14 กันยายน 2559

คนมีปัญญาตั้งคำถามเพื่อที่จะฟัง!

ความนึกคิดของมนุษย์นั้นเหมือนบ่อน้ำลึก
แต่ผู้ที่มีความเข้าอกเข้าใจสามารถลงลึกถึงปัญญาที่อยู่ก้นบ่อในความนึกคิดของคน
(สุภาษิต 20:5 สมช.)

ถ้าเราต้องการมีปัญญา และ ได้ปัญญา เราต้องถาม   และถามคำถามที่คมชัดและมีปัญญา

ในพระธรรม สุภาษิต 20:5 เขียนไว้ว่า  “ความ​ประ​สงค์​ใน​ใจ​คน​เหมือน​น้ำ​ลึก   แต่​คน​ที่​มี​ความ​เข้า​ใจ​จะ​วิด​มัน​ออก​มา​ได้” (มตฐ.)   ส่วนอมตะธรรม แปลว่า ความคิดดีเหมือนน้ำที่อยู่ลึกในใจคน    แต่คนที่มีความเข้าใจก็ตักมันออกมาได้ (อมต.)  ผมขออนุญาตแปลว่า  “ความนึกคิดของมนุษย์นั้นเหมือนบ่อน้ำลึก   แต่ผู้ที่มีความเข้าอกเข้าใจสามารถลงลึกถึงปัญญาที่อยู่ก้นบ่อในความนึกคิดของคน” (สมช. สำนวนสามัญชน)

เราจะตักเอาน้ำในบ่อลึกได้อย่างไร?   เราจะดึงเอาความนึกคิดที่มีปัญญาออกมาจากคนได้อย่างไร?

ก็ด้วยการตั้งคำถามที่ดี   คำถามที่ชัดเจน  ด้วยปัญญาแหลมคม!

เมื่อคนภูธรอย่างผมลงกรุงเทพฯ   ต้องอาศัยรถแท็กซี่พาผมไปที่จุดหมายปลายทาง   ผมอยากจะรู้เรื่องการเมือง   เรื่องเศรษฐกิจ  หรือ เรื่องในสังคม  ผมถามคนขับแท็กซี่   และบ่อยครั้งเหลือเกินที่ผมเรียนรู้สิ่งดี ๆ มีปัญญาจากคนขับแท็กซี่   ไม่แพ้อาจารย์ระดับดอกเตอร์ที่บรรยายในวันนั้น   หรือ ท่านผู้บริหารสถาบันและองค์กรที่โด่งดังที่พูดในวันนั้น   ผมเรียนรู้ว่า   แท้จริงแล้วเราสามารถเรียนรู้ และ ได้รับปัญญาจากคนทุกระดับชั้น   เพียงถ้าเราสามารถถามคำถามที่ชัดเจนแหลมคม  

และสิ่งสำคัญประการต่อมาคือ  ถามแล้วต้องฟังอย่างใส่ใจ ครับ

เมื่อผมดูทีวีโดยเฉพาะข่าวเมื่อมีการสัมภาษณ์   ผมมักจะหงุดหงิดกับพิธีกรหรือผู้สัมภาษณ์ในรายการ  ที่ถามคำถามเพื่ออวดภูมิความรู้เท่าทันของตน   ไม่ได้ตั้งคำถามที่จะขุดจะดึงเอาปัญญาความคิดจากผู้ให้สัมภาษณ์   พิธีกรเหล่านี้น่ารำคาญ   มักสอดแทรกถามตัดหน้าอย่าง “อวดรู้”   ที่อึดอัดคับข้องใจกว่านั้น  เพราะเมื่อดูรายการนั้นผ่านทีวี   ผมไม่มีโอกาสถามในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้   ยิ่งสร้างความรำคาญขัดแย้งในใจมากขึ้น   แก้ปัญหาด้วยการปิดเครื่องไม่ดูไม่ฟังคำถามที่ “งี่เง่า”  “สอดรู้” ของคนสัมภาษณ์เหล่านั้น

การขุดค้น ดูดดึงเอาน้ำแห่งปัญญาให้ขึ้นจากบ่อลึกแห่งความคิดคือ  การที่เราจะรู้จักถามคำถามที่ชัดเจนแหลมคม   และรู้จักที่จะฟังอย่างใส่ใจต่างหาก  ที่เราจะนำมาสะท้อนคิด  ที่เราจะได้เรียนรู้   ที่เราจะได้ปัญญา

ในการประชุมสำคัญ ๆ ของทั้งระดับองค์กร  ระดับชาติ หรือ นานาชาติ  เช่น  การประชุมสภาฯ  สมัชชา  และ ฯลฯ   เรามีแต่คนที่ต้องการ “พูดมาก”  จนลืมตั้งคำถามตนเองด้วยคำถามที่ชัดเจนและแหลมคม (พวกทำตัวเป็นดาวสภาฯ)  ในการประชุมเหล่านี้จึงไม่ค่อยเสริมสร้างสติปัญญา   แต่มักเสริมสร้างแต่ความแตกหัก  ขัดแย้ง  บาดแผล  จนกลายเป็นสมัชชา หรือ การประชุมสภาฯ  ด้อยปัญญาไปก็มีมาก

ปัญญาเกิดจากการที่ต้องการที่จะรู้เรื่องนั้นอย่างลึกซึ้ง  ถูกต้อง  สัจจริง   จึงต้องพยายามที่จะตั้งคำถามที่ชัดเจนและแหลมคม   เพื่อที่จะขุดค้นหาปัญญาจากบ่อลึกของผู้คนต่าง ๆ   รากฐานสำคัญที่จะได้ปัญญาจึงขึ้นอยู่กับความตั้งใจที่จะเรียนรู้และมีความสัมพันธ์ที่จริงใจ  และใช้เวลาในการฟังอย่างใส่ใจและใคร่ครวญ

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น