเด็ก และคนที่เป็นนายต้องเป็นเหมือนผู้ปรนนิบัติ (ลูกา 22:24-26)


จากบทใคร่ครวญเรื่อง “ผู้นำในชุมชนแผ่นดินของพระเจ้า” ตอนที่ 2 ที่ผ่านมา เราลงท้ายด้วยคำพูดของพระเยซูคริสต์ที่ว่า “แต่เราอยู่ท่ามกลางพวกท่านเหมือนคนรับใช้” (22:27) และการรับใช้ของพระองค์เป็นการรับใช้ถึงขนาดสละชีวิตของพระองค์ เพื่อคนอื่นจะได้ชีวิต ซึ่งเป็นคนรับใช้ที่ทนทุกข์ตามที่อิสยาห์ได้กล่าวถึงล่วงหน้าในบทที่ 52 และ 53

ถ้าการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์เป็นการสำแดงถึงสาระสำคัญของการรับใช้ที่แท้จริงแล้ว เราก็จะเริ่มเข้าใจชัดถึงความคิดของพระองค์เกี่ยวกับผู้นำที่รับใช้ ในที่นี้พระเยซูคริสต์มิได้มีความคิด “ให้เพื่อที่ตนจะได้” พระองค์มิได้บอกให้ผู้นำเลิกที่จะใช้สิทธิอำนาจของการเป็นผู้นำ และมุ่งที่จะทำทุกสิ่งตามที่คนอื่นต้องการให้เขากระทำ ต้องไม่ลืมว่าพระองค์ดำเนินไปสู่กางเขนทั้งๆ ที่สาวกเห็นว่าเป็นการกระทำที่โง่เขลา แต่พระองค์ก็มิได้ยอมอ่อนผ่อนตามสิ่งที่สาวกต้องการให้พระองค์กระทำ พระองค์ได้สอนเราถึงการใช้สิทธิอำนาจที่แตกต่างจากการใช้สิทธิอำนาจแบบโลกนี้ แต่พระองค์ทรงกระทำด้วยสิทธิอำนาจตามความเชื่อมั่นที่ถูกต้องของพระองค์ พระองค์มิได้ถูกครอบงำด้วยผลวิจัยของโพลล์สำนักต่างๆ หรือทำตามความคิดเห็นแบบประชานิยม ตามที่ Howard E. Butt, Jr.,เคยกล่าวไว้ว่า “พระเยซูคริสต์เป็นผู้ที่ทรงถ่อมลงอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในเวลาเดียวกันพระองค์ทรงเป็นผู้นำที่ยืนหยัดมั่นคงเข้มแข็ง พระองค์ทรงสำแดงออกถึงจิตวิญญาณของผู้ตามและในเวลาเดียวกันจิตวิญญาณของผู้นำด้วย”

ในการทรงใช้สิทธิอำนาจของพระเยซู พระองค์ทรงเลือกที่จะใช้เพื่อการรับใช้ประชาชน พระองค์ทรงใช้กระทำในพระราชกิจที่เป็นคุณแก่ประชาชน ด้วยการรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย ทรงขับไล่วิญญาณชั่วให้ออกจากการครอบงำบังคับผู้คน ทรงเลี้ยงผู้หิวโหย ที่พระองค์กระทำเช่นนี้เพื่อเป็นการแบ่งปันสิ่งที่เป็นพระคุณแห่งแผ่นดินของพระเจ้าแก่คนทั้งหลาย มิใช่ให้แก่คนชั้นสูง แต่แก่มวลชนคนสามัญทั้งหลายด้วย เป้าหมายปลายทางสูงสุด พระองค์ทรงกระทำในสิ่งที่สาวกที่ติดตามพระองค์ไม่ต้องการให้พระองค์กระทำ คือการที่พระองค์อุทิศเสียสละชีวิตของพระองค์ ด้วยการกระทำนี้ พระคริสต์ได้รับใช้เขาในสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึง

“ผู้นำแบบคนรับใช้” ได้ใช้สิทธิอำนาจในการเป็นผู้นำของตนเพื่อทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนที่เขานำ เขามิได้ใช้สิทธิอำนาจเพื่อความยิ่งใหญ่ของตนเอง เขามิได้สร้างตนให้เป็นเจ้าบุญนายคุณในชีวิตของคนที่ติดตามเขา หรือสร้างตนให้เป็น “ผู้มีพระคุณ” ของคนอื่น แต่ผู้นำแบบคนรับใช้กลับใช้สิทธิอำนาจที่จะหนุนเสริมเพิ่มพลังชีวิตแก่คนที่เขานำ และแน่นอนครับ คงต้องมีบางเวลาที่ผู้นำแบบคนใช้กล้าหาญพอที่จะกระทำในสิ่งที่คนติดตามใกล้ชิด สาวก พรรคพวก หรือลิ่วล้อไม่ต้องการให้เขากระทำ เฉกเช่นในกรณีที่พระเยซูคริสต์ใช้สิทธิอำนาจที่จะเลือกยอมเสียสละชีวิตของพระองค์ แต่ทั้งสิ้นนี้ผู้นำแบบผู้รับใช้เลือกที่จะกระทำและใช้สิทธิอำนาจของการเป็นผู้นำให้นำมาซึ่งสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เขานำ

ตัวอย่างที่ตรึงแน่นในความทรงจำของผมคือ เรื่องราวที่พระราชบิดามาทรงงาน ณ โรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่ แค่ที่พระองค์เสด็จมาทรงงานที่โรงพยาบาลแมคคอร์ที่อยู่หัวเมืองก็เป็นเรื่องราวที่เหลือเชื่อเกินความคาดคิดของปุถุชนคนธรรมดาในเวลานั้น แต่มีเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อกว่านี้เกิดขึ้นครับ

ในช่วงที่พระราชบิดาทรงงานที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่ ได้เกิดอุบัติเหตุเด็กนักเรียนโรงเรียนปรินส์รอยแยลฯ เด็กชายบุญยิ่ง ถูกปืนลั่นที่บ้าน ลูกกระสุนเจาะเข้าที่ใต้รักแร้ เนื่องจากอยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลจึงต้องใช้เวลาเดินทางนานทำให้เด็กเสียเลือดอย่างมาก เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแมคคอร์มิคผู้ป่วยมีอาการช็อค หมอคอล์ดพยายามหยุดการเสียเลือดด้วยการกดที่เส้นเลือด ดูจะไม่เป็นผล พระราชบิดาท่านทรงเป็นผู้ตรวจเลือดและทรงพบว่า เลือดของเด็กชายบุญยิ่งกรุ๊ปเดียวกับท่าน และเข้ากันได้ พระองค์ได้ทรงให้เลือดสดๆ ของพระองค์เองแก่เด็กชายบุญยิ่ง และนั่งเฝ้าดูอาการของเด็กชายบุญยิ่งในห้องผู้ป่วยกว่าสามชั่วโมง จนถึงวินาทีสุดท้ายในชีวิตของเด็กชายบุญยิ่ง ห้องที่พระราชบิดาทรงนั่งเฝ้าดูอาการของเด็กชายบุญยิ่งคือห้องข้างหลังห้องนมัสการด้านธรรมาสก์ในปัจจุบัน

แพทย์ เจ้านาย แต่ทรงให้เลือดที่เป็นชีวิตของพระองค์เองแก่เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง เพื่อหวังที่จะให้เด็กได้รอดชีวิต นี่มิใช่การให้ที่หวังผลประโยชน์แลกเปลี่ยน แต่เป็นการให้เพื่อหวังที่จะให้ผู้รับได้มีชีวิต และนี่คือผู้นำแบบคนใช้ที่ทนทุกข์ครับ

ประเด็นใคร่ครวญ

  • ทุกวันนี้ท่านมีโอกาสได้ใช้ภาวะผู้นำในสถานการณ์เช่นไรบ้างในชีวิต?
  • ในสถานการณ์ใดที่ท่านมีสิทธิอำนาจเหนือคนอื่น? แล้วท่านจะเลียนแบบภาวะผู้นำที่เป็นคนรับใช้อย่างพระเยซูคริสต์ที่ให้ตนเองแก่คนอื่นรอบข้างในสถานการณ์นั้นๆ ได้อย่างไรบ้าง?

ภาวนา

องค์พระผู้เป็นเจ้า
เป็นการง่ายที่ข้าพระองค์จะรู้สึกขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงยอมสละชีวิตจนกระทั่งมรณา
เป็นพระคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ที่ทรงสละ เพื่อข้าพระองค์จะได้มีชีวิต

แต่เมื่อสำนึกได้ว่า
พระองค์ทรงเรียกข้าพระองค์ให้เลียนแบบตามแบบอย่าง “ผู้นำที่รับใช้และทนทุกข์” ของพระคริสต์
ข้าพระองค์ต้องตะลึง เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับข้าพระองค์ และ
พระองค์ทรงรู้ลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจและความรู้สึกของข้าพระองค์อย่างดี
แต่ข้าพระองค์ขอยอมรับว่า
ส่วนหนึ่งเพราะข้าพระองค์มิได้เข้าใจลึกซึ้งในความคิดเรื่องผู้นำแบบคนใช้
ผู้นำแบบคนใช้ของพระองค์เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจและรับได้

อย่างไรก็ตาม ข้าพระองค์ขอน้อมรับการทรงเรียกของพระองค์ และ
ทูลขอการทรงช่วยจากพระองค์ด้วย
โปรดสอนข้าฯ ให้รู้จักวิธีการรับใช้ผู้คนรอบข้างข้าพระองค์ในแต่ละวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนที่ข้าพระองค์จะต้องนำ
โปรดประทานสายตาที่ข้าพระองค์จะมองเห็นถึงความจำเป็นต้องการในชีวิตของคนเหล่านั้น
โปรดช่วยข้าพระองค์ให้เต็มใจที่จะให้ตนเองแก่เขา
พร้อมที่จะรับความไม่สะดวกสบายเพื่อเห็นแก่เขา
โปรดช่วยข้าพระองค์ให้เรียนที่รู้จะเป็นผู้นำแบบพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น