ใคร่ครวญชีวิตเมื่อเริ่มต้นปี ค.ศ. 2016
ในชีวิตเราท่านแต่ละคนต่างต้องเคยพบกับความล้มเหลวมาแล้วทั้งสิ้น
หลายคนที่ประสบพบกับความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน แต่บอกได้เลยว่า
ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือการที่ล้มเหลวแล้วเจ้าตัวยอมแพ้ไม่ยอมลุกขึ้นสู้แม้แต่ที่จะถามตนเองว่า ทำไมถึงล้มเหลว
ความล้มเหลวไม่ใช่การผิดพลาดอย่างสิ้นเชิงในชีวิต แต่สำหรับคริสตชนแล้ว
ความล้มเหลวคือโอกาสที่เราจะกลับมาหาพระเจ้า
แล้วพิจารณาใคร่ครวญที่จะถอดบทเรียนรู้ออกมาให้ได้ว่า ทำไมถึงล้มเหลวในครั้งนี้?
ใช่ครับแท้จริงแล้วความล้มเหลวนั้นมีประโยชน์สำหรับชีวิตแต่ละคน ความล้มเหลวมิได้ให้แต่ความเจ็บปวดแก่เรา แต่ในความล้มเหลวนั้นเปี่ยมล้นด้วยโอกาสของการเรียนรู้สิ่งใหม่ที่เราไม่รู้
หรือ ที่เราละเลยไม่สนใจ
และโอกาสแห่งการเรียนรู้นี้เองที่ท้าทายเจ้าตัวว่า จะจมจ่อมกองอยู่ในความล้มเหลวพ่ายแพ้ หรือ
เจ้าตัวจะตัดสินใจลุกขึ้นแล้วจัดการเรียนรู้ถึงสาเหตุของความล้มเหว
เพื่อจะหาช่องทางที่จะนำเราสู่การพัฒนาชีวิตให้กลายเป็นคนที่พระเจ้าสามารถใช้ได้ให้สำเร็จตามแผนการในชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์
ใช่ครับ...
ความล้มเหลวที่เราประสบเป็นเพียงระฆังบอกยกที่เตือนให้เรากลับรับพระปัญญาจากพระเจ้าที่เราจะเรียนรู้และมีแผนสำหรับการชกยกต่อไป
และเตือนเราให้เชื่อพึ่งในพระกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ในยกใหม่ มิใช่พึ่งแต่กำลังของตนเองเท่านั้น
เป้าหมายหลักใหญ่ของการขึ้นชกในยกใหม่มิใช่
“ชัยชนะ”
แต่เป้าหมายปลายทางคือการที่ทั้งชีวิตของเราได้รับการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างให้เข้มแข็งและสมบูรณ์ขึ้นเป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้น
เพื่อที่พระเจ้าจะทรงใช้ชีวิตของเราให้สานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ที่เริ่มต้นไว้แล้วบนแผ่นดินโลกนี้อย่างเกิดผลตามพระประสงค์ของพระองค์
ซึ่งในสายตาของสังคมโลกจะมองพระคริสต์ที่กางเขนว่า “อ่อนแอ” “หมดทางสู้” “พ่ายแพ้” จบสิ้นแล้ว
ทุกอย่างน่าจะวางกองไว้ในอุโมงค์ฝังศพที่โยเซฟให้ใช้ สาวกจะทำได้ดีที่สุดก็แค่ไปคารวะพระศพ ชโลมศพด้วยน้ำมันและเครื่องหอม ไปร้องไห้อาลัยถึงด้วยความเคารพรัก
แต่พระคริสต์ไม่ได้จมจ่อมกองไว้ในอุโมงค์ที่สาวกคาดคิดนั้น แต่พวกเขากลับพบพระคริสต์นอกอุโมงค์นอกเหนือความคาดหวังของเขา พวกเขาพบพระองค์ที่ริมฝั่งทะเล บนเส้นทางเอมมาอูสที่มีแต่ความรู้สึกหดหู่ ผิดหวัง และในห้องชั้นบนที่สาวกซ่อนตัวรวมกันด้วยความหวาดกลัว เมื่อสาวกพบกับพระคริสต์สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
ความคิด ความเข้าใจ มุมมอง และความเชื่อในชีวิตถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งชีวิตได้รับการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างใหม่จากพระคริสต์ สาวกเป็นคนใหม่ในบริบทสังคมและชีวิตเดิม ๆ
พระคริสต์มิได้เปลี่ยนสถานการณ์ให้สาวกใช้ชีวิตตามศักยภาพเดิม
ๆ
แต่ทรงเปลี่ยนชีวิตสาวกเพื่อรับมือกับสถานการณ์เดิม ๆ
ที่เขาเคยพ่ายแพ้มาแล้ว
ให้สามารถทำในสิ่งที่พระคริสต์จะทรงมอบหมายให้เขาสานต่อได้ ชีวิตของสาวกได้รับการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างใหม่
เพื่อจะสามารถรับผิดชอบสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ตามบริบทและสถานการณ์ในสังคมโลกนี้
จากนั้นพระคริสต์จึงทรงมอบหมายให้สาวกของพระองค์สานต่อพระราชกิจของพระองค์
และส่งทอดมรดกแห่งพระราชกิจของพระคริสต์รุ่นต่อรุ่นแห่งความเชื่อ
เราท่านในฐานะสาวกของพระคริสต์
เมื่อชีวิตของเราต้องประสบจุดวิกฤติล้มเหลวลงในชีวิต โปรดระลึกเสมอว่า นั่นเป็นโอกาสที่เปิดออกสำหรับท่านที่จะเข้าหาพระเจ้า
รับการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างจากพระองค์ผ่านประสบการณ์ในวิกฤตินั้น ให้เราเป็นสาวกคนใหม่ ที่พระคริสต์จะสามารถมอบหมายความรับผิดชอบในการสานต่อพระราชกิจของพระองค์ในสถานการณ์และบริบทล้อมรอบชีวิตที่พระเจ้าทรงวางท่านไว้นั้น
เพื่อชีวิตของท่านจะสามารถมีพลังขับเคลื่อนแต่ละวันอย่างเกิดผล และ
เข้มแข็งขึ้น ตามพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตของเราแต่ละคน
สำหรับคริสตชนแล้วพระเจ้าให้โอกาสแก่เราเมื่อ
“ชีวิตล้มลง” เพื่อจะลุกขึ้น การล้มเหลวมิใช่การพิพากษาหรือความไม่พอใจของพระเจ้าต่อชีวิตของเรา แต่เมื่อเราล้มเหลวในชีวิต พระเจ้าเพียรรอคอยการกลับมาของเรา เหมือนพ่อรอวันกลับมาของบุตรคนเล็ก และเมื่อลูกคนเล็กที่ชีวิตล้มเหลวสูญเสียไม่เหลืออะไร พ่อกลับมองว่า
คุณค่าของลูกคนเล็กมิได้อยู่ที่ว่าชีวิตของเขาเหลืออะไรกลับมาบ้าน แต่สิ่งสูงสุดและมีค่ายิ่งในสายตาของพ่อคือ พ่อสูญเสียลูกไปแล้วแต่ได้ลูกกลับคืนมา ลูกตายไปแล้วแต่กลับมีชีวิตใหม่
แน่นอนครับ
ชีวิตของบุตรคนเล็กเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งความคิด ความเชื่อ มุมมอง และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และยิ่งกว่านั้น
ลูกคนเล็กคนนี้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปตามความประสงค์ของผู้เป็นพ่อแน่นอน
พ่อไม่ได้เปลี่ยนสถานการณ์บริบทแวดล้อมชีวิต
แต่พ่อเปลี่ยนชีวิตลูกให้รับมือกับสถานการณ์และบริบทแวดล้อมเดิม ๆ
อย่างสร้างสรรค์ตามพระประสงค์ของพระองค์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น