27 สิงหาคม 2558

ค้นพบเป้าหมายชีวิตท่ามกลางความทุกข์ยากสาหัส

นักเขียนชาวอังกฤษ ซอมเมอร์เซท เมิกแฮม (Somerset Maugham) ได้เขียนเรื่องราวของนักการภารโรงคนหนึ่งที่ทำงานที่โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ในกรุงลอนดอน   ต่อมามีผู้พบภายหลังว่านักการท่านนี้อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้   ความจริงก็คือว่าเขาพยายามปกปิดเรื่องนี้ตลอดมา   แต่ในที่สุดเขาก็ถูกเปิดโปงและให้ออกจากงาน

เมื่อตกงาน ชายคนนี้ได้เอาเงินที่กระเหม็ดกระแหม่สะสมไว้มาลงทุนเปิดร้านค้าเล็ก ๆ  เขาค่อย ๆ มีรายได้เพิ่มขึ้น ค่อย ๆ มั่งคั่งมากขึ้น   จนเขาสามารถเปิดร้านใหม่หลายร้าน   ในที่สุดเขามีสาขาร้านค้ามากมายกลายเป็นคนที่ร่ำรวยมั่งคั่งคนหนึ่ง

วันหนึ่ง  เมื่อเขามาทำธุรกรรมการเงินของเขาที่ธนาคาร   นายธนาคารถามเขาว่า  “ท่านคิดว่า  ถ้าท่านสามารถอ่านออกเขียนได้  สถานภาพตอนนี้จะดีขึ้นแค่ไหน?”

ชายคนนี้ตอบว่า  “อ๋อ... ฉันก็ยังคงเป็นแค่...ภารโรงที่โบสถ์เซ็นต์ ปีเตอร์อยู่อย่างเดิมกระมัง”

ความทุกข์ยากขัดสน ความด้อยโอกาสได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเรื่องแล้วเรื่องเล่า   นั่นก็เป็นเพราะว่าคน ๆ นั้นไม่ยอมที่จะงอตีนงอมือปล่อยให้วิกฤติทุกข์ยากในชีวิตไหลท่วมทับชีวิตของเขา   แต่เขาคนนั้นกลับลุกขึ้นรับมือสู้ความท้าทายเหล่านั้นด้วยความมุ่งมั่น อดทน   แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาเรียนรู้ในทุกอณูของความทุกข์ยากลำบาก  แล้วเติบโตขึ้นท่ามกลางความขัดสนที่ต้องเผชิญ   แล้วมุ่งมองหาที่จะก้าวออกจากวิกฤติกองทุกข์ และ มุ่งมั่นกล้าเสี่ยง ก้าวเข้าไปสู่อาณาพื้นที่ชีวิตใหม่แม้จะยังไม่เคยทำไม่เคยจัดการกับมันมาก่อนก็ตาม  

สิ่งนี้ก็เป็นสัจจะความจริงในชีวิตของคริสตชนเช่นกัน   ด้วยความสาหัสหนักหนาที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา   ทำให้เราตัดสินใจ “คุกเข่าลง”  ก้มหัวของเราลงท่ามกลางความหมดทางสิ้นหวัง  ก่อนที่เราจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์   เพื่อแสวงหาการทรงนำให้เราพบเส้นทางที่จะเผชิญวิกฤตินั้น  แล้วใช้วิกฤติเป็นเครื่องมือเสริมสร้างความเข้มแข็งของชีวิต  เรียนรู้ชีวิต  ความมืดถูกพลิกเป็นความสว่าง  ทางที่แสนขรุขระถูกถมปรับให้ราบเรียบ   และที่สำคัญคือ  บนเส้นทางแห่งความทุกข์ยากสาหัสนั้นเองที่เราได้พบ ใกล้ชิด สัมผัส  และรู้จักกับองค์พระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น

แทนที่เราจะมุ่งมองจับเจ่าอยู่กับความทุกข์ยากลำบากที่เรากำลังเผชิญอยู่ว่า ชีวิตเราตกต่ำ  ชีวิตต้องคำสาปแช่ง  หรือ ชีวิตนี้ไม่เป็นธรรมกับตน  แต่ในฐานะคริสตชนให้เรามองด้วยสายตาชีวิตที่มีความหวังในพระคริสต์   มองด้วยสายตาที่เห็นถึงโอกาสของการเรียนรู้และเติบโตไปกับพระคริสต์ท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก  

จงตระหนักเสมอว่า ในทุกความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้น (ไม่ว่าจากสาเหตุอะไรหรือใครเป็นต้นเหตุ) ท่านสามารถที่จะเปิดใจเปิดชีวิตให้พระเจ้าทรงใช้สถานการณ์นั้นในการหล่อหลอม เสริมสร้างชีวิตของท่านขึ้นใหม่   ให้เป็นชีวิตที่อุทิศ ภักดี สัตย์ซื่อ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่  และเข้มแข็งเกิดผลในการติดตามและเป็นสาวกของพระคริสต์

และหลังจากพวกท่านทนทุกข์ชั่วเวลาหนึ่งแล้ว พระเจ้าแห่งพระคุณทั้งสิ้น ผู้ได้ทรงเรียกให้พวกท่านเข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์ของพระองค์ในพระเยซูคริสต์ พระองค์เองก็จะทรงฟื้นฟู จะทรงค้ำจุนให้มั่นคง จะทรงเสริมเรี่ยวแรง และจะทรงให้พวกท่านตั้งมั่นอยู่ (1เปโตร 1:10 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น