เป็นไปได้ไหมที่เมื่อเรารอหมายสำคัญจากพระเจ้า?
...พระเจ้าก็กำลังรอให้เราก้าวออกก้าวแรกด้วยพลังแห่งความศรัทธาและไว้วางใจในพระองค์?
หลายครั้งเมื่อคริสตชนอธิษฐานทูลขอการทรงนำจากพระเจ้าในการตัดสินใจในเรื่องต่างที่สำคัญในชีวิต หลังการอธิษฐานหลายท่านมักรอดูว่าพระเจ้าจะสำแดงหมายสำคัญอะไร
อย่างไร ที่จะช่วยให้ตนสามารถตัดสินใจในเรื่องนั้น ๆ ด้วยความมั่นใจ
เป็นไปได้ไหมที่เมื่อเรากำลังรอหมายสำคัญจากพระเจ้า...
พระเจ้าก็กำลังรอให้เราก้าวออกไปก้าวแรกด้วยพลังแห่งความเชื่อศรัทธาและไว้วางใจในพระองค์?
เมื่อเปโตรต้องการมั่นใจว่า สิ่งที่เขาเห็นในทะเลนั้นเป็นผี หรือ
พระเยซูคริสต์ เขาทูลขอว่า...
ถ้าเป็นพระเยซูคริสต์จริง
ขอให้เขาสามารถเดินบนน้ำทะเล
พระเยซูตรัสตอบกลับมาว่า “มาเถิด” (มัทธิว 14:29
มตฐ.) พระเยซูคริสต์คาดหวังให้เปโตร
ก้าวลงบนน้ำทะเลที่กำลังคึกคะนองและฟองฟู่
ซึ่งเป็นก้าวแรกแห่งความเชื่อศรัทธาที่มาจากก้นบึ้งแห่งชีวิตที่เปโตรจะไว้วางใจในคำตรัสของพระคริสต์ที่ว่า
“มาเถิด”
ขอตั้งข้อสังเกตว่า เปโตรไม่ได้ต่อรองพระเยซูว่า
ขอหมายสำคัญที่เขาจะไว้วางใจจนเขาสามารถก้าวลงบนน้ำทะเลที่ปั่นป่วนได้ แต่สิ่งที่เปโตรทำในวิกฤตินั้นคือ
“ก้าวออกจากเรือเหยียบลงบนน้ำทะเล” (ข้อ 22-23) แล้วหมายสำคัญแรกก็เกิดขึ้นเป็นจริงคือ เปโตรเดินบนน้ำทะเลได้ ในที่นี้หมายสำคัญมิใช่สิ่งอื่นใดเลย
แต่เป็นพระราชกิจของพระเจ้าที่กระทำในวิกฤติชีวิตประจำวันของเราโดยแท้
การก้าวเดินบนน้ำทะเลมิใช่เป้าหมายปลายทางแห่งความเชื่อศรัทธาของคริสตชน แต่เป้าหมายปลายทางคือการที่คริสตชนแต่ละคนเดินเข้าใกล้ชิดพระคริสต์มากขึ้น
ๆ แต่เมื่อการมุ่งมองในชีวิตของเราเคลื่อนเป้าจากพระคริสต์ไปยังสภาวะแวดล้อมวิกฤติที่กำลังปั่นป่วนรอบข้างชีวิตเรา
อิทธิพลรอบข้างจึงมีอิทธิพลเหนือการรับรู้ ความรู้สึก ความมั่นใจ
และมีอิทธิพลเหนือความไว้วางใจของเราต่อพระเจ้า สิ่งที่เกิดแก่เราในเวลานั้นคือ
“ความกลัว” เข้ามาแทนที่ความไว้วางใจในพระเจ้า การก้าวเดินต่อเนื่องด้วยความเชื่อของเราต้องสะดุดล้ม แล้วเราก็มักร้องด้วยเสียงหลงออกมาว่า
“พระเจ้าช่วยลูกด้วย”
ในเวลาเช่นนั้น หมายสำคัญที่สองก็เกิดขึ้น พระหัตถ์ของพระคริสต์คว้าเราไว้ทันที
ทรงฉุดเราขึ้นเดินบนคลื่นทะเลที่รุนแรงนั้นอีกครั้งหนึ่ง (ข้อ 31)
และเมื่อพระเยซูคริสต์ประทับบนนาวาแห่งชีวิตพร้อมกับเรา ทะเลแวดล้อมก็สงบลง
ก้าวแรกแห่งความเชื่อศรัทธามิใช่นั่งรอหมายสำคัญจากพระเจ้า แต่เป็นก้าวชีวิตของเราก้าวแรกออกไปในวิกฤติชีวิตที่กำลังประสบ
แล้วเราก็จะพบกับหมายสำคัญจากพระคริสต์ที่จะจรรโลงความเชื่อศรัทธาของเราให้เข้มแข็งมั่นคงยิ่งขึ้น หมายสำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละระยะย่างก้าวชีวิตในวิกฤติของเรา
พระคริสต์ทรงหนุนเสริมให้เรามีชีวิตที่เชื่อวางใจในพระองค์มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญชีวิตของเราจะใกล้ชิดพระองค์ ติดสนิทพระองค์มากยิ่งขึ้น
เราจะได้เรียนรู้น้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระคริสต์ชัดเจนยิ่งขึ้นในแต่ละวัน
แท้จริงแล้วเปโตรไม่ได้เดินบนทะเลที่ปั่นป่วนได้
แต่เปโตรเดินบนวิถีแห่งความเชื่อและไว้วางใจในพระคริสต์ได้
เราจะเดินบนวิกฤติชีวิตรอบข้างเราได้ก็ต่อเมื่อ เราจะก้าวเดินก้าวแรกด้วยความเชื่อไว้วางใจในพระคริสต์ลงบนสถานการณ์ชีวิตที่ปั่นป่วนวุ่นวายได้ต่างหาก
แต่ถ้าคริสตชนจะทำอะไรก็มัวแต่รอให้พระเจ้าสำแดงหมายสำคัญให้เห็นก่อนถึงจะมั่นใจและลงมือทำแล้ว
ก็จะเป็นเหมือนปัญญาที่กษัตริย์โซโลมอนเขียนไว้ในพระธรรมปัญญาจารย์ 11:4 ที่ว่า “ผู้ใดมัวสังเกตลมก็จะไม่หว่านพืช และผู้ใดมัวจ้องมองเมฆก็จะไม่เกี่ยวข้าว”
(มตฐ.) หรือที่ยากอบถามคริสตชนแบบแสกหน้าว่า “พี่น้องของข้าพเจ้า
แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ
แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร? ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ?”
(ยากอบ 2:14 มตฐ.)
แล้วเราท่านล่ะ... วันนี้เรายังมัวนั่งรอหมายสำคัญอยู่หรือเปล่า? เราจะรอหมายสำคัญก่อนที่จะลงมือทำในสิ่งที่เชื่อหรือ? เราท่านเคยคิดไหมว่า
พระเจ้าอาจจะกำลังรอให้เราก้าวลงในสิ่งที่เราจะต้องตัดสินใจนั้นก่อน และพระองค์จะกระทำหมายสำคัญเพื่อเราจะมีความเชื่อที่เข้มแข็ง
มั่นคง และเกิดผลในชีวิตหรือไม่?
คนในยุคชั่วร้ายและไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าชอบแสวงหาหมายสำคัญ
แต่จะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่เขาทั้งหลาย
เว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนาห์เท่านั้น”
แล้วพระองค์ก็เสด็จไปจากพวกเขา (มัทธิว 16:4 มตฐ.)
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น