15 มกราคม 2553

เวลา

เวลาที่เรามีอยู่ในทุกขณะจิตเป็นของประทานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์ประทาน “เวลาชีวิต” แก่เราแต่ละคน เราจึงมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
พระองค์ใส่พระประสงค์ของพระองค์ลงใน “เวลาชีวิต” ของเรา
ชีวิตของเราจึงมีคุณค่าและความหมาย

ดังนั้น
ในแต่ละขณะ
ในแต่ละนาที และ
ในแต่ละเสี้ยววินาที
เป็นของประทานจากพระเจ้า

พระเจ้าประทานทุกสิ่งแก่มนุษย์และธรรมชาติ
พระองค์ประทานโดยมีพระประสงค์
อยู่ที่เราจะหลงผิดคิดว่า เราเป็นเจ้าของเวลา
เราจึงใช้เวลาเหล่านั้นตามใจประสงค์ของเราเอง
หรือเราจะใช้เวลาด้วยสำนึกว่าเป็นพระคุณที่ประทานแก่เรา และ
แสวงหาพระประสงค์สำหรับเวลานั้นๆ

เวลาเป็นที่มาของแผนงาน
เป็นที่มาของเหตุการณ์ต่างๆ น้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
แผนงาน และ เหตุการณ์เหล่านั้นอาจจะเกิดขึ้นตามที่เราเห็นควร หรือ ต้องการให้เกิด
แต่เราเคยนั่งลงตรงหน้าพระเจ้าและถามองค์ผู้เป็นเจ้าของเวลานั้นหรือไม่ว่า...
พระองค์มีพระประสงค์อะไรในช่วงเวลา ในแผนงาน และในเหตุการณ์ดังกล่าว

เราต้องไม่พลั้งเผลอลืมไปว่า
พระเจ้าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเหตุการณ์และปรากฏการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะ
พระองค์ทรงใส่พระประสงค์ในเหตุการณ์นั้นๆ
พระองค์ทรงมีแผนงานของพระองค์ในทุกปรากฏการณ์เหล่านั้น
เราเคยตระหนักชัดในเรื่องนี้หรือไม่?
เราเคยแสวงหาพระประสงค์ในทุกเหตุการณ์น้อยใหญ่ที่เราเผชิญหรือไม่?

ในเหตุการณ์ที่เราพอใจและไม่พอใจ
ในเหตุการณ์ที่เราเข้าใจและไม่เข้าใจ

ในเหตุการณ์ที่ปีติชื่นชมหรือต้องการหลีกลี้หนีให้ไกล
ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากแผนงานและการกระทำของมนุษย์
พระเจ้าทรงอยู่ด้วย ห่วงใย และพร้อมที่จะใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตามพระประสงค์ของพระองค์
เราเคยแสวงหาพระประสงค์ในทุกเหตุการณ์น้อยใหญ่ที่เราเผชิญหรือไม่?
หรือเราปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นตามยถากรรมที่เป็นผลที่เราเขียนขีดไว้

ในทุกเช้าค่ำ เป็นโอกาสที่เราจะทบทวนและใคร่ครวญถึงเหตุการณ์น้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นในวันนี้
เราอาจจะพบทั้งความพึงพอใจและความเสียใจ
เห็นความสำเร็จตามแผนงานและความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
มีสักกี่คนในพวกเราที่ได้เห็นพระประสงค์ของพระเจ้า ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้แต่ละเหตุการณ์
อันเป็นที่มาของความชื่นชมยินดี

การสำนึกผิด
การคร่ำครวญทูลขอ
การขอบพระคุณ
และเป็นที่มาของความหวังในชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น