27 กันยายน 2559

ชีวิตในครอบครัวของพระเจ้า...เป็นแบบไหน?

“...คน​ใด​ที่​ทำ​ตาม​พระทัยของ​พระ​เจ้า
คน​นั้น​แหละ​เป็น​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​และ​มาร​ดา​ของ​เรา
(มาระโก 3:35 มตฐ.)

เนื่องจากพระเยซูต้องรักษาผู้ป่วย และ ขับผีให้ออกจากหลายคน   จนพระองค์และสาวกไม่มีเวลาแม้แต่จะรับประทานอาหาร  ในมาระโก 3:21  ได้เขียนไว้ว่า  “เมื่อ​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​พระ​องค์​ได้​ยิน​เหตุ​การณ์​นี้ ก็​ออก​ไป​รั้ง​พระ​องค์​ไว้ เพราะ​พวก​เขา​บอก​ว่า​พระ​องค์​เสีย​สติ​แล้ว” (มตฐ.)  

แม่และน้องชายของพระเยซูเป็นห่วงในเรื่องที่เกิดขึ้นจึงมาหาพระเยซูคริสต์   คงต้องการที่หาทางพาพระองค์ไปรักษา   แต่ไม่สามารถเข้าถึงพระเยซูได้เพราะมีคนจำนวนมาก (ลูกา 8:19)   จึงมีคนนำเรื่องนี้ไปบอกพระเยซูว่า แม่และน้องชายมารอพระองค์อยู่ข้างนอก   รอพบเพื่อจะพูดคุยกับพระองค์  

พระองค์ตอบคนที่มาบอกด้วยคำถามว่า  “ใคร​เป็น​มาร​ดา​ของ​เรา และ​ใคร​เป็น​พี่​น้อง​ของ​เรา?” (มาระโก 3:33 มตฐ.)   แล้วพระองค์กล่าวต่อไปว่า  “...คนใดที่ทำตามพระทัยของพระเจ้า คนนั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา (ข้อ 35)

คำถามของพระเยซูอาจจะทำให้หลายคนในฝูงชนนั้นตกใจ   และไม่คาดคิดว่าพระเยซูจะมีตอบเช่นนั้น   ในวัฒนธรรมยิวสมัยนั้น   สถาบันครอบครัวเป็นสถาบันที่ได้รับการยกย่อง   มารดาเป็นผู้ที่ต้องได้รับการนับถือจากบุตร   การที่พระเยซูกล่าวเช่นนี้ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงถามเช่นนั้น   พระองค์จะไม่ยอมรับมารดาของพระองค์เช่นนั้นหรือ?

การทุ่มเททำพระราชกิจของพระเจ้ากลับถูกบิดเบือน  ถูกกุเป็นข่าวลือ  ถูกกล่าวร้ายป้ายสีว่าที่ทำเช่นนี้เพราะพระองค์ “เสียสติ” (3:21)  หรือ  ที่ทำได้ผลเช่นนี้เพราะ  ในตัวของพระเยซูมีผีโสโครกสิงอยู่ (3:30)

ที่พระเยซูทุ่มเททำงานมากเช่นนี้เพราะ  พระองค์คิดแปลกแยกไม่เหมือนคนอื่น!   จะต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่!

ใคร “แบ็ค” อยู่ข้างหลัง   มันถึงทำได้มากมายถึงเพียงนี้!

พระเยซูคริสต์ได้อธิบายต่อไปว่า   การขับเคลื่อนพระราชกิจของพระเจ้า   ทุกคนต้องทำ  ทุกคนต้องรับผิดชอบ   และพระองค์กล่าวกว้างออกไปถึงมิติ “ครอบครัวของพระเจ้า” ว่า   ที่เราทุกคนเข้ามาอยู่เป็นคน ๆ หนึ่งในครอบครัวของพระเจ้า  และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน   มิใช่เพราะเรามีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เชื้อชาติ แต่เราเป็นคนในครอบพระเจ้าครัวเดียวกันเพราะ   เราแต่ละคนกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

การมีสายสัมพันธ์เป็นคนในครอบครัวของพระเจ้าเดียวกัน   เพราะเราต่างทุ่มเทชีวิตทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า   มิใช่เราอยู่ใน “ชายคา” หรือ “อยู่ใต้ร่ม” เดียวกัน

เราเป็นคนในครอบครัวเดียวกันของพระเจ้า  มิใช่เพราะเราอยู่ร่วมในคริสตจักรเดียวกัน   ร่วมการนมัสการพระเจ้าด้วยกัน  หรืออยู่ในกลุ่มอธิษฐานด้วยกัน   แต่ที่เราเป็นอยู่ในครอบครัวของพระเจ้าด้วยกันเพราะ   เราทุ่มเทการดำเนินชีวิตประจำวันตามพระประสงค์ของพระเจ้า   และ ทำพระราชกิจของพระเจ้าในทุกสถานการณ์

พระเยซูคริสต์สอนมิติมุมมองใหม่ถึงการเป็นเครือญาติกันใน “ครอบครัวของพระเจ้า” ว่า   ไม่ใช่เพราะเรามีความเชื่อเดียวกัน   เราทำศาสนพิธีร่วมกัน   และมีพระเจ้าองค์เดียวกัน   หรือ อยู่ในคริสตจักรด้วยกัน

แต่ที่เราอยู่ใน “ครอบครัวของพระเจ้า” ด้วยกัน  เพราะเราเชื่อฟังพระเจ้า  จนทุ่มเททำตามพระประสงค์ของพระองค์ต่างหาก   ที่ทำให้เราเป็นคนใน “ครอบครัวของพระเจ้า” ด้วยกัน!

ดังนั้น   พระเยซูคริสต์จึงกล่าวแก่คนทั้งหลายว่า   ใครเป็นมารดาของเรา และใครเป็นพี่น้องของเรา?”... “...คนใดที่ทำตามพระทัยของพระเจ้า คนนั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา (มาระโก 3:33, 35 มตฐ.)

ทุกวันนี้เราเป็นคนหนึ่งในครอบครัวของพระเจ้า  เพราะมีสายเลือดทางความเชื่อเดียวกัน   หรือ เพราะเราทุ่มเทชีวิตทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตประจำวัน?

จุดเริ่มต้นที่เราจะทำได้ในวันนี้คือ  ทูลขอพระเจ้าขอช่วยให้เราเห็นและเข้าใจถึง พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเรา   เพื่อเราจะได้ทุ่มเทชีวิตของเราทำตามพระประสงค์ดังกล่าว   ด้วยพระกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น