จากบทคิดข้อเขียนครั้งก่อน ที่กล่าวถึง “ใหม่สด ทุกเช้า จากพระเจ้า” ที่กล่าวถึงความรักมั่นคงที่ไม่หยุดยั้ง และพระกรุณาของพระเจ้าที่ไม่มีสิ้นสุด ที่มีมาถึงเราทุก ๆ เช้าของวันใหม่
(เพลงคร่ำครวญ 3:22-23)
ผู้ประพันธ์บทเพลงนี้กล่าวถึงความรักเมตตาและพระกรุณาคุณของพระเจ้าที่มิสามารถหาสิ่งใดเปรียบได้ เป็นพระคุณที่ไม่สามารถจะนับและจดจำได้อย่างครบถ้วน
เราท่านและคริสตชนมักคัดลอก หรือ
กล่าวถึงพระคัมภีร์สองข้อนี้โดด ๆ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นประสบการณ์ชีวิตของผู้ที่ตกทุกข์ระกำลำบาก
เรียกว่าสูญเสียซึ่งทุกอย่าง เป็นประสบการชีวิตที่ขยาดเข็ดเคี้ยวอย่างเคี้ยวกรวด จมอยู่ในกองทุกข์อย่างชีวิตจมจ่อมคลุกอยู่ในขี้เถ้า
ชีวิตพบแต่ความทุกข์ลำบากจนลืมไปแล้วว่าสันติสุขมันเป็นอย่างไรกันแน่ สูญเสียศักดิ์ศรีและความหวังในชีวิต เป็นประสบการณ์ที่ขมขื่นอย่างบอระเพ็ด
จิตใจมีแต่ความหดหู่
แล้วผู้ประพันธ์บอกกับเราว่า ที่เขายังกล่าวถึงเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตเหล่านี้ได้
เพราะเขามีความหวัง (ดู เพลงคร่ำครวญ 3:16-21)
ท่ามกลางความทุกข์ระทมขมขื่นและสูญเสียทุกอย่างแต่เขากลับมีความหวัง?
เป็นไปได้อย่างไรที่ท่ามกลางความสิ้นหวังและสูญเสียทุกอย่างแล้วยังมีความหวังอีก? ความหวังนี้มาจากที่ไหนกันแน่?
แน่นอนครับ
ความหวังของผู้ประพันธ์เพลงคร่ำครวญบทนี้มิได้มาจากสถานการณ์แวดล้อมในชีวิตของเขา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความอดทน หรือ
ความคาดหวังเชิงบวกในความคิดของเขา
มิใช่เขาคาดหวังในสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ที่ใจของเขาอยากให้เกิดขึ้น
แต่ความหวังในชีวิตประจำวันของเขาท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก
ถูกเนรเทศไปอยู่ต่างแดน ในฐานะเชลยศึก ทาสรับใช้ของประเทศมหาอำนาจ ความหวังของเขายังมีพลังในชีวิตจิตใจของเขาได้เพราะ ประสบการณ์ชีวิตของเขายืนยันตั้งมั่นคงว่า พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยความรักมั่นที่ไม่เคยหยุดยั้ง
และพระกรุณาธิคุณของพระองค์ก็ไม่เคยหมดสิ้นไม่ว่าชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม และเขามีประสบการณ์แล้วว่าทุกเช้าทุกวันพระเจ้าทรงมี
“สิ่งใหม่” สำหรับชีวิตของเราในแต่ละวัน ประสบการณ์ชีวิตเหล่านี้เองที่บ่มเพาะก่อเกิดความหวังในชีวิตของเขา
พระเมตตาคุณของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตเราอย่างไร้เงื่อนไขนี้เอง
เป็นแหล่งพลังแห่งความหวังของเราทุกวัน
ความหวังของท่านในวันนี้มาจากไหน?
เป็นพลังชีวิตจากอะไรหรือใคร?
ปีใหม่ เดือนใหม่ วันใหม่แต่ละวัน เรามิได้มีความหวังเพราะสถานการณ์แวดล้อม หรือเพราะเราสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ
มิใช่คิดบวกแล้วชีวิตจะดีขึ้น
แต่ที่เรามีความหวังในชีวิตไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์เช่นไรได้นั้น เพราะพระเมตตาและพระกรุณาธิคุณของพระเจ้า จงมั่นใจเถิดว่า วันนี้ไม่ว่าเราจะต้องเผชิญผ่านพบกับอะไร ใคร
หรือสถานการณ์อย่างไร
ความรักมั่นคง และ พระกรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่กับเรา และ พระเจ้าทรงกระทำกิจของพระองค์ในชีวิตของเราไม่หยุดยั้ง
และ ไม่สิ้นสุด ความเที่ยงตรง
สัตย์ซื่อของพระองค์นั้นคือพลังแห่งความหวังในชีวิตของเรา
ในวันนี้
เราท่านจะได้รับการทรงเสริมสร้างใหม่จากพระเจ้า ไม่ว่าชีวิตต้องผ่านพบเหตุการณ์ สถานการณ์เช่นไรก็ตาม
ขอให้เราเริ่มต้นวันใหม่วันนี้ด้วยการใคร่ครวญบทเพลงคร่ำครวญ 3:16-23 ด้วยจิตภาวนา และเปิดรับการทรงเสริมสร้างจากพระเจ้าด้วยพระปัญญา และ
พระราชกิจที่กระทำในชีวิตของเราในวันนี้
16
พระองค์ทรงให้ฟันข้าพเจ้าเคี้ยวก้อนกรวด
พระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าหมอบในกองขี้เถ้า
17
ชีวิตข้าพเจ้าขาดสันติสุข จนข้าพเจ้าลืมว่าความสุขเป็นอย่างไร
18
ข้าพเจ้าจึงว่า “ศักดิ์ศรีของข้าพเจ้าสูญไปแล้ว ทั้งความหวังของข้าพเจ้าในพระยาห์เวห์ด้วย”
19
การคิดถึงความทุกข์ยากและการพลัดบ้านของข้าพเจ้า เป็นบอระเพ็ดและของขม
20
ข้าพเจ้ายังคิดถึงเนือง ๆ และจิตใจข้าพเจ้าก็หดหู่
21
ข้าพเจ้าหวนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงมีความหวัง
22
ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด
23
เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก
(เพลงคร่ำครวญ 3:16-23 มตฐ.)
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น