17 สิงหาคม 2558

ท่านทำงานเพื่อใคร...ในวันนี้?

ไม่ว่าท่านทั้งหลายจะทำสิ่งใดจงทุ่มเททำอย่างสุดใจ
เหมือนทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เพื่อมนุษย์ (โคโลสี 3:23 อมต.)

ทุกวันนี้เราทำงานเพื่อใครกันแน่?
เราท่านอาจมักคิดว่าเราทำงานเพื่อนายจ้าง 
เราทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัวของเรา 
เราทำงานเพื่อตัวเอง
เราทำงานเพื่อลูกของเรา...  

แต่สำหรับคริสตชนแล้วสัจจะความจริงคือเราทำงานเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า   ให้เราทำงานรับใช้ด้วยความเต็มใจเฉกเช่นทำงานนั้นรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่มนุษย์ (เอเฟซัส 6:7 อมต.)   ไม่ว่างานนั้นจะต่ำต้อยแค่ไหน เช่นในสมัยที่ผู้เขียนต้องไปรับจ้างทำความสะอาดห้องส้วมของบริษัท หรืองานนั้นที่ไม่เห็นเกี่ยวกับคริสตจักร หรือ คริสตชนเลยก็ตาม เช่น เมื่อต้องไปทำงานอบรมการทำงานชุมชน   และบ่อยครั้งก็เป็นงานที่ต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก   แต่ทั้งหมดนี้ถ้าเราตระหนักชัดว่า งานที่เราทำทุกวันนี้เป็นการทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา   ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรก็ตาม  ให้เราทำอย่างทุ่มเท  ทำอย่างสุดใจ เหมือนทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า   เมื่อเราทำงานไหนก็ตามให้เรา​ทำ​งาน​นั้น​ด้วย​เต็ม​กำลัง (ปัญญาจารย์ 9:10 มตฐ.)   ในสายพระเนตรของพระเจ้าทุกงานเป็นงานที่มีเกียรติทั้งสิ้น   เพราะเป็นการรับใช้พระองค์

ให้เราทำงานให้เป็นการถวายงานนั้นแด่พระเจ้า!

การที่เรามีงานทำในวันนี้  จงขอบพระคุณพระเจ้าเถิด   เพราะเรามีโอกาสที่จะนำพระพรในรูปแบบต่าง ๆ เข้าถึงผู้คนรอบข้าง  และ ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า   ให้เราอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า  ให้งานที่เราทำนั้นเป็นผลงานที่เป็นพระพรแก่คนทั้งหลาย (สดุดี 90:17) งานอาชีพที่เราทำในทุกวันนี้คือเครื่องมือและโอกาสที่พระเจ้าประทานแก่เราที่จะสามารถนำชนทั้งหลายให้มาเป็นสาวกของพระองค์ (มัทธิว 28:19-22)  งานจึงเป็นโอกาสที่เราจะทำตามพระมหาบัญชาของพระคริสต์    และเราทำงานเพื่อเป็นเครื่องสักระบูชาแด่พระเจ้า   และให้งานที่เราทำได้รับการอวยพระพรจากพระองค์ (สดุดี 128:2)  ปัญญาจารย์กล่าวว่า  ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าที่เราจะเปรมปรีดิ์ในงานที่เราทำ (ปัญญาจารย์ 3:22)   เพราะพระเจ้าได้ให้เรามีงานทำตามพระประสงค์ของพระองค์  และใช้งานที่เราทำให้เกิดผลตามพระประสงค์นั้น   

แต่ถ้าเราทำงานแบบเฉื่อยเนือย  ใส่เกียร์ว่าง  หาช่องเอาเปรียบคนอื่น   เรากำลังฉ้อฉลพระเจ้าผู้ประทานงานให้เราทำ   เรากำลังคดโกงนายจ้าง  เรากำลังเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน

พระเยซูคริสต์ยืนยันว่า  ทั้งพระองค์เองและพระบิดายังทำงานอยู่   แม้การสร้างโลกนี้จะเสร็จสิ้นลง   แต่พระองค์ยังมีพระราชกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง   เพื่อจะทำให้โลกนี้ไปสู่โลกที่เป็นแผ่นดินของพระเจ้า   เพื่อให้โลกที่ทรงสร้างมีคุณภาพ   นำไปสู่สภาพฟ้าสวรรค์ใหม่  แผ่นดินโลกใหม่   และพระเจ้าทรงสร้างเรา   เพื่อเราจะทำงานสานต่อจากพระราชกิจของพระองค์ที่ได้ทำไว้ก่อนแล้ว  เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์   และงานที่เราทำ ทำเพื่อที่จะตอบสนองต่อพระประสงค์ของพระองค์   เปาโลกล่าวไว้ว่า “ฉะนั้น​พี่​น้อง​ที่​รัก​ของ​ข้าพเจ้า...จง​ทำ​งาน​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ให้​บริบูรณ์​ทุก​เวลา ท่าน​ทั้ง​หลาย​พึง​รู้​ว่า ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า การ​ตราก​ตรำ​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​ไร้​ประ​โยชน์” (1โครินธ์ 15:58 มตฐ.)

ดังนั้น   การทำงานต้องเริ่มต้นที่รากฐานจิตวิญญาณ   ที่จะเกิดดอกออกผลในงานที่เราทำให้เป็นพระพรสำหรับทุกคนรอบข้าง  และเป็นการสรรเสริญและถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า   ซึ่งการทำงานก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เราอธิษฐานต่อพระเจ้า   การทำงานทำให้ทั้งชีวิตจิตใจของเราใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ทุกเวลา

งานที่เราทำในวันนี้จึงเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์  และเป็นของประทานจากพระเจ้า   ที่เราจะต้องกระทำงานนั้นถวายแด่พระองค์  ด้วยความรักอย่างสุดจิตสุดใจและสุดความคิดที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า   และให้การทำงานของเราในแต่ละวันเป็นการสำแดงความรักของเราต่อเพื่อนรอบข้างเฉกเช่นที่เรารักตนเอง

วันนี้เมื่อเราทำงานสิ่งหนึ่งประการใด   โปรดตระหนักเสมอว่า เรากำลังทำงานเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า   และทบทวนตรวจสอบเสมอว่า  ตนเองกำลังทำงานเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่หรือเปล่า?   เพื่อเราจะได้ทำงานด้วยสุดจิตใจของเราเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า

โปรดตระหนักว่า   คนตายไม่มีโอกาสที่จะทำงานที่บริสุทธิ์ สำคัญ ศักดิ์สิทธิ์อย่างที่เขาเคยมีโอกาสทำมาก่อน   วันนี้เป็นโอกาสของเราทุกคนครับ!

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น