25 มกราคม 2553

ความอับอายและรู้สึกผิด

บางครั้งเกิดความลังเลที่จะปรากฏตัวต่อหน้าพระเจ้า
ลำบากใจที่จะเผชิญหน้ากับพระองค์
รู้อยู่แก่ใจว่าตนได้ทำผิดมา ตนมีชีวิตที่ไม่เหมาะสม
ในเวลาเช่นนั้น ชีวิตอ่อนโหยหมดแรง

ในเวลาเช่นนั้นอีกเช่นกัน ที่ได้ยินสรรพสำเนียงเสียงตรัสที่นุ่มนวลและแผ่วเบาแก่จิตใจว่า
“ลูกของเราเอ๋ย
ใช่แล้ว จำเป็นที่เราจะต้องปกป้องเจ้าจากการรังเกียจ ดูถูก เย้ยหยัน
และคุ้มครองปกป้องเจ้าจากการถูกตำหนิ

จงมองย้อนไปในอดีตเมื่อเราอยู่กับสาวก
บ่อยครั้งที่เราต้องปกป้องสาวกของเราจากการรังเกียจ ดูถูก เย้ยหยัน
และการตำหนิจากตนเอง

จงดูเปโตรผู้น่าสงสาร
เขาจะไม่สามารถกระทำพระราชกิจของเราให้ลุล่วงได้
ไม่มีพลังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป หรือ
ไม่กล้าที่จะดำเนินชีวิตเพื่อเราอีกต่อไป
แต่ด้วยความรักที่ทะนุถนอมของเราที่โอบกอดเปโตรไว้
มิใช่ด้วยวิธีฝึกวินัยที่แข็งกร้าว รุนแรง และข่มขู่
เพราะพระบิดาเป็นความรัก ให้โอกาส ปกป้อง และเสริมสร้าง

เพราะพระบิดาทรงเปี่ยมด้วยรักเมตตาในทุกมิติชีวิต
จึงมิได้ปกป้องเปโตรด้วยความโกรธ รุนแรง และข่มขู่
แต่ด้วยรักเมตตาที่ทะนุถนอมด้วยอ้อมแขนที่โอบกอดเปโตร

เราต้องการที่จะปกป้องคุ้มครองเปโตร
มิใช่ปกป้องเขาจากการตำหนิเย้ยหยันของศัตรู
มิใช่ปกป้องการตำหนิกล่าวโทษจากมิตรสหาย หรือ สาวกคนอื่นๆที่ขุ่นเคืองเปโตร
แต่เราปกป้องเปโตรจากการที่เขารังเกียจตนเอง

ฉันใดฉันนั้น สำหรับผู้ที่ติดตามเราในทุกวันนี้
ที่เกิดความละอายใจและรู้สึกผิด เสียใจในความผิดที่ได้ทำลงไป
จึงรังเกียจเหยียดหยามตนเองในความอ่อนแอแห่งตน
ทั้งๆ ที่ตั้งใจที่จะมีชีวิตที่เข้มแข็งและกล้าหาญเพื่อเรา

เราจึงปกป้องคนเหล่านี้ด้วยโล่แห่งความเมตตากรุณา
มิเช่นนั้นแล้วคนเหล่านี้จะกลัวลาน สิ้นความกล้า
หมดกำลังที่จะบากบั่น สู้ทน และมีชัยในชีวิต

การที่ต้องเผชิญหน้าตัวตนที่แท้จริงของตนเองนั้น
จะเกิดความอับอายและรู้สึกผิด

แต่นั่น เป็นขั้นตอนของพัฒนาการแห่งชีวิต
ที่จะนำไปสู่การโบยบินของปีกแห่งความชื่นชมยินดี
จะเป็นประโยชน์อันใด ถ้าชีวิตของเจ้ายังยึดแน่น ฝังลึกในความคิด
“ความน่าเกลียดน่าชัง” ของตนในอดีต

ดังนั้น เราบอกเจ้าในวันนี้ว่า
เจ้าจงเลิกมีชีวิตที่จมจ่อมอยู่กับความผิดพลาด นิสัยเสีย ในอดีตแม้เพียงชั่วขณะเดียว

เจ้าจงเป็นเหมือนนักวิ่งที่สะดุดล้มลง
แต่ลุกขึ้นและมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย
จะเป็นประโยชน์อันใดหรือ
เมื่อสะดุดล้มลงแล้ว หยุดวิ่ง มัวแต่ตรวจสอบพิสูจน์ว่า อะไรที่ทำให้ตนสะดุดล้มลง
แล้วร้องโหยไห้ตีโพยตีพายต่อความล่าช้าที่เกิดขึ้นว่า
ทำไมตนไม่สามารถเห็นตัวอุปสรรคที่มาทำให้สะดุด
เพื่อตนจะได้ไม่ต้องสะดุดล้ม
เพื่อตนจะได้หลีกเลี่ยงตัวสะดุดที่อยู่ข้างหน้า

เช่นเดียวกันสำหรับเจ้า เราขอบัญชาว่า
อย่าหันกลับไปหาอดีต
จงเริ่มต้นใหม่วันนี้ ด้วยการอุทิศตนของเจ้า และ สิ่งที่เจ้ามีอยู่ในวันนี้

จงจำไว้เสมอว่า
มิใช่การติดยึดอยู่กับความบาป ความผิดพลาด ความล้มเหลว ทั้งของตนเองและของคนอื่น
เพราะการยึดติดดังกล่าวรังแต่ก่อเกิดความสิ้นหวัง
ที่ทำให้ชีวิตของเจ้าต้องจมปลัก ดักดาน รั้งท้าย

เมื่อเราส่งสาวกของเราเข้าสู่ชุมชน เราให้เขาไปเป็นคู่ๆ
ไม่มีบท(ที่ให้พูด),
ไม่มีเสื้อผ้าสำรอง
ไม่มีเงิน(กันฉุกเฉิน)
แต่นี่เป็นคำบัญชาที่มีความหมายตรงตามตัวอักษร

ในการเดินทางแห่งชีวิต
จงทิ้งสิ่งทั้งหลายที่ไม่สำคัญ
ปล่อยทิ้งสิ่งขัดขวาง
ความบกพร่องไม่สมบูรณ์ทั้งในตนเองและผู้อื่น
ปลดปล่อยตนจากความรู้สึกล้มเหลว

จงเดินทางชีวิตด้วยความไว้วางใจในเรา
แล้วเจ้าจะผ่อนคลาย
มีจิตใจที่เบา
เป็นจิตใจที่ปลอดจากอำนาจ และ อิทธิพลที่มาครอบงำ
ลูกเอ๋ย เรารักเจ้า”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น