24 มีนาคม 2559

รับใช้และให้ชีวิต...ที่มาของความสุขชื่นชมในชีวิต

คนปัจจุบันนี้ต่างไขว่คว้าแสวงหาความสุขในชีวิต   บางคนบางกลุ่มแสวงหาความสุขจากฐานะ ตำแหน่งในสังคม  หน้าที่การงาน    ความสุขของคนกลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับคนอื่นล้อมรอบมองตนอย่างไร   คนรอบข้างให้คุณค่า   ความนับถือ  และความสำคัญแก่ตนแค่ไหน   ความสุขของคนกลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับการยอมรับ  การตอบสนอง  ท่าทีของคนอื่นต่อตนเอง   ซึ่งตนเองไม่สามารถควบคุมคนอื่นให้ตอบสนองต่อตนเองได้อย่างจริงใจ   ดั่งใจปรารถนา

คนอีกกลุ่มหนึ่ง  ทำงานหนักในชีวิตเพื่อจะสะสมกักตุนทรัพย์สิน เงินทอง  สิ่งของทรัพย์สมบัติ   เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เขามองว่าจะให้ความสุขกับตนเอง   คุณค่าในชีวิตของคนกลุ่มที่สองนี้อยู่ที่ “มี” ทรัพย์สิน เงินทอง  สิ่งของ   ดังนั้น  เขาจึงต้องแสวงหาอย่างหนัก   แล้วยังต้องเก็บสะสม   และทุ่มเทในการรักษาให้เป็นของตนนานที่สุด   แต่ถ้าเป็นได้ก็ตลอดไป   ดังนั้น  คนกลุ่มนี้จึงมิได้มีคำว่า “ให้” ในชีวิตของเขา   นอกจากการแลกเปลี่ยนแล้วตนได้เปรียบในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น

ใครก็ตามที่พยายามปกป้อง หรือ เอาชีวิตตนเองให้รอด  คนนั้นจะสูญเสียชีวิต   แต่ใครก็ตามที่ยอมให้ชีวิตของตนเพราะเห็นแก่พระคริสต์และพระประสงค์ของพระองค์   คนนั้นจะได้รับชีวิตใหม่     “...​ใคร​ต้อง​การ​จะ​เอา​ชีวิต​รอด คน​นั้น​จะ​เสีย​ชีวิต แต่​ใคร​ยอม​เสีย​ชีวิต​เพราะ​เห็น​แก่​เรา​และ​ข่าว​ประเสริฐ คน​นั้น​จะ​ได้​ชีวิต​รอด”  (มาระโก 8:35 มตฐ.)   พระคริสต์พูดตรงไปตรงมาว่า   การที่มีทรัพย์สมบัติมากมายสิ้นทั้งโลกจะเป็นประโยชน์อะไร   ถ้าการมีสิ่งเหล่านั้นกลับเป็น “การทำลาย หรือ สูญเสียชีวิตของตัวเองไป” (ดู ลูกา 9:25 และ มาระโก 8:36 มตฐ.)

แต่พระคริสต์บอกกับสาวก  ใน มัทธิว 20:28 ว่า   ...​บุตร​มนุษย์​...​ไม่​ได้​มา​เพื่อ​รับ​การ​ปรนนิบัติ แต่​มา​เพื่อ​ปรนนิบัติ(รับใช้)คน​อื่น และ​ให้​ชีวิต​ของ​ท่าน​เป็น​ค่าไถ่​คน​จำนวน​มาก (มตฐ.)

พระคริสต์เข้ามาในโลกใบนี้ด้วยการ “รับใช้ และ ให้ชีวิต” แก่มวลชนคนที่พระเจ้าทรงสร้าง   ทั้งการรับใช้และการให้ชีวิตจะช่วยให้ชีวิตของผู้เชื่อมีความสุข และ ยิ่งกว่านั้นยังมีความชื่นชมยินดีอย่างแท้จริง   และนี่เป็น “สาวกที่ติดตามพระคริสต์” อย่างเป็นรูปธรรมในยุคปัจจุบันนี้   ในทางกลับกันเรากล่าวได้เต็มปากว่า   ถ้าเราไม่ดำเนินชีวิตประจำวันที่ “รับใช้ และ ให้ชีวิต” แก่ผู้คนรอบข้างเรา   เราก็ไม่ได้เป็นสาวกของพระคริสต์   เราก็ไม่ได้ติดตามพระองค์   ต่อให้เราได้เข้าร่วมรับอบรมการสร้างสาวกกี่หลักสูตร กี่ครั้งก็ตาม

เปาโลบอกกับผู้เชื่อในฟีลิปปีว่า   ถ้าความเชื่อของผู้เชื่อในฟิลิปปี มีชีวิตที่ยอมเป็นเหมือนเครื่องบูชาที่ “ให้” ชีวิตของตนแก่ผู้คนรอบข้างเพราะผู้เชื่อทำตามพระวจนะและพระประสงค์ของพระเจ้า   เปาโลจะมีความยินดีอย่างยิ่งกับชีวิตของผู้เชื่อในฟีลิปปี   และการที่ผู้เชื่อในฟีลิปปี “ให้” ชีวิตของตนแก่คนรอบข้างเป็นเหมือนเครื่องบูชาที่ถวายแด่พระเจ้า   ผู้เชื่อในฟีลิปปีก็จะมีชีวิตที่ชื่นชมยินดีด้วยเช่นกัน (ดู ฟิลิปปี 2:17-18)

คริสตชนมิได้ “เชื่อศรัทธา” ในพระเจ้าด้วยความนึกคิดจิตใจ แล้วแสดงออกมาด้วยวาจาทางปากเท่านั้น   แต่ความเชื่อศรัทธา และ การติดสนิทกับพระเจ้าของคริสตชนควรเป็นความเชื่อที่ “จะแจ้งเห็นและสัมผัสได้” ที่สำแดงออกมาเป็นรูปธรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน   นั่นคือ พระวจนะ และ พระประสงค์ของพระเจ้ากลายเป็นวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้เชื่อแต่ละคน

คริสตชนรับใช้พระเจ้าผ่านการรับใช้เพื่อน พี่น้อง ผู้คนในชุมชน   การรับใช้เป็นการรับใช้ด้วยทั้งชีวิต   เป็นการรับใช้ด้วยการ “ให้ชีวิต”  ด้วยใจกว้างขวาง   และนี่คือที่นำมาซึ่งความสุขชื่นชมยินดี   แต่มิใช่เพราะ “เราทำดี”  แต่เพราะ พระวจนะและพระประสงค์ของพระเจ้าเกิดผลและความสุขในชีวิตของผู้คนรอบข้างเรา   และที่เราเกิดความสุขชื่นชมยินดีเพราะชีวิตของเราได้ให้แก่พระคริสต์ผ่านชีวิตของผู้คนที่เราสัมผัสสัมพันธ์ด้วยใจกว้างขวาง   และชีวิตของเราอยู่เพื่อร่วมสานต่อการเสริมสร้างชีวิตตามข่าวดี (พระกิตติคุณ) ของพระคริสต์

ทุกวันนี้อะไรที่เสริมสร้างหรือทำให้ชีวิตของท่านเกิดความสุขชื่นชมยินดี?   เราท่านเคยมีประสบการณ์ ที่เกิดความสุขชื่นชมจากการที่เรารับใช้ด้วยการให้ชีวิตของเราอย่างใจกว้างขวางแก่ผู้คนรอบข้าง  เพราะสำนึกว่านี่คือการรับใช้พระคริสต์และการให้ชีวิตแก่ผู้คนตามพระประสงค์หรือไม่?    ในวันหนึ่ง 24 ชั่วโมง   เราให้เวลาชีวิตของเรากี่ชั่วโมง/นาที ที่จะ “ให้ชีวิต และ รับใช้คนอื่น” เพื่อสานต่อพระราชกิจพระคริสต์?

เราจะ “รับใช้พระคริสต์” และ “ให้ชีวิตแด่พระองค์” ผ่านคนรอบข้างที่เราพบสัมผัสสัมพันธ์ในวันนี้แก่ใครบ้าง?   อย่างไร?   ขออธิษฐานในเรื่องนี้กับพระเจ้า   และพระองค์จะเปิดทางให้โอกาสแก่เราที่จะรับใช้และให้ชีวิตของเราแก่ใครบางคนที่เราพบเห็น   และ ทั้งเขาและเราจะสัมผัสกับความสุขและชื่นชมยินดีในวันนี้

อ้อ  อย่าลืมว่า วันนี้พระคริสต์ได้ให้ชีวิตเพื่อท่านและผม และ ทุกคนนะครับ!

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น