13 กุมภาพันธ์ 2560

คุณเป็นสาวกพระคริสต์แบบไหน? สูตรใด?

การเป็นสาวกพระคริสต์ไม่ได้มีสูตรเดียว จริง ๆ แล้วไม่มี “สูตรตายตัว”

ดังนั้นการสร้างสาวกพระคริสต์ในทุกวันนี้จึงไม่ควรยึดมั่นจำกัดในสูตรเดียว “ตายตัว” เช่นกัน

เมื่อเรากลับไปศึกษาพิจารณาและใคร่ครวญการทรงเรียกสาวกของพระคริสต์   พระองค์ทรงเรียกบุคคลต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างหลากหลาย   แล้วพระองค์ก็ทรงเรียกให้แต่ละคนมีรูปแบบ บทบาทในการเป็นสาวกของพระองค์ที่ไม่เหมือนกันด้วย   เพื่อที่จะเป็นสาวกของพระคริสต์ในสถานการณ์ และ บริบทที่แตกต่างกัน   ด้วยรูปแบบ การสำแดงออกของชีวิตที่เป็นสาวกไม่เหมือนกัน   แล้วแต่เส้นทางชีวิตประจำวัน บริบทชีวิต  และ ทักษะความสามารถ/ของประทานของคน ๆ นั้น   แต่มีเป้าประสงค์เดียวกันคือ ตามพระประสงค์ของพระคริสต์

เมื่อพระเยซูคริสต์กระทำพระราชกิจของพระองค์ในโลกนี้   มีหลายต่อหลายคนที่ติดตามพระเยซูคริสต์  และเราพบความจริงว่า  มีสาวกหลายรูปแบบ และ และหลายบทบาทที่ไม่เหมือนกัน   ในช่วงแรกเริ่มพระราชกิจของพระองค์เป็นช่วง “มาดูเถิด” (ยอห์น 1:39 มตฐ.)   และจากกลุ่มคนที่ติดตามพระองค์ไป   พระองค์ทรงเลือกสาวกใกล้ชิด/สาวกใกล้ตัว 12 คน   จากกลุ่มคนที่ติดตามพระองค์หลายคน

เรายังพบอีกว่ามีบางคนที่เข้าร่วมกระบวนการของพระคริสต์ในบางเวลา   และคนเหล่านี้อาจจะไม่ปรากฏชื่อในพระคัมภีร์   หรือ ไม่พบว่าเขาได้รับการทรงเรียกเป็นการส่วนตัวจากพระเยซู   แต่เราก็พบด้วยเช่นกันว่า  บางคนเป็นสาวกติดตามพระคริสต์อย่างเงียบ ๆ เช่น นิโคเดมัส ที่ต้องมาพบพระคริสต์ในเวลาค่ำคืน   หรือ อย่าง โยเซฟชาวอาริมาเธีย ที่เป็นสาวกลับๆ (ยอห์น 19:38 มตฐ.)   ขอย้ำว่า คนเหล่านี้เป็นสาวกของพระคริสต์ และ มีบทบาทในการเป็นสาวกที่แตกต่างกันออกไป   ตามบริบทและสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน   พระคัมภีร์ไม่ได้ขีดเส้นจำกัดตายตัวถึงรูปแบบการเป็นสาวกที่แท้จริงของพระคริสต์   แต่พระคริสต์กำหนดคุณภาพชีวิตในการเป็นสาวที่เหมือนกัน

คนแบบไหนที่เป็นสาวกพระคริสต์

คนเหล่านี้แต่ละคนก็ยังเป็นสาวกของพระคริสต์  ผู้คนจำนวนมากที่อยากรู้อยากเห็นแล้วติดตามไปฟังคำสอนของพระเยซูคริสต์และก็เข้าใจแล้วก็ตัดสินใจเป็นการส่วนตัวว่าเป็นสาวกของพระองค์   แล้วสาวกในกลุ่มนี้บางคนก็เลิกติดตามพระองค์ เพราะมีคำสอนของพระคริสต์ที่เขารู้สึกลำบากใจ  หรือไม่เข้าใจ  หรือต้องประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิต (อย่างเช่น  พระเยซูทรงเลี้ยงประชาชน 5,000 คนในยอห์น 6:1-15  แต่สาวก​ของ​พระ​องค์​หลาย​คน​ก็​ท้อถอย ไม่​ติดตาม​พระ​องค์​ต่อไป เพราะได้ยินคำสอนที่ยาก ดู ยอห์น 6:60-70)   สาวกที่แท้จริงจึงอยู่ในช่วงที่สองคือ ผู้ที่ยังยืนหยัดติดตามพระเยซูคริสต์ ไม่ว่าสถานการณ์ชีวิตจะพลิกผันยากลำบากเช่นใดก็ตาม  

บ่อยครั้งเรามักสำคัญตระหนักผิดว่า   สาวก “วงใน” เป็นสาวกจริงแท้ที่สุด   แต่เมื่อสถานการณ์พลิกผัน  ยูดาส ทรยศ “ขายพระเยซู” เพื่อจะได้เงิน 30 แผ่น   สาวกคนอื่นก็ละทิ้งหนีเอาตัวรอดเมื่อสถานการณ์วิกฤติคับขัน   เปโตรที่ยืนยันพร้อมตายกับพระคริสต์ แต่กลับปฏิเสธพระองค์ถึง 3 ครั้ง   แล้วเหลือใครที่เป็นสาวกในสายตาของเราท่านครับ?   ใต้กางเขนที่ตรึงพระเยซู   มีมารีย์มารดา  ยอห์น และ สตรีบางคนที่เคยติดตามพระองค์   แล้วพบอีกว่า โยเซฟชาวอาริมาเธีย ที่เป็นสาวกพระคริสต์เป็นการลับ   กลับเป็นคนที่ขอพระศพพระคริสต์จากปีลาตแล้วนำไปฝังที่อุโมงค์ของตน   แล้วเราคิดว่า “ใครคือสาวกพระคริสต์ที่จริงแท้” ในเวลานั้น?

หลังจากช่วง “มาดูเถิด” ต่อไปในช่วง “จงติดตามเรามา” ในช่วงนี้มีสาวกที่มีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป และ มีบทบาทที่ไม่เหมือนกัน   ในสมัยของพระเยซูคริสต์  มีสาวกบางคนที่ละทิ้งบ้านและอาชีพ แล้วติดตามพระเยซูคริสต์ไปในที่ต่าง ๆ  

แต่เราก็พบความจริงอีกเช่นกันว่า หลายคนที่ได้รับการรักษา หรือ ขับวิญญาณชั่วออกต้องการติดตามพระองค์ในที่ต่าง ๆ   แต่พระคริสต์กลับบอกให้เขา “กลับบ้าน”  เช่นหญิงที่ชโลมพระบาทพระคริสต์ด้วยน้ำหอม   หลังจากนั้นพระองค์ตรัสกับเธอว่า ...“ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​ได้​ทำ​ให้​เจ้า​รอด จง​ไป​เป็น​สุข​เถิด” (ลูกา 7:50 มตฐ.)   และพระเยซูบอกกับคนโรคเรื้อนที่พระองค์รักษาหายว่า  “จง​ลุก​ขึ้น​ไป​เถิด ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​ได้​กระทำ​ให้​ตัว​เจ้า​หาย​ปกติ” (ลูกา 17:19 มตฐ.)   ชายที่ถูกผีโสโครกสิง และ อยู่ที่อุโมงค์ฝังศพ   เมื่อพระเยซูคริสต์ขับผีออกจากเขาแล้ว   เขาขอติดตามพระองค์ไป   ​พระ​องค์​ไม่​ทรง​อนุญาต แต่​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “จง​ไป​หา​พวก​พ้อง​ของ​เจ้า​ที่​บ้าน​ แล้ว​บอก​เขา​ถึง​เรื่อง​เหตุการณ์​ใหญ่ ซึ่ง​พระ​เป็นเจ้า​ได้​ทรง​กระทำ​แก่​เจ้า และ​ได้​ทรง​พระ​เมตตา​แก่​เจ้า​แล้ว” (มาระโก 5:19)   และพระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ด้วยว่า  “ฝ่าย​คน​นั้น​ก็​ทูล​ลา แล้ว​เริ่ม​ประกาศ​ใน​แคว้น​ทศ​บุรี ถึง​เหตุการณ์​ที่​พระ​เยซู​ได้​ทรง​กระทำ​เพื่อ​ตัว และ​คน​ทั้ง​ปวง​ก็​ประหลาด​ใจ​นัก​” (ข้อ 20)

ผู้คนจำนวนมากในหมู่บ้าน ในพื้นที่ที่พระเยซูคริสต์กระทำพระราชกิจของพระองค์  ที่มิได้ติดตามพระองค์ไปในที่ต่าง ๆ อย่างสาวกวงใน   แต่คนเหล่านั้นหลายต่อหลายคนที่ก็เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์   พวกเขาเชื่อในพระองค์  แล้วดำเนินชีวิตประจำวันตามคำสอนของพระองค์   เราต้องตระหนักความจริงให้ชัดเจนว่า  มีผู้คนจำนวนมากที่มีชีวิตติดตามพระเยซูคริสต์ในชีวิตประจำวัน   ในสถานการณ์ และ บริบทชีวิตของแต่ละคน   คนเหล่านี้เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ด้วย

ตลอดประวัติศาสตร์แห่งพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ และ การขับเคลื่อนชีวิตและพันธกิจคริสตจักร   สาวกที่เชื่อและติดตามพระคริสต์ด้วยการดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์เป็นพลังขับเคลื่อนตามที่พระคริสต์สั่งบัญชามากที่สุด และ สำคัญที่สุด   สาวกเหล่านี้ได้รับการทรงเรียกให้ทำงานอาชีพในชีวิตประจำวัน   ดำเนินชีวิตในครอบครัวบนรากฐานพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์   สำแดงชีวิตที่เป็นสาวกพระคริสต์ท่ามกลางสังคมชุมชนที่เขาใช้ชีวิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน   เป็นแสงสว่างของพระคริสต์ในที่ทำงาน  ในชุมชน  และในกลุ่มเพื่อน   สาวกพระคริสต์ส่วนมากไม่ได้รับการทรงเรียกให้เป็นมิชชันนารี  ศิษยาภิบาล  ศาสนาจารย์  ครูศาสนา  ผู้ปกครองคริสตจักร หรือ ผู้นำ ผู้บริหารหน่วยงานคริสตชน   แต่คนเหล่านั้นเป็นสาวกที่ขับเคลื่อนสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์

สาวกหลายรูปแบบ หลายบทบาท เพื่อตอบสนองหลายสถานการณ์ชีวิต

แต่ผู้ที่ได้รับการทรงเรียกให้เป็นสาวกในชีวิตประจำวันเหล่านี้เป็น “สาวก” จำนวนมากที่สุดที่ “ออกไป” และ “นำชนทุกชาติให้มาเป็นสาวกของพระคริสต์”  เป็นกลุ่มสาวกที่หลากหลายรูปแบบ  มากด้วยวิธีการ  ตอบสนองหลากหลายสถานการณ์ชีวิต  และด้วยหลายบทบาทที่ตอบโจทย์ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายของเขา  เป็นพลังขับเคลื่อนหลักที่สานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ทุกวันในชีวิตประจำวัน   ทั้งในครอบครัว ในที่ทำงาน ในกลุ่มเพื่อนฝูง และ ในสังคมชุมชน

แล้วท่านเป็นสาวกของพระคริสต์ในชีวิตประจำวันแต่ละวันหรือไม่?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น