14 มีนาคม 2553

เมล็ดแห่งพลัง

จงปล่อยวางด้วยจิตใจที่มั่นคงหนักแน่น
ไม่บีบคั้น ลากฉุด หรือ กดดันตนเองจนชีวิตตึงและเครียด

อย่ากลัวเลย ทุกสิ่งในชีวิตของท่านมีไว้เพื่อการดีที่สุด

ท่านจะกลัวความไม่มั่นคง ความแปรเปลี่ยนได้อย่างไรเมื่อชีวิตของท่านอยู่ในพระเจ้า
พระองค์ผู้ทรงยืนยง มั่นคง ไม่โอนเอนไปตามกระแสและสภาพแวดล้อม
พระองค์ทรงสัตย์ซื่อ มั่นคง ทั้งวานวันที่ผ่านมา วันนี้ และต่อไปเป็นนิตย์

ท่านต้องเรียนรู้ในการ “ทรงตัว” สร้างสมดุลในชีวิตจิตวิญญาณของท่าน
บนพื้นที่ยืนที่โอนไปเอนมา
บนสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เป็นเหมือนไม้หลักปักขี้ควาย
ที่โอนเอนโคลงเคลงปราศจากความมั่นคงแห่งโลกนี้
ท่านต้องเรียนรู้ที่จะมีชีวิตที่สมดุลมั่นคงในโลกที่เปลี่ยนแปลง

วันนี้จงให้พลังขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในชีวิตจิตวิญญาณของท่าน
พลังที่พระองค์ทรงใช้ขับผีร้ายและอำนาจชั่วทุกรูปแบบ

จงใช้พลังของพระองค์ดังกล่าว
เพื่อพลังดังกล่าวจะอยู่ในท่าน และเติบโตแข็งแรงในชีวิตประจำวันของท่าน
แต่ถ้าท่านไม่ใช้พลังของพระองค์
พลังดังกล่าวก็จะกลับไปยังพระองค์และไม่อยู่ในชีวิตท่าน
ดังนั้น ท่านจงใช้พลังของพระองค์ที่มีอยู่ในตัวท่านตลอดวันคืนแห่งชีวิตของท่าน

คนมักเข้าใจผิด
เมื่อต้องการพลังในชีวิตก็จะทูลขอวิงวอนต่อพระเจ้า
แล้วคาดคิดผิดพลาดว่า
เมื่อพระองค์ให้พลังแก่เขาแล้ว
พลังของพระองค์จะจัดการทุกอย่างในชีวิต
นั่นเป็นการเข้าใจผิด
เพราะถ้าเช่นนั้น คนๆ นั้นก็จะเป็นเหมือนทารกไม่เติบโตสักที
ทำได้แค่ทูลขอวิงวอนต่อพระเจ้าเท่านั้น

พลังที่องค์พระผู้เป็นเจ้าให้แก่แต่ละคน
เป็นพลังที่เหมาะสมสอดคล้องกับความจำเป็นต้องการในสถานการณ์ชีวิตคนนั้นๆ
เป็นเหมือนเมล็ดพืชที่พระองค์หว่านลงในชีวิตจิตวิญญาณของท่าน

เมล็ดแห่งพลังชีวิตนี้พร้อมที่จะงอก เติบใหญ่ เกิดดอก ออกผล มีเมล็ดใหม่
กลายเป็นพลังที่มั่นคงในชีวิตของท่าน
แต่ท่านต้องร่วมเรียนรู้และเติบโตขึ้นไปกับต้นพลังแห่งชีวิตนั้น และ
เมื่อเกิดเมล็ดใหม่ท่านพึงพร้อมที่จะนำไปหว่านลงในชีวิตจิตวิญญาณของญาติมิตรคนรอบข้าง

ท่านจะร่วมเรียนรู้และร่วมเติบโตกับต้นไม้แห่งพลังก็ด้วยลงมือใช้พลังนั้น
เริ่มต้นในตนเอง กับตนเอง
จนขยายวงสู่คนรอบข้าง
เป็นพลังที่ฝังรากในชีวิต

แต่ถ้าท่านนำ “เมล็ดแห่งพลังชีวิต” ที่พระเจ้าให้แก่ท่านตามที่ท่านทูลขออ้อนวอนนั้น
แล้วเก็บไว้อย่างดีในภาชนะที่ปลอดภัย
เมล็ดนั้นก็ไม่สามารถสำแดงพลัง ไม่ก่อเกิดชีวิตใหม่
แล้วท่านกลับไปทูลขออ้อนวอนจากพระเจ้าอีก
เพราะยังไม่มีพลังที่จะแก้ไขพัฒนาชีวิตจิตวิญญาณ
ทำเช่นนั้นไม่ถูกไม่สมควร

ท่านต้องนำเมล็ดแห่งพลังชีวิตของพระเจ้าหว่านลงในดินแห่งชีวิตจิตวิญญาณของท่าน
ทั้งเฝ้ารอ ดูแล อุณหภูมิ ความชื้นของดินแห่งชีวิตของท่าน
นั่นคือ ท่านต้องลงมือใช้พลังของพระเจ้าที่ประทานมาในชีวิตของท่าน
แม้ว่าจะดูว่าเล็กไม่มีพลัง แต่มีชีวิต พร้อมที่จะงอก และ เกิดพลังได้

สิ่งสำคัญ ท่านต้องไม่คิดว่าท่าน “ยุ่ง ไม่มีเวลา”
ท่านลงมือใช้พลังชีวิตของพระเจ้าในแต่ละงานในแต่ละสถานการณ์
เมื่อเสร็จแต่ละภารกิจในชีวิตแล้ว
ท่านจงกลับมาอยู่ในพระองค์
พระองค์จะอยู่ในท่าน
เพื่อทรงเติมเต็ม และ เพิ่มพูนพลังที่จำเป็นในภารกิจต่อไปข้างหน้า และ
จงมั่นใจเถิดว่า ไม่มีภารกิจชีวิตเรื่องใดหนักเกินกำลังของท่าน

ที่สำคัญคือ
จงให้ความชื่นชมยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นความชื่นชมยินดีในชีวิตประจำวันของท่าน
จงดำเนินชีวิตแต่ละวันในความชื่นชมยินดีดังกล่าว และ
จงให้จิตวิญญาณของท่านดื่มด่ำในความชื่นชมยินดีนั้น และ
อย่าลืมสะท้อนคิด และ ใคร่ครวญในสิ่งที่พระเจ้าและท่านได้กระทำร่วมกันในชีวิตของท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น