21 สิงหาคม 2558

ระวังหลุมพราง...เมื่อกำลังแสวงหาพระประสงค์?

พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​นำ​ย่าง​เท้า​คน​ใด​ให้​มั่น​คง...
แม้​เขา​สะดุด เขา​จะ​ไม่​ล้ม​ลง
เพราะ​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ยุด​มือ​เขา​ไว้  (สดุดี 3:23-24 มตฐ.)

บางท่านอาจจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติชีวิต   บางคนถามตนเองว่าทำไมเราไม่พ้นจากสภาพการเป็นหนี้ที่ไม่รู้จักสิ้นสุดสักที?   เมื่อไหร่เราจะพบคู่ชีวิตตัวจริงของเราสักที?   ทำไมแฟนแต่ละคนที่เราพบถึงมีปัญหา  ที่ไม่สามารถไปด้วยกันได้สักคน?   ความฝันในชีวิตของเราทำไมถึงไม่เป็นจริงเลยสักครั้ง?   แล้วแต่ละเรื่องมันจะลงเอยกันแน่อย่างไรในที่สุด?

1. อย่าเชื่อผิด ๆ ว่า   ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นน้ำพระทัยที่พระเจ้าให้เกิดขึ้นเสมอไป    การที่คริสตชนมีความเชื่อแบบนี้มักทำให้คริสตชนคนนั้นต้องมานั่งสงสารตนเอง   แล้วจะเป็นเหตุให้ในที่สุดเราจะกล่าวโทษพระเจ้าที่ให้สิ่งนี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  มากกว่าที่กลับมาพิจารณาใคร่ครวญถึงความรับผิดชอบของตนเองต่อการที่ตัดสินใจกระทำบางอย่างที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นแก่เรา  ความเชื่อแบบนี้ยังทำให้คริสตชนที่นิ่งเฉย   คิดเอาเองว่า  “ฉันจะรอพระเจ้าที่จะประทานภรรยาให้แก่ฉัน” หรือ “ฉันจะรอให้พระเจ้าประทานงานให้ฉันทำ”  แต่ในความเป็นจริงคือพระเจ้าทรงประทานสมองให้เราสามารถที่จะคิด   พระองค์ประทานเท้าให้เราที่จะก้าวเดินออกไป   แล้วให้เราตัดสินใจที่ทำอะไรในบางเรื่อง

2. อย่าหลงผิดคิดว่าทุกเรื่องในชีวิตต้องมีคำตอบ   ทุกเรื่องต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน  ไม่เช่นนั้นเมื่อเราไม่ได้คำตอบเราก็จะเกิดการการวุ่นวายสับสน      จะรู้สึกสับสนงุนงงอย่างมาก    เพราะมิใช่ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ที่เราจะพบเห็นผล หรือ คำตอบที่ชัดเจน   เช่น เมื่อเราเริ่มต้นทำธุรกิจ  เราคิดว่าสิ่งนี้เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า   แต่ปรากฏว่าทำไปชั่วพักหนึ่ง   ธุรกิจที่เราทำมันล้มเหลว   เราก็กลับมาคิดในใจว่า  ตอนแรกคิดว่าเป็นน้ำพระทัยพระเจ้าให้ทำธุรกิจ  แต่ตอนนี้มันก็ล้มเหลว   จริง ๆ แล้วมันเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือเปล่าเนี่ย?

เราจะทำอย่างไรเมื่อเรื่องที่เราคิดว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า  แต่ทำไปแล้วก็ล้มเหลว   ทำให้เกิดความสงสัยว่า  แล้วนี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าหรือเปล่า?   แล้วเราจะทำอย่างไรเมื่อหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้?   เรายังคงไว้วางใจพระเจ้าหรือไม่?   เราเชื่อว่าในเวลานั้นพระเจ้ากำลังใช้เหตุการณ์นั้นในการเสริมสร้างชีวิตของเราในด้านต่าง ๆ หรือไม่?    จริง ๆ แล้วพระเจ้าทรงมีแผนการในชีวิตของเราหรือไม่?  

3. อย่ากลัวลาน   อะไรคือความกลัวที่ซ่อนเร้นเกี่ยวกับเรื่องน้ำพระทัยของพระเจ้า?   รากฐานที่ซ่อนเร้นในความกลัวลานนั้นคือการที่เรามีความสงสัยในความรักของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของเรา   ใน 1ยอห์น 4:18 กล่าวไว้ว่า  “ใน​ความ​รัก​นั้น​ไม่​มี​ความ​กลัว แต่​ความ​รัก​ที่​สม​บูรณ์​นั้น​ก็​ขับ​ไล่​ความ​กลัว​ออก​ไป​เสีย” (มตฐ.)   เวลาใดก็ตามที่เราเกิดความสงสัยในความรักของพระเจ้า   ในเวลานั้นเราจะเกิดความกลัวว้าวุ่นใจ   เพราะในเมื่อเราไม่ไว้วางใจในพระองค์   เราจะไม่เชื่อฟังพระองค์   และนั่นคือตัวนำให้ชีวิตของเราเข้าสู่ความสับสนซับซ้อนและยุ่งยากมากยิ่งขึ้น  

ในสดุดี 3:23-24 กล่าวไว้ว่า

พระยาห์เวห์ทรงนำย่างเท้าคนใดให้มั่นคง...
แม้เขาสะดุด เขาจะไม่ล้มลง
เพราะพระยาห์เวห์ทรงยุดมือเขาไว้

น้ำพระทัยของพระเจ้าคือการที่พระองค์ทรงสำแดงความรักของพระองค์ออกมา   ในเวลาที่เรายังไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงสิ่งที่พระเจ้ากำลังทรงกระทำ  หรือสิ่งที่พระเจ้าอนุญาตให้เกิดขึ้น  เราจะต้องมีความอดทน   พระเจ้าทรงรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของเรา   แต่ในเวลานี้เรายังไม่สามารถเห็นและรู้ชัดว่าเรื่องทั้งสิ้นจะจบลงเช่นไร   แต่เราจะรู้ในที่สุด   เส้นทางของพระเจ้าที่เราต้องเดินนั้นในบางช่วงจะเป็นเส้นทางแห่งความเจ็บปวดในชีวิต   แต่ในความเจ็บปวด  ในเวลาที่ความสำเร็จขับเคลื่อนมาอย่างเชื่องช้า   หรือความทุกข์ยากที่เกิดแล้วเกิดอีกในชีวิตของเรา   เป็นโอกาสที่พระเจ้าจะทรงเสริมสร้างชีวิตของเราให้เป็นไปตามพระประสงค์

ในเวลาที่มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับคนดี   พระเจ้าทรงทำสิ่งเลวร้ายนั้นในชีวิตของคนดีหรือ?   หรือเมื่อสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคนดี  แม้ว่าสิ่งเลวร้ายนั้นพระเจ้ามิได้กระทำก็ตาม     แต่พระเจ้าทรงสนพระทัยในชีวิตของคน ๆ นั้น   และหาทางที่จะทำให้เกิดสิ่งดีขึ้นจากวันเลวร้ายในชีวิตของเขามิใช่หรือ?

ท่านกำลังรอพระเจ้าให้กระทำอะไรให้เกิดขึ้นในชีวิตของท่าน?   ท่านคิดว่าในเวลาเช่นนั้นท่านมีเพียงนั่งรอให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น หรือ เป็นโอกาสที่ท่านจะใกล้ชิดติดสนิทขอพระเจ้าทรงทรงสำแดงให้ท่านรู้ว่า   ในเรื่องที่กำลังรอคอยนั้นท่านควรกระทำอะไรบ้าง?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น