แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา
ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน
ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด”
พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์
ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น
และทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง
(ปฐมกาล 1:26-27)
ในอดีต ผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ คนเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก
ต่างก็เคยมีความเชื่อเรื่องมนุษย์บางกลุ่มที่เกิดมาโดยการสืบเชื้อสายจากเทพเจ้า หรือมีลักษณะของเทพเจ้า แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่เกิดมาด้วยการสืบทอดเชื้อสายอำนาจจากเทพนั้นมักเป็นคนชั้นสูงของสังคม
เช่น ผู้ที่บังเกิดมาเป็นกษัตริย์
ราชตระกูล
หรือไม่ก็เกิดมาเป็นผู้นำที่มีอำนาจที่เก่งกาจเกินมนุษย์ปกติธรรมดา ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าคนในแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกต่างก็มีความเชื่อว่า มีมนุษย์บางกลุ่มบางคนที่ได้รับสภาพชีวิตในความเป็นเทพเจ้า
หรือ พระเจ้า ซึ่งเป็นความคิดคล้าย ๆ กับความเชื่อตามพระคัมภีร์ในปฐมกาลบทที่
1
แต่อะไรที่เป็นความแตกต่างในเรื่องนี้?
ตามที่กล่าวถึงความคิดความเชื่อของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกแล้วว่า ผู้ที่จะเกิดมาเป็น “สมมติเทพ” หรือ
เป็นคนที่มีความเป็นเทพเจ้าในตัวของผู้นั้นจะเป็นคนชั้นสูง มีอำนาจ
และมีลักษณะพิเศษเฉพาะในสังคมคือที่เกิดมาเป็นกษัตริย์ พระราชินี หรือ
นักรบผู้แกร่งกล้า แต่สำหรับความคิดความเชื่อเรื่องที่มนุษย์ถูกสร้างขึ้นให้มี
“พระฉายาของพระเจ้า” นั้นเป็นการสร้างให้มีลักษณะของพระเจ้าในทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะเกิดมาเป็นยาจก ยากจน
มั่งมี หรือมีอำนาจล้นฟ้า ทุกคนมี “พระฉายาของพระเจ้า” ในชีวิตของเขา
พระคัมภีร์กำลังชี้ให้เห็นว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมามีคุณค่า
และคุณค่าของมนุษย์มิได้อยู่ที่ฐานะทางสังคม หรือ ชาติกำเนิด ตำแหน่ง
อำนาจ หรือ ฐานะทางเศรษฐกิจ
แต่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ทุกคนให้มีคุณค่าเท่าเทียมกันคือ ในทุกคนมีพระฉายา หรือ
มีความเป็นพระเจ้าอยู่ในตัว คุณค่าในชีวิตของมนุษย์แต่ละคนเป็นของประทานจากพระเจ้า
นอกจากนั้นแล้วพระองค์ยังมอบหมายให้มนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างตามพระลักษณะของพระเจ้านั้นให้เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ ในการปกป้อง
คุ้มครอง ดูแลสรรพสัตว์ สรรพสิ่ง
เพื่อนมนุษย์ และธรรมชาติแวดล้อมทั้งสิ้น ให้ต่างพึ่งพาอาศัยและส่งผลกระทบที่สร้างสรรค์
และ สร้างเสริมแก่กันและกัน ตามพระลักษณะของพระเจ้า
คริสตชนเชื่อว่า การที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์
พระเจ้ามิได้สร้างเฉพาะคนบางกลุ่มให้มีพระฉายาของพระองค์เท่านั้น เช่น
ชนชั้นผู้ปกครอง กษัตริย์ นักการเมือง
พวกยึดครองอำนาจทางเศรษฐกิจของสังคม
หรือ กลุ่มอำนาจทางวัฒนธรรม เช่น ผู้นำศาสนาในความเชื่อต่าง ๆ การที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์นั้น มิใช่เพื่อให้ชนกลุ่มหนึ่งมี “อภิสิทธิ์” หรือ
“ใช้อำนาจ” เพื่อกีดกัน ลดทอน คุณค่าในความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นลง
และยกฐานะความเป็นมนุษย์ของตนเองสูงเหนือคนอื่น
แต่พระเจ้าที่สร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์ในพระธรรมปฐมกาลนั้น ท้าทายต่อพวกผู้ครอบครองอำนาจในลักษณะต่าง ๆ ในสังคมปัจจุบันว่า
พวกเขากำลังใช้อำนาจแห่งพระฉายาของพระเจ้าเหยียบย่ำทำลายทำร้ายความเป็นคนของผู้อื่น
กลุ่มอื่น
อันเป็นการใช้พระราชอำนาจแห่งพระฉายาของพระเจ้าไปในทางที่ผิดต่อพระประสงค์ของพระผู้สร้างแห่งสากลจักรวาลนี้หรือไม่?
ในยุคที่ผู้คนในสังคมโลกนี้มีอาชีพการงานที่หลากหลายประเภทและลักษณะ ให้เราทำงานอาชีพ และ
ดำเนินชีวิตประจำวันตามพระประสงค์ของพระเจ้าที่ทรงสร้างเราขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ด้วยการที่เราจะมองเห็นผู้คน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า
หรือคนที่เราติดต่อสัมพันธ์ให้เห็นถึงคุณค่าแห่งพระฉายาของพระเจ้าในชีวิตความเป็นมนุษย์ของผู้คนเหล่านั้น
เมื่อใดที่เรามองแต่ละคนตามคุณค่าแห่งพระฉายาของพระเจ้าที่มีในตัวเขา เมื่อนั้นมุมมอง จิตใจของเรา
การตัดสินคุณค่าของคน ๆ นั้น
และการที่เราจะกระทำต่อเขาย่อมตั้งบนรากฐานแห่งการ “ยำเกรงพระเจ้า” และ
“การเทิดพระเกียรติ” แด่พระองค์
วันนี้ท่านเห็นเพื่อนมนุษย์แต่ละคนว่าเป็นคนที่มีคุณค่าแห่งพระฉายาของพระเจ้าหรือเปล่า?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น