ท่านตระหนักรู้หรือไม่ว่า ขณะนี้ท่านกำลังเข้าใกล้ความสำเร็จที่ท่านคาดฝันไว้มากแค่ไหน?
ถ้าเราท่านรู้ว่าเราใกล้ความสำเร็จเข้าทุกที
เราคงจะรีบคว้าความสำเร็จที่อยู่แค่เอื้อมมือใช่ไหม?
ความจริงในชีวิตประการหนึ่งก็คือว่า ไม่ว่าเราจะรู้สึกว่าเรากำลังล้มเหลวแค่ไหน
ความสำเร็จยังพร้อมที่จะทะลักเข้ามาในชีวิตของเรา สิ่งสำคัญคือเราต้อง “รื้อ”
สิ่งที่ปิดกั้นความสำเร็จที่มีในชีวิตของเราออกเสีย
สิ่งปิดกั้นความสำเร็จในตัวเรา
3
ประการคือ...
1. ลูกอีช่างแก้ตัว:
ถ้าเราพิจารณาถึงชีวิตของบุคคลที่ประสบความสำเร็จเราจะพบว่า คนพวกนี้ไม่ยอมแก้ตัว อย่างเช่น สตีฟ จอบส์
เมื่อสิ่งที่เขาคิดเขาทำประสบความล้มเหลว
เขาไม่เคยกล่าวโทษคนอื่น
โยนความผิดให้คนอื่น หรือ “หาแพะ”
มารับบาป เขาเปิดใจยอมรับความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในสิ่งที่เขาคิด
เขาตัดสินใจ และสิ่งที่เขาทำ
เขาไม่พยายามที่จะอ้างโน่นอ้างนี่ รวมถึงอ้างว่าไม่มีทางเลือกที่จะไม่ให้เกิดความล้มเหลว
เขาไม่เป็น “ลูกอีช่างแก้ตัว”
เพราะเขาตระหนักรู้แล้วว่า
ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ยิ่งกว่านั้นความล้มเหลวที่เกิดขึ้นมิใช่ตัวบ่งบอกว่าทุกอย่างถึงกาลอวสาน แต่เขากลับมองว่า
ความล้มเหลวเป็นเพียงย่างก้าวหนึ่งบนวิถีที่นำไปสู่ความสำเร็จ
2. กลัวที่จะล้มเหลว: ตามที่กล่าวแล้วว่า
ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา และความล้มเหลวมิใช่ตัวบ่งชี้ว่าถึงกาลอวสาน แต่เป็นอีกย่างก้าวหนึ่งของวิถีที่นำไปสู่ความสำเร็จ
แต่เราพบว่า
คนจำนวนไม่น้อยเลยที่เมื่อต้องพบประสบกับความล้มเหลวแล้วจะรู้สึกและคิดว่า ตนเองหมดสิ้นทุกอย่าง เขายกมือยอมแพ้
แต่ไม่รู้ตัวเลยว่าแท้จริงแล้วเขาได้มุ่งเข้าไปใกล้เป้าหมายและความสำเร็จมากขึ้นทุกที
ทั้งนี้เพราะ
เขากล่าวโทษตนเองเมื่อเกิดความผิดพลาดล้มเหลว
เขามักคิดว่าตนเองต้องผิดพลาดอะไรสักอย่างหนึ่งถึงทำให้สิ่งที่ตนทำเกิดความล้มเหลว ดังนั้น เมื่อคนกลุ่มนี้จะทำอะไร สิ่งที่ผุดขึ้นในความนึกคิดและจิตใจของเขาคือ
“กลัวว่าตนจะทำผิดพลาด”
กลัวว่าตนต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลว
ทั้งนี้เขามิได้ตระหนักรู้ชัดว่า
ความล้มเหลวหรือความสำเร็จเป็นสิ่งที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันที่เขากำลังต้องจาริกไป และความล้มเหลวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น
เมื่อเกิดความกลัวการล้มเหลว เขาก็หยุดชะงักที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ
3. กดดันตนเอง: เวลาสตีฟ จอบส์, เอดิสัน,
หรือ ไอสไตน์ ประสบกับความล้มเหลว คนพวกนี้ตะโกนด่าตนเองในใจว่าตนเองนี้มันงี่เง่า ขี้เกียจ ทุ่มเทไม่พอ หรือกล่าวด่าทอต่อว่าตนเองต่าง
ๆ นานา เช่นนั้นหรือ?
ไม่เลยคนเหล่านี้ไม่ได้ทำเช่นนั้น
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจะไม่กดดันตนเองเมื่อต้องพบกับความผิดพลาดล้มเหลว เพราะพวกเขารู้เท่าทันตนเองว่า
การกดดันตนเองรังแต่จะสร้างอารมณ์โกรธให้เกิดขึ้นในตนเอง
และการกระทำเช่นนี้เท่ากับว่าเขายิ่งผลักดันให้เป้าหมายและความสำเร็จห่างไกลเขาออกไปทุกที แล้วเขาเองก็ยังรู้สึก “หัวเสีย” อยู่ดี
แต่ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตเหล่านี้เมื่อประสบความล้มเหลว เขาได้ปรับให้การไม่ได้ตามที่คาดหวังให้เป็นอารมณ์ที่มีพลังเชิงบวก เป็นพลังที่เขาจะใช้ในทางที่สร้างสรรค์
เขาใช้ความผิดพลาดล้มเหลวเป็นเชื้อเพลิงที่จะขับเคลื่อนเครื่องยนต์ของตนไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จ
อย่าลืมสัจจะความจริงเมื่อเราจะต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลวว่า
เรากำลังเข้าใกล้ความสำเร็จมากกว่าที่เราคิดเราคาด เพียงให้รู้เท่าทันและหาหนทางในการ “รื้อ”
เครื่องปิดกั้นความสำเร็จที่มีในตัวเราออกไปเสีย
เมื่อนั้น เราจะเห็นเป้าหมายและความสำเร็จชัดเจน
ที่สำคัญเราได้ปรับเปลี่ยนเครื่องปิดกั้นความสำเร็จให้กลายเป็นเชื้อเพลิงที่เป็นพลังให้เราขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จเพิ่มมากขึ้น
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น