05 กุมภาพันธ์ 2560

เป็นผู้นำได้แม้ถูกจำขัง

การที่ใครคนใดคนหนึ่งมีความสามารถที่จะทำงานต่าง ๆ เกิดผลในคนอื่น และ ผ่านคนอื่นนั้น  คน ๆ นั้นจะต้องมีความสามารถในการนำคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน   และนี่คือภาวะผู้นำ   ถ้าปราศจากภาวะผู้นำการทำงานเป็นทีมก็จะไม่เกิดขึ้น   แต่ละคนเหล่านั้นต่างก็ทำไปตามทางที่ตนเองสนใจหรือต้องการ

ถ้าใครก็ตามที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่  และจำเป็นที่จะต้องมีทีมงานที่ร่วมกันทำให้สำเร็จตามความฝันของเขาแล้ว   เขาต้องการทีมงานเป็นอย่างมาก   เขาต้องการคนอื่นที่จะขับเคลื่อนความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขาให้สำเร็จ   ดังนั้น  เขาคนนั้นที่เป็นผู้นำจะต้องเลือกผู้คนที่จะร่วมในทีมงานของตนที่จะขับเคลื่อนความฝันของตนให้ก้าวไป   ที่สำคัญคือ ผู้นำคนนั้นจะต้องเลือกผู้คนในทีมที่ตนสามารถทำงานในตัวของคนเหล่านั้นและผ่านคนเหล่านั้นได้   หรือที่เรามักเรียกว่า “มีอิทธิพลต่อคนเหล่านั้น” ที่เป็นทีมงานของตน

สิ่งที่ผู้นำมีเหมือน ๆ กันคือ   เมื่อเขามุ่งหน้าสู่ทิศทางใดก็ตาม  ผู้นำคนนั้นสามารถที่จะโน้มน้าวให้คนอื่น ๆ ในทีมไปในทิศทางที่ตนต้องการไปได้   และขอตั้งข้อสังเกตว่า   การที่คนอื่น ๆ ในทีมยอมตามเขาไปมิใช่เพราะเงื่อนไขทางผลประโยชน์ที่คนเหล่านั้นจะได้รับ  หรือ เพราะผู้นำใช้อำนาจกดดันบีบบังคับให้ต้องไปตามผู้นำ   แต่คนในทีมงานมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมขับเคลื่อนให้ความฝันของผู้นำสำเร็จ   ไม่ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร  หรือ มีเงื่อนไขเช่นไรก็ตาม

อย่างเช่น  เปาโลที่ใฝ่ฝันอย่างยิ่งว่าจะประกาศข่าวดีของพระเยซูคริสต์แก่ผู้คนทั้งหลายที่ไม่ใช่ยิวให้มากที่สุดเพื่อคนเหล่านั้นจะได้มีชีวิตในพระคุณของพระเยซูคริสต์   แต่ในช่วงหลังเปาโลตกเป็นนักโทษที่ถูกคุมขัง หรือ ควบคุมจากอำนาจทางการของโรมัน   แต่น่าสังเกตว่า   แม้เปาโลจะถูกจำจองแต่เขายังมีทีมงานที่ติดตามเขาไปในที่ต่าง ๆ เพื่อทำพันธกิจสานต่อจากพระเยซูคริสต์  เช่น  มาระโก อา​ริส​ทาร​คัส เด​มาส และ​ลูกา  รวมถึงเอปา​ฟรัสด้วย

“เอปา​ฟรัส ผู้​ที่​ถูก​ขัง​ร่วม​กับ​ข้าพ​เจ้า​เพื่อ​พระ​เยซู​คริสต์ ฝาก​คำ​ทัก​ทาย​มา​ยัง​ท่าน  มาระโก อา​ริส​ทาร​คัส เด​มาส และ​ลูกา ซึ่ง​เป็น​พวก​เพื่อน​ร่วม​งาน​ของ​ข้าพ​เจ้า​ก็​ฝาก​คำ​ทัก​ทาย​มา​ยัง​ท่าน​ด้วย    ขอ​พระ​คุณ​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ดำ​รง​อยู่​กับ​จิต​วิญ​ญาณ​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เถิด” (ฟิเลโมน ข้อ 23-25 มตฐ.)

วันนี้ท่านลองพิจารณาผู้คนในองค์กร/หน่วยงานของท่านดูว่า   ใครคือผู้ที่มีอิทธิพลต่อคนในองค์กร?   เขามีอิทธิพลต่อคนกลุ่มใดในองค์กร?   แล้วอิทธิพลที่ผู้นำองค์กรมีต่อคนในองค์กรกำลังมีเพิ่มขึ้น หรือ กำลังลดน้อยถอยลง?

ในกรณีนี้  เราสามารถวัดได้ว่า   ผู้ที่มีภาวะผู้นำที่ยิ่งใหญ่ คือผู้นำที่สามารถมีอิทธิพลต่อคนในทีมงานให้ขับเคลื่อนหนุนเนื่องงานให้เป็นไปในทิศทางที่ผู้นำใฝ่ฝัน   กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้นำมีศักยภาพและความสามารถที่จะทำให้ทีมงานทำงานร่วมกันกับตนให้สำเร็จบรรลุตามความฝันของตนได้   แม้ผู้นำไม่ต้องลงมือนำเองก็ตาม

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

1 ความคิดเห็น:

  1. ปัญหาใหญ่ของคริสตจักรบางแห่ง คือผู้นำคริสตจักรมีความคิดว่าเขาเองเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เป็นผู้ได้รับการเจิมจากพระเจ้า สมาชิกทุกคนต้องเชื่อฟังเขา เขาไม่มีนโยบายในการฝึกเตรียมผู้ที่มีศักยภาพความเป็นผู้นำ เพื่อทำพันธกิจด้านต่างๆ และที่แย่มากๆ คือ การจำขังผู้ที่มีของประทานฝ่ายจิตวิญญาณไม่ให้มีโอกาส ร่วมรับใช้ เพียงเพราะมีแนวความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้นำ

    ตอบลบ