ไม่ว่าท่านทั้งหลายจะทำสิ่งใดจงทุ่มเททำอย่างสุดใจ
เหมือนทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เพื่อมนุษย์
(โคโลสี 3:23 อมต.)
ทุกวันนี้เราทำงานเพื่อใครกันแน่?
เราท่านอาจมักคิดว่าเราทำงานเพื่อนายจ้าง
เราทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัวของเรา
เราทำงานเพื่อตัวเอง
เราทำงานเพื่อลูกของเรา...
แต่สำหรับคริสตชนแล้วสัจจะความจริงคือเราทำงานเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ให้เราทำงานรับใช้ด้วยความเต็มใจเฉกเช่นทำงานนั้นรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่มนุษย์
(เอเฟซัส 6:7 อมต.)
ไม่ว่างานนั้นจะต่ำต้อยแค่ไหน เช่นในสมัยที่ผู้เขียนต้องไปรับจ้างทำความสะอาดห้องส้วมของบริษัท
หรืองานนั้นที่ไม่เห็นเกี่ยวกับคริสตจักร หรือ คริสตชนเลยก็ตาม เช่น เมื่อต้องไปทำงานอบรมการทำงานชุมชน
และบ่อยครั้งก็เป็นงานที่ต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก แต่ทั้งหมดนี้ถ้าเราตระหนักชัดว่า
งานที่เราทำทุกวันนี้เป็นการทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรก็ตาม ให้เราทำอย่างทุ่มเท ทำอย่างสุดใจ
เหมือนทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อเราทำงานไหนก็ตามให้เราทำงานนั้นด้วยเต็มกำลัง (ปัญญาจารย์ 9:10 มตฐ.)
ในสายพระเนตรของพระเจ้าทุกงานเป็นงานที่มีเกียรติทั้งสิ้น เพราะเป็นการรับใช้พระองค์
ให้เราทำงานให้เป็นการถวายงานนั้นแด่พระเจ้า!
การที่เรามีงานทำในวันนี้ จงขอบพระคุณพระเจ้าเถิด เพราะเรามีโอกาสที่จะนำพระพรในรูปแบบต่าง ๆ เข้าถึงผู้คนรอบข้าง และ ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ให้เราอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
ให้งานที่เราทำนั้นเป็นผลงานที่เป็นพระพรแก่คนทั้งหลาย (สดุดี 90:17) งานอาชีพที่เราทำในทุกวันนี้คือเครื่องมือและโอกาสที่พระเจ้าประทานแก่เราที่จะสามารถนำชนทั้งหลายให้มาเป็นสาวกของพระองค์
(มัทธิว 28:19-22)
งานจึงเป็นโอกาสที่เราจะทำตามพระมหาบัญชาของพระคริสต์ และเราทำงานเพื่อเป็นเครื่องสักระบูชาแด่พระเจ้า และให้งานที่เราทำได้รับการอวยพระพรจากพระองค์
(สดุดี 128:2)
ปัญญาจารย์กล่าวว่า
ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าที่เราจะเปรมปรีดิ์ในงานที่เราทำ (ปัญญาจารย์ 3:22)
เพราะพระเจ้าได้ให้เรามีงานทำตามพระประสงค์ของพระองค์ และใช้งานที่เราทำให้เกิดผลตามพระประสงค์นั้น
แต่ถ้าเราทำงานแบบเฉื่อยเนือย ใส่เกียร์ว่าง
หาช่องเอาเปรียบคนอื่น
เรากำลังฉ้อฉลพระเจ้าผู้ประทานงานให้เราทำ เรากำลังคดโกงนายจ้าง เรากำลังเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน
พระเยซูคริสต์ยืนยันว่า ทั้งพระองค์เองและพระบิดายังทำงานอยู่ แม้การสร้างโลกนี้จะเสร็จสิ้นลง แต่พระองค์ยังมีพระราชกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะทำให้โลกนี้ไปสู่โลกที่เป็นแผ่นดินของพระเจ้า เพื่อให้โลกที่ทรงสร้างมีคุณภาพ นำไปสู่สภาพฟ้าสวรรค์ใหม่ แผ่นดินโลกใหม่ และพระเจ้าทรงสร้างเรา เพื่อเราจะทำงานสานต่อจากพระราชกิจของพระองค์ที่ได้ทำไว้ก่อนแล้ว เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์ และงานที่เราทำ ทำเพื่อที่จะตอบสนองต่อพระประสงค์ของพระองค์ เปาโลกล่าวไว้ว่า “ฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า...จงทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา
ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า ในองค์พระผู้เป็นเจ้า การตรากตรำของท่านจะไม่ไร้ประโยชน์”
(1โครินธ์ 15:58 มตฐ.)
ดังนั้น
การทำงานต้องเริ่มต้นที่รากฐานจิตวิญญาณ
ที่จะเกิดดอกออกผลในงานที่เราทำให้เป็นพระพรสำหรับทุกคนรอบข้าง
และเป็นการสรรเสริญและถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ซึ่งการทำงานก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เราอธิษฐานต่อพระเจ้า
การทำงานทำให้ทั้งชีวิตจิตใจของเราใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ทุกเวลา
งานที่เราทำในวันนี้จึงเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์
ศักดิ์สิทธิ์
และเป็นของประทานจากพระเจ้า
ที่เราจะต้องกระทำงานนั้นถวายแด่พระองค์
ด้วยความรักอย่างสุดจิตสุดใจและสุดความคิดที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
และให้การทำงานของเราในแต่ละวันเป็นการสำแดงความรักของเราต่อเพื่อนรอบข้างเฉกเช่นที่เรารักตนเอง
วันนี้เมื่อเราทำงานสิ่งหนึ่งประการใด โปรดตระหนักเสมอว่า
เรากำลังทำงานเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
และทบทวนตรวจสอบเสมอว่า
ตนเองกำลังทำงานเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่หรือเปล่า? เพื่อเราจะได้ทำงานด้วยสุดจิตใจของเราเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
โปรดตระหนักว่า คนตายไม่มีโอกาสที่จะทำงานที่บริสุทธิ์ สำคัญ
ศักดิ์สิทธิ์อย่างที่เขาเคยมีโอกาสทำมาก่อน
วันนี้เป็นโอกาสของเราทุกคนครับ!
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น