06 ตุลาคม 2562

สิ่งแรกที่เราทำเมื่อเผชิญวิกฤติ...(?)

ทุกวิกฤติชีวิตคือ โอกาสสำหรับการเสริมสร้างภาวะผู้นำของแต่ละคน

ในฐานะสาวกของพระคริสต์ เราท่านต่างต้อง “อภิบาลชีวิต” ผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าคู่ชีวิต คนในครัวเรือน คนในคริสตจักร เพื่อนฝูงคนสนิท และเพื่อนร่วมงาน ตลอดไปจนถึงผู้ที่รับบริการจากเรา

ชีวิตประจำวันเราต่างต้องเผชิญกับวิกฤติรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติด้านสุขภาพ วิกฤติด้านสัมพันธภาพ หรือวิกฤติในที่ทำงาน หรือ ในงานที่ทำ วิกฤติเศรษฐกิจของตน รวมไปถึงวิกฤติจากภัยธรรมชาติ เมื่อผู้คนต้องประสบพบเจอกับวิกฤติชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง ต่างต้องการคนที่จะอยู่กับเขา ช่วยเขา เป็นกำลังใจ เป็นสติปัญญา และชี้ทางในเวลาเช่นนั้น พวกเขาต้องการ “ผู้อภิบาลครับ”

เราควรทำอย่างไรเมื่อเผชิญกับ “วิกฤติชีวิต” ไม่ว่าวิกฤติชีวิตของเราเอง หรือ ของผู้คนที่เผชิญวิกฤติชีวิตแล้วหันหน้ามาหาเรา?

สิ่งแรกของสิ่งแรกใน “การอภิบาลชีวิตในยามวิกฤติ” คือ “อธิษฐาน” ซึ่งบ่อยครั้งผู้คนจะเลือกทำสิ่งอื่นก่อน การอธิษฐานเป็นเรื่องสุดท้าย แย่กว่านั้น เราอธิษฐานเมื่อสิ้นทางเลือกหมดทางสู้แล้ว!

การอธิษฐานเป็นโอกาสที่พระเจ้าจะเปิดเผยและสัมผัสชีวิตของเรา เราจะรู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้น รู้จักน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้เราเริ่มเห็นว่า อะไรคือพระประสงค์ของพระองค์ในวิกฤติชีวิตดังกล่าว ยิ่งกว่านั้น เราก็จะเริ่มเห็นทางออก ทางรับมือและจัดการ ที่พระปัญญาของพระเจ้าเปิดเผยและชี้ทางแก่เรา เราจะเห็นเส้นทางตามพระประสงค์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น มากกว่านั้น เราเริ่มเห็นว่าพระเจ้าทรงใช้ผู้คนอีกหลายคนที่เขามาหนุนเสริมเราให้เราสามารถเดินตามเส้นทางที่พระเจ้าได้เปิดเผยนั้น

ดาเนียล เป็นตัวอย่างที่ดีมากในเรื่องนี้ เมื่อเขาต้องเผชิญกับวิกฤติในช่วงปลายชีวิต จากการตกเป็นเชลยศึกในกรุงบาบิโลน 70 ปี ในช่วงปลายชีวิตเขาต้องการมีโอกาสกลับสู่ “มาตุภูมิ” (แผ่นดินแม่ แผ่นดินเกิด แผ่นดินแห่งพระสัญญา)

ดาเนียลรู้ถึงคำเผยพระวจนะของเยเรมีย์ ที่พระเจ้ามีพระสัญญาว่า พระองค์จะพาเชลยศึกอิสราเอลกลับไปแผ่นดินเกิดหลังจากที่ตกเป็นเชลยแล้ว 70 ปี ซึ่งตรงกับช่วงปลายชีวิตของดาเนียลในตอนนั้น สิ่งที่ดาเนียลทำในเรื่องนี้คือ เขาอธิษฐานต่อพระเจ้า ในวิกฤติชีวิตครั้งนี้ (ทำอย่างไรเขาถึงจะได้กลับไปยัง “แผ่นดินเกิด” แผ่นดินแห่งพระสัญญา)

ดาเนียลอธิษฐานอย่างไร?

1. ดาเนียล “ฟัง” พระเจ้า

แล้วเราจะฟังพระเจ้าอย่างไร? สำหรับดาเนียล เขาอ่านและศึกษาพระวจนะของพระเจ้า โดยเฉพาะ “พระสัญญาของพระเจ้า” ซึ่งเขาได้พบคำเผยพระวจนะเของเยเรมีย์ ที่กล่าวถึงพระเจ้าจะนำเชลยศึกอิสราเอลในบาบิโลนกลับสู่แผ่นดินเกิดแผ่นดินแห่งพระสัญญา (พบในดาเนียลบทที่ 9)

ในฐานะผู้อภิบาลชีวิต เมื่อผู้คนตกอยู่ในภาวะวิกฤติชีวิต เราต้องนำพวกเขาให้จดจ่อที่พระสัญญาของพระเจ้า พระสัญญาเหล่านี้จะเป็นรากฐานความเชื่อและกรอบคิดของเราในภาวะวิกฤติชีวิต

2. ดาเนียลพุ่งความสนใจมุ่งจดจ่อไปที่พระเจ้า

ดาเนียล 9:3 กล่าวว่า “ข้าพเจ้าจึงขะมักเขม้นอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้า...” (มตฐ.) สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเราต้องตกอยู่วิกฤติก็เพราะเราหันหน้าออกไปจากพระเจ้า มุ่งสนใจเอาจริงเอาจังกับสิ่งอื่นในชีวิต ชีวิตของเราจึงประสบกับความทุกข์ยากลำบาก ความเจ็บปวด ตกอับในชีวิต ดังนั้นในยามวิกฤติชีวิตจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหันกลับมาหาพระเจ้า แล้วขะมักเขม้นอธิษฐานมีชีวิตที่จริงจังกับพระองค์ มิใช่มุ่งที่จะหาทางแก้ปัญหาแก้วิกฤติ หรือพยายามหาทางว่าตนจะจัดการอย่างไรกับชีวิตของตนเอง

3. ดาเนียลอธิษฐานจากก้นบึ้งแห่งจิตใจ อารมณ์ และความรู้สึก

พระคัมภีร์ตอนนี้ใช้ 3 คำที่บ่งชี้ถึงลักษณะการอธิษฐานของดาเนียล คืออธิษฐานอย่าง “ขะมักเขม้น” “ทูล” และ “วิงวอน” (คิดถึงภาพของขอทานที่มีดวงตาวิงวอนขอความช่วยเหลือ) โดยปกติทั่วไปแล้ว เมื่อมีอะไรเราจะ “ทูล” ต่อพระเจ้า บอกกับพระองค์ว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้สำคัญต่อเราอย่างไร แล้วก็ขอพระองค์ช่วย ในการอธิษฐานยามวิกฤตินี้ อาจจะเป็นการอธิษฐานที่ “ไม่เป็นคำ” แต่พรั่งพรูออกมาด้วย จิตใจ อารมณ์ และ ความรู้สึกจากส่วนลึกแห่งจิตวิญญาณ

4. สามพฤติกรรมที่ดาเนียลทุ่มเทจริงจังในการอธิษฐานต่อพระเจ้า

ภาพพฤติกรรมอีก 3 อย่างที่แสดงถึงการอธิษฐานที่ทุ่มเทจริงจังของดาเนียลในครั้งนี้คือ อดอาหาร สวมเสื้อผ้ากระสอบ และ คลุกขี้เถ้า

พระเยซูคริสต์กล่าวว่า การอัศจรรย์บางอย่างจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการอธิษฐานและอดอาหารเท่านั้น การอดอาหารเป็นการแสดงถึงความจริงจังในการทูลขอต่อพระเจ้า ในการอภิบาลชีวิตผู้คน เราจะต้องช่วยให้ผู้คนเหล่านั้นทูลขอต่อพระเจ้าด้วยการทุ่มเททั้งชีวิต จิตใจ ความคิด อารมณ์ และจิตวิญญาณ ส่วนเรื่องการนุ่งผ้ากระสอบและคลุกขี้เถ้าเราไม่เห็นการกระทำนี้ในปัจจุบัน แต่เป็นเรื่องที่คุ้นชินในตะวันออกกลางในอดีต

5. ดาเนียลขอบพระคุณสำหรับความรักเมตตาและพระสัญญาของพระเจ้า

ดาเนียลทูลต่อพระเจ้าว่า เขารู้สึกขอบพระคุณพระเจ้า ที่พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและกระทำให้พระสัญญาของพระองค์สำเร็จเป็นรูปธรรม (9:4 มตฐ.) เมื่อเราอภิบาลชีวิตผู้คนในยามวิกฤติ เราจำเป็นที่จะหนุนเสริมให้พวกเขาสำนึกและแสดงออกถึงการที่เขารู้สึกขอบพระคุณพระเจ้า เรามักจะเลยข้ามส่วนนี้เมื่อเราอธิษฐาน การที่เรามีความสำนึกในพระคุณของพระเจ้า ช่วยเรามองเหนือวิกฤติปัญญาที่เรากำลังเผชิญ แต่เรามุ่งมองที่ความสัตย์ซื่อ พระคุณ และพระสัญญาของพระเจ้า

6. ดาเนียลถ่อมชีวิตจิตใจลง สารภาพถึงความบาปผิดของตน

“ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาป ทำชั่วและกบฏต่อพระองค์ หันหนีจากบทบัญญัติและพระบัญชาของพระองค์” พระเจ้าสดับฟังเสียงของคนเล็กน้อยต่ำต้อยที่ถ่อมจิตใจลง แต่ไม่ต้องการฟังเสียงของคนที่หยิ่งยโสโอหัง พระเจ้าไม่เคยที่จะลงโทษคนที่สารภาพผิดต่อพระองค์ แต่พระองค์ทรงอวยพระพรแก่ผู้จริงใจสัตย์ซื่อสารภาพบาปผิดในชีวิตของเขา

ในฐานะที่เราเป็น “ผู้อภิบาลชีวิต” ของผู้คน ที่แต่ละคนต้องเผชิญผ่านพบกับวิกฤติชีวิตมากมาย สิ่งแรกที่เราจะอภิบาลชีวิตของผู้คนที่ต้องพบกับวิกฤติชีวิตคือ การนหนุนเสริมให้เขาอธิษฐานต่อพระเจ้า

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น