ขึ้นชื่อว่าแม่
เกือบทุกคนก็รักลูกทั้งนั้นแหละ
ถ้าจะทำอะไรเพื่อลูกของตนจะได้ดีแล้ว
แม่ยอมทำทั้งนั้น ในใจลึก ๆ ก็อยากให้ลูกของตนได้ดีกว่าคนอื่น แม่ของยากอบ และ
ยอห์นบุตรเศเบดีก็เป็นเช่นนั้น
เธอเข้าใจว่า การเสด็จเข้าเยรูซาเล็มของพระเยซูและเหล่าสาวกครั้งนี้คงจะเป็นการประกาศสถาปนาราชอาณาจักรของพระองค์ ดังนั้น
เธอจึงเข้าไปขอเป็นการส่วนตัวให้แต่งตั้งบุตรทั้งสองของเธอได้มีอำนาจปกครองรองจากพระเยซู
(มัทธิว 22:20-21)
แม่ของยอห์นและยากอบก็ทันสมัยเหมือนฤดูแต่งตั้งตำแหน่งชั้นสูง ที่มีการขอเข้าพบ “ท่านหัวหน้า” เป็นการส่วนตัว ทั้งแสดงถึงการสนับสนุนหัวหน้า
และที่สำคัญขอหัวหน้าช่วยสนับสนุนให้คนของตนได้ตำแหน่ง และสิ่งเหล่านี้พวกเราคริสตชนไทยคุ้นชินในชื่อว่า
“การเมืองในคริสตจักร”
บทเรียนที่ได้รับจากเรื่องนี้คือ เกิดความแตกแยก
โกรธ แค้น เกลียดชังในกลุ่มสาวกของพระเยซูคริสต์
“เมื่อสาวกสิบคนนั้นได้ยินแล้วก็โกรธพี่น้องสองคนนั้น” (ข้อ 24 มตฐ.)
และในความทรงจำและประสบการณ์ของคริสตจักรไทยเราก็พบว่า “การเมืองในคริสตจักร”
สร้างความแตกแยกเป็นก๊ก เป็นพรรค เป็นพวก
แต่ดูเหมือนผู้นำที่เล่นการเมืองในคริสตจักรไทยเหล่านี้กลับไม่แยแส ทำไมเป็นเช่นนั้นหรือ? ก็เพราะพวกเขามุ่งมองที่ “ผลประโยชน์” ก้อนโตในนามของตำแหน่ง
“ผู้รับใช้” (ใครกันแน่?) มากกว่าผลเสียที่เกิดขึ้นกับคนอื่นในคริสตจักร?
ที่สำคัญกว่านั้นคือ ผู้นำคริสตจักรกลุ่มนี้มีความเชื่อที่ผิดเพี้ยนและขัดแย้งกับความเชื่อและคำสอนของพระเยซูคริสต์
พวกเขามองว่าตนจะทำงานของพระคริสต์ได้
“ต้องมีตำแหน่ง” แต่พระคริสต์กลับสอนและทำตนเป็นตัวอย่างว่า การที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าได้นั้นไม่ใช่เพราะมีตำแหน่ง
แต่เพราะมีความถ่อมใจด้วยการรับใช้ผู้คนที่พบเห็นในพระนามของพระเจ้าต่างหาก
สรุปคือ ผู้นำคริสตจักรกลุ่มนี้อ้างว่าตนต้องมีตำแหน่งในคริสตจักร
เพื่อที่จะดำเนินการตามพระประสงค์ของพระเจ้า แต่พระคริสต์สอนว่า ถ้าใครจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า ต้องถ่อมใจและรับใช้คนอื่นในพระนามของพระองค์ การรับใช้คนอื่นคือการใช้ชีวิตเพื่อที่จะให้ชีวิตแก่คนอื่น
การจะทำสิ่งนี้ไม่ต้องมีตำแหน่ง
ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องมี “เลือกตั้ง” ก็ได้มิใช่หรือ?
และพระเยซูคริสต์ชี้ชัดว่า
การที่ใครจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินของพระเจ้ารวมถึงในคริสตจักร คนนั้นมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ เป็นความรับผิดชอบด้วยชีวิต เป็นการรับผิดชอบที่จะให้ชีวิต
(ไม่ใช่ให้แต่เงินทอง) พระเยซูกระตุ้นสำนึกสาวกว่า “พวกท่านไม่เข้าใจในสิ่งที่ขอนั้น
ถ้วยที่เราจะดื่มนั้นท่านจะดื่มได้หรือ?” (ข้อ 22) และสัจจะความจริงอีกประการหนึ่งคือ การที่ใครจะมีอำนาจ
มีตำแหน่งอะไรในคริสตจักร
ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะวางแผน “เลือกตั้งช่วงชิง” อย่างไร แต่เป็นเรื่องแผนการของพระเจ้า พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “... แต่การที่จะให้นั่งข้างขวาและข้างซ้ายของเรานั้นไม่ใช่เราเป็นผู้ให้
แต่จะให้กับคนเหล่านั้นที่พระบิดาของเราทรงเตรียมไว้” (ข้อ 23)
พระเยซูคริสต์สยบคลื่นความเชื่อความเข้าใจผิด ๆ
ที่ทำให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มสาวกว่า “ในพวกท่านจะไม่เป็นเช่นนั้น
แต่ถ้ามีใครต้องการเป็นใหญ่ในพวกท่าน คนนั้นจะต้องเป็นผู้ปรนนิบัติของท่าน”
(ข้อ 26 มตฐ.)
แล้วพระองค์สอนสาวกในสิ่งที่พระองค์กระทำว่า “และถ้าใครต้องการจะเป็นนาย
คนนั้นจะต้องเป็นทาสของพวกท่าน เหมือนบุตรมนุษย์ที่ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ
แต่มาเพื่อปรนนิบัติคนอื่น และให้ชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนจำนวนมาก” (ข้อ 27-28 มตฐ.)
พระเยซูมาเพื่อที่จะ “ให้” ไม่ใช่มาเพื่อจะ “ได้”
ผมได้ข่าวว่า
“แม่ของยากอบ และ ยอห์น บุตรเศเบดี”
กำลังเข้าไปประสานตำแหน่งเพื่อพวกของตนในคริสตจักร???
มีคนว่าผมว่า
“...ไม่เอาน่า... อย่าไปว่าเขาเลย”
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น