18 มีนาคม 2553

ผู้ทรงอิทธิพล

เราได้ให้ชีวิตนิรันดร์แก่ทุกคนที่เชื่อและเข้ามาหาเรา นี่คือคำตรัสของพระคริสต์เจ้า
ชีวิตนิรันดร์ดังกล่าวจะแปรเปลี่ยนชีวิตทั้งสิ้นของท่าน ไม่ว่าคำที่พูด สิ่งที่คิด ท่าทีที่แสดงออก และพฤติกรรมในชีวิต ให้เป็น “คน” ตามพระประสงค์ เป็นคนในแผ่นดินของพระเจ้า
ชีวิตนิรันดร์เปลี่ยนท่านให้เป็นคนใหม่
ชีวิตใหม่ในตัวท่านจะมีอิทธิพลและพลังที่กระทบต่อชีวิตของผู้อื่น และ สังคมแวดล้อมรอบข้างด้วยเช่นกัน

ชีวิตนิรันดร์ จึงเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของชีวิตจากชีวิตหนึ่งที่มีผลกระทบไปยังอีกชีวิตหนึ่ง และ หลายชีวิตในสังคม ชีวิตนิรันดร์จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

อิทธิพลแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงภายในของชีวิตของบุคคลก่อน ที่สำแดงออกมาเป็นรูปธรรมภายนอกชีวิต ที่ผู้อื่นสามารถเห็นและสัมผัสสัมพันธ์ได้ และเป็นชีวิตที่ทรงอิทธิพลต่อชีวิต ความคิด คำพูด ท่าที และพฤติกรรมของคนรอบข้าง

ดังนั้น เราจะเห็นว่าชีวิตนิรันดร์เป็นกระบวนการที่มีอิทธิพลและพลังอันยิ่งใหญ่ แผ่ซ่านกว้างขวาง และนี่คือกระบวนการเปลี่ยนแปลงขับเคลื่อนกระทบที่เกิดจากการที่จิตวิญญาณหนึ่งๆ ที่ได้รับชีวิตนิรันดร์ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งวิธีคิด วิธีพูด คำที่พูด ท่าที ชีวิตที่แสเดงออก และเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องจากยุคหนึ่งไปยังอีกยุคหนึ่ง

ท่านจงใคร่ครวญขุดลึกสัจจะความจริงนี้
ชีวิตนิรันดร์มิใช่เป็นเพียงข้อเท็จจริงที่ผิวเผิน ความรู้ที่ตายตัว
แต่ชีวิตนิรันดร์เป็นกระบวนการอันล้ำลึกในชีวิตแห่งแผ่นดินของพระเจ้า เป็นเหมือนมุกที่มีค่ายิ่งแต่ถูกซ่อนกลบไว้
ท่านจงเพ่งมองความจริงนี้ ให้สัจจะดังกล่าวทำการขับเคลื่อนในห้วงคิดคำนึง ในชีวิตจิตใจของท่าน และเกิดผลเป็นรูปธรรมในชีวิตประจำวันของท่าน

------------------

บ่อยครั้ง ที่มีความเข้าใจทั่วไปว่า ชีวิตนิรันดร์คือชีวิตที่ไม่ตาย เป็นชีวิตที่อมตะ

เป็นความจริงว่า ชีวิตนิรันดร์เป็นชีวิตที่ไม่รู้จักจบสิ้น

เพราะจุดสุดท้ายในขั้นตอนหนึ่งหรือช่วงหนึ่งของชีวิตนิรันดร์เป็นจุดเริ่มต้นของอีกขั้นตอนหนึ่ง ดังนั้น จึงเป็นกระบวนชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลง และเพราะกระบวนการเปลี่ยนแปรอย่างต่อเนื่องของชีวิตนี้เอง จึงเป็นชีวิตอมตะ ชีวิตที่ไม่ตายหรือจบสิ้น เป็นชีวิตนิรันดร์

เมื่อพระเยซูคริสต์กระทำพระราชกิจของพระเจ้าในโลกนี้ พระดำรัสอมตะที่คริสตชนท่องขึ้นใจที่ว่า “เพราะพระเจ้าทรงรักโลก จึงได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่เชื่อและวางใจในพระบุตร ผู้นั้นจะได้รับชีวิตนิรันดร์” เป็นชีวิตรับการเปลี่ยนแปลงจากเบื้องบน ชีวิต นิรันดร์เป็นชีวิตที่เปลี่ยนไป

การเปลี่ยนแปลงในชีวิตเป็นหัวใจแห่งข่าวดีของพระเยซูคริสต์เจ้า เมื่อพระองค์เริ่มพระราชกิจของพระองค์อย่างเป็นทางการ พระองค์ทรงประกาศว่า “จงกลับใจเสียใหม่ ...”

------------------

จะเป็นเพราะการที่ต้องการเอาชนะคะคานกัน หรือ เพราะมีความเข้าใจว่า แต่ละศาสนาแตกต่างกัน และด้วยนิสัยจิตวิญญาณที่หมุนวนอยู่ในสังเวียนชีวิตแห่งการแข่งขันในโลกแห่งทุนนิยมและบริโภคนิยม จึงเกิดความพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่าตน และ สิ่งที่ตนมี ตนยึดถือนั้นเหนือกว่าคนอื่น! อย่างไม่ตั้งใจ บางคนอย่างไม่รู้ตัว แต่สำหรับบางคนแล้วเป็นชีวิตจิตใจ

บางคนชี้ความต่างในคำสอนของคริสต์ศาสนากับพุทธศาสนาว่า พุทธศาสนาท่านสอนว่า ชีวิตเป็น “อนิจจัง” ความไม่เที่ยงแท้ยั่งยืน ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลง ส่วนคริสต์ศาสนาสอนถึงเป้าหมายปลายทางคือ “ชีวิตนิรันดร์” ชีวิตที่อมตะตลอดกาล

ท่านคิดอย่างไรในเรื่องนี้?

------------

สำหรับผมแล้ว พระเยซูคริสต์ทรงประกาศว่า “จงกลับใจเสียใหม่...” นั่นคือ ผู้ที่จะเข้าอยู่ในชีวิตแห่งแผ่นดินของพระเจ้าจุดเริ่มต้นคือ ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลง เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นกระบวนการ

หัวใจแห่งข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์คือ

  • จงกลับใจเสียใหม่ คือใครที่จะเข้าสู่การมีชีวิตที่ติดตามพระคริสต์ เริ่มต้นด้วยการยอมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตน (เป็นชีวิตที่จะต้อง ละ ทิ้ง ติด ตาม: คือละสิ่งรอบข้างที่ยึดเหนี่ยวชีวิตของเราไว้, ทิ้ง “ชีวิตเก่าในตัวเรา” ไม่เอาขึ้นมาปัดฝุ่นใช้ใหม่, มีชีวิตที่ติดสนิทกับพระคริสต์, และ เดินตามรอยพระบาทของพระองค์ในทุกสถานการณ์ชีวิต)
  • จงกลับใจเสียใหม่ หัวใจของการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่เปลี่ยนจากภายในชีวิตของแต่ละคนมิใช่เริ่มต้นที่เปลี่ยนจากภายนอก แล้วให้การเปลี่ยนแปลงภายในมีอิทธิพลต่อท่าที พฤติกรรม การแสดงออกและการดำเนินชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไปตามนั้นด้วย แน่นอนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมของชีวิต
  • จงกลับใจเสียใหม่ ต้องใช้พลังในการเปลี่ยนแปลง เป็นพลังที่เหนือกว่าพลังที่ครอบงำชีวิตที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น การกลับใจใหม่คือการตัดสินใจยอมให้พลังจาก “เบื้องบน” เป็นพลังชี้นำให้ชีวิตเราเกิดการเปลี่ยนแปลง เราเต็มใจและพร้อมที่จะยอมรับกับความผันแปรและผลที่จะเกิดในชีวิต และเราเชื่อมั่นว่าจะมีชีวิตที่มีคุณค่า และ คุณภาพที่เหมาะสม
  • จงกลับใจเสียใหม่ มิใช่เรื่องเล่าครั้งหนึ่งในชีวิต แต่เป็นเรื่องจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกระบวนการและต่อเนื่อง เป็นกระบวนการพัฒนาปรับเปลี่ยนชีวิตของคนๆหนึ่งไปสู่การมีชีวิตที่เป็นเหมือนและเป็นของพระคริสต์มากขึ้นทุกวัน และนำสู่การเกิดขึ้นของชีวิตชุมชนตามพระประสงค์ ที่ท่านเปาโลใช้วลีที่เราท่านรู้จักกันดีว่า “ชีวิตในพระเยซูคริสต์”

แล้วท่านว่าใครคือผู้มีอิทธิพลในชีวิตของท่าน? (คำถามนี้ผมถามตนเองครับท่าน!)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น