06 มกราคม 2555

หัวใจพระกิตติคุณ...ถ่อมและเสียสละ

หลังเทศกาลคริสต์มาส และ การเข้าสู่ปีใหม่ ให้เราใคร่ครวญถึงหัวใจของพระกิตติคุณ

อ่านฟิลิปปี 2:1-11

ฉบับมาตรฐาน
ข้อ 5 จงมีจิตใจเช่นนี้ในพวกท่านเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์
ข้อ 6 ผู้ทรงสภาพความเป็นพระเจ้า ไม่ทรงถือว่าความทัดเทียมกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่จะต้องยึดไว้
ข้อ 7 แต่ทรงสละพระองค์เองและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์
ข้อ 8 พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขน

อมตธรรม
ข้อ 5 ท่านควรมีท่าทีแบบเดียวกับพระเยซูคริสต์
ข้อ 6 ผู้ทรงสภาพพระเจ้า แต่ไม่ได้ทรงยึดติดในความเท่าเทียมกับพระเจ้า
ข้อ 7 พระองค์กลับทรงสละทุกสิ่ง มารับสภาพทาส บังเกิดเป็นมนุษย์
ข้อ 8 และเมื่อทรงปรากฏเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง และยอมเชื่อฟังแม้ต้องตายบนไม้กางเขน

ในปัจจุบันนี้หัวใจแห่งพระกิตติคุณว่าด้วยการที่พระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีอิทธิพลต่อชีวิต ความเชื่อ และการดำเนินชีวิตของคริสเตียนและชุมชนคริสตจักรอย่างไรบ้าง? การที่พระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์ได้บอกอะไรแก่เราว่า เราควรมีชีวิตและดำเนินชีวิตเช่นไรบ้าง? เราจะพบคำตอบต่อคำถามข้างต้นจากบทเพลงสรรเสริญที่อาจจะเก่าแก่ที่สุดของคริสเตียนใน พระธรรมฟิลิปปี 2:1-11

โดยภาพรวมคริสตจักรฟิลิปปีเป็นคริสตจักรที่ดูเข้มแข็งแห่งหนึ่ง เป็นเพื่อนร่วมงานในพันธกิจของเปาโลที่สัตย์ซื่อและฝ่าฟัน แต่ผู้นำบางคนในคริสตจักรแห่งนี้เกิดความขัดแย้งในการทำงาน (4:2-3) แน่นอนว่าในการทำงานด้วยกันเมื่อมีความคิดความเห็นที่แตกต่างขัดแย้งไม่ลงรอยกันย่อมนำมาซึ่งการถกเถียง และบ่อยครั้งท่าทีที่แสดงออก คำพูดที่ใช้บาดลึกลงในชีวิตจิตใจกลายเป็นบาดแผลสร้างความเจ็บปวดในชีวิตของกันและกัน ดังนั้นใน 4:2 เปาโลเรียกร้องผู้นำและผู้รับใช้เหล่านี้ “ให้ปรองดองกัน” ในองค์พระผู้เป็นเจ้า รักซึ่งกันและกัน และทำงานร่วมกันในท่าทีและแบบอย่างตามหัวใจของพระกิตติคุณที่สำแดงชัดในพระเยซูคริสต์ หรือให้ทำงานร่วมกันด้วยพระกิตติคุณ หรือ ด้วยพระคุณของพระคริสต์(2:2) เปาโลขอร้องให้ทุกฝ่ายเลิก “การเห็นแก่ตัว” เลิกการเอา “ผลประโยชน์ของตน” เป็นที่ตั้ง หรือ “เอาแต่ใจตนเอง” “มุ่งหาประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว” แต่เปาโลเรียกร้องให้ทุกคนทำงานของพระคริสต์ด้วยความถ่อมใจ ให้ทำงานด้วยมีจิตใจและความคิดเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกัน และควรคิดถึง “ประโยชน์ของคนอื่นด้วย” (2:3-4) จากนั้นเปาโลกล่าวตอกย้ำชัดเจนลงไปเลยในข้อที่ 5 ว่า “ท่านควรมีท่าทีแบบเดียวกับพระคริสต์”(อมตธรรม) หรือ “จงมีจิตใจเช่นนี้ในพวกท่านเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์” แต่ถ้าเราแปลพระคัมภีร์ประโยคนี้ตามตัวอักษรก็จะแปลได้ว่า “ท่านควรมี ความคิด เหมือนอย่างพระคริสต์”

บางท่านคิดในใจว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระคริสต์มีความคิดแบบไหน มีมุมมองเช่นไร? เปาโลได้ตอบข้อข้องใจนี้ และได้ใช้บทเพลงสรรเสริญที่คริสตจักรเชื่อว่าเป็นบทเพลงที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดบทหนึ่งในการอธิบายด้วย หรือไม่เปาโลก็นำบทเพลงนี้จากบทเพลงที่ใช้ในการนมัสการในสมัยคริสตจักรเริ่มแรก แต่บางท่านก็คิดว่าบทเพลงนี้เปาโลได้เขียนขึ้นเอง จะเป็นบทเพลงที่มาจากแหล่งไหนไม่สำคัญเท่ากับแก่นแท้ของบทเพลงนี้มุ่งเน้นให้คริสเตียนสนใจในหัวใจของพระกิตติคุณคือ การที่พระคริสต์ได้ให้ชีวิตของตนเองด้วยเสียสละและด้วยใจถ่อมลง เปาโลชี้ชัดว่าพระเยซูคริสต์

“ผู้ทรงสภาพพระเจ้า แต่ไม่ได้ทรงยึดติดในความเท่าเทียมกับพระเจ้า
พระองค์กลับทรงสละทุกสิ่ง มารับสภาพทาส บังเกิดเป็นมนุษย์
และเมื่อทรงปรากฎเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง
และยอมเชื่อฟังแม้ต้องตายบนไม้กางเขน!” (2:6-8 อมตธรรม)

ถ้าพูดตามสำนวนตลาดปัจจุบัน เราพูดได้ว่า พระเยซูคริสต์ทรงถ่อม 2 เด้ง เด้งแรกพระองค์ถ่อมด้วยการมาเกิดเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา เด้งที่สอง เมื่อเป็นมนุษย์พระองค์ถ่อมด้วยการเชื่อฟังพระประสงค์ของพระเจ้าคือยอมถูกตรึงที่กางเขน บทเพลงนี้ต้องการเน้นย้ำหัวใจของพระกิตติคุณคือ “ความถ่อม” เมื่อพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าได้มาเกิดเป็นมนุษย์และได้สำแดงถึง “การถ่อม” อย่างน่าทึ่ง!

ดังนั้น การบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซูคริสต์เป็นแม่แบบท่าทีการดำเนินชีวิตของคริสเตียน และโดยเฉพาะท่าทีแห่งความถ่อมแบบพระคริสต์จำเป็นจะต้องเป็นท่าทีชีวิตที่ถ่อมของคนที่ประกาศตนเองว่าเป็นสาวกของพระองค์ พระเยซูคริสต์เลือกที่จะสละชีวิตของพระองค์ เราผู้เป็นสาวกของพระองค์ก็จำเป็นต้องยอมสละชีวิตของเราเองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสละตนเองในสัมพันธภาพต่างๆ ที่เรามีต่อผู้คนรอบข้างไม่ว่าในที่ทำงาน ในครอบครัว ในชุมชนสังคม หรือในชุมชนคริสตจักร เวลาใดก็ตามที่เรามัวแต่ให้คุณค่าแก่ความคิดความเห็นของเราเอง เราก็จะไม่สนใจและไม่เห็นคุณค่าในความคิดความรู้สึกของคนอื่น เราควรตระหนักเสมอถึงการดำเนินชีวิตตามหัวใจของพระกิตติคุณ หรือ ตามพระคุณของพระคริสต์ ในที่นี้คือ “ถ่อมและเสียสละ”

ให้เรามุ่งมั่นเดินตามหัวใจแห่งพระกิตติคุณนี้ หรือ ด้วยจิตวิญญาณของคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านไปให้ดำรงคงอยู่เป็นจิตวิญญาณในการดำเนินชีวิตในปีใหม่นี้ของเรา โดยเฉพาะในการดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในแต่ละบริบท ให้เราดำเนินชีวิตด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณของ “การถ่อมในการเป็นคนใช้” ของพระคริสต์ โดยสำแดงความถ่อมและการรับใช้แบบพระคริสต์ท่ามกลางชุมชนที่เรามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องสัมพันธ์ และการที่เราเลียนแบบพระคริสต์เช่นนี้ก็เป็นการยกย่องให้เกียรติและเป็นการนมัสการพระองค์ด้วยจิตวิญญาณและความจริง คือสัจจะความจริงในพระกิตติคุณ อีกทั้งจะนำพาให้ชุมชนคริสตจักรคือพระกายของพระคริสต์ได้เติบโตแข็งแรงขึ้นด้วย

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญและอภิปราย

1. ท่านคิดว่าในสถานการณ์ชีวิตแบบใดของท่าน ที่มีความยากลำบากที่จะดำเนินชีวิตตาม พระธรรมฟิลิปปี 2:1-5? เพราะเหตุใด?

2. ท่านเคยมีโอกาสที่จะสะท้อนคิดจริงจังที่จะเอารูปแบบ “หัวใจของพระกิตติคุณ” แห่งความถ่อมแบบพระคริสต์มาใช้ในชีวิตประจำวันหรือไม่? ถ้าเคย ผลเป็นอย่างไรบ้าง? ถ้าไม่เคย ท่านคิดว่าควรจะกระทำไหม? เพราะเหตุใด?

3. ท่านคิดว่า ในวันนี้ท่านจะใช้ “หัวใจของพระกิตติคุณ” แห่งความถ่อมแบบพระคริสต์ในความสัมพันธ์ใดได้บ้าง? หรือท่านตั้งใจจะใช้หัวใจของพระกิตติคุณนี้ในเรื่องอะไรในวันนี้ และ ในสัปดาห์นี้?

ใคร่ครวญภาวนา

พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์
ขอสรรเสริญและขอบพระคุณสำหรับน้ำพระทัยของพระองค์ที่ตั้งใจมาเกิดเป็นมนุษย์
พระองค์เลือกที่จะสละและไม่ยึดติดกับความเป็นพระเจ้าของพระองค์ มาเกิดเป็นคนธรรมดา
ด้วยการถ่อมของพระองค์ จึงนำมาซึ่งความรอดสำหรับมวลมนุษย์โลก
ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์

ท่าทีของจิตวิญญาณที่ถ่อมและเสียสละของพระองค์
ได้สอนให้ข้าพระองค์ตระหนักชัดว่าควรจะดำเนินชีวิตในวันนี้เช่นไร
ได้สอนให้ข้าพระองค์มีมุมมองที่เห็นความสำคัญของคนอื่น
ได้สอนให้ข้าพระองค์ให้ถ่อมใจลงยอมที่จะรับใช้ด้วยเสียสละ
และเป็นเสียงแห่งการทรงเรียกของพระองค์ในวันนี้ให้ข้าพระองค์เดินตาม
ข้าพระองค์ได้ยินการทรงเรียกให้ข้าพระองค์รับใช้ทุกคนรอบข้างมากกว่ามัวให้พวกเขามารับใช้ข้าพระองค์

โปรดให้หัวใจแห่งการรับใช้ด้วยใจถ่อมที่เสียสละได้เป็น “โมเดล” ในการดำเนินชีวิตของข้าพระองค์
เมื่อข้าพระองค์สะท้อนคิดถึงการทรงสละชีวิตของพระองค์ด้วยใจถ่อม
ข้าพระองค์ต้องการมีชีวิตตามแบบของพระองค์
ขอให้พระวิญญาณของพระองค์โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะเห็นคุณค่าความสำคัญของคนอื่น
เพื่อที่ข้าพระองค์จะได้ถ่อมใจลงรับใช้คนเหล่านี้ รับใช้แม้ข้าพระองค์จะมีตำแหน่งเป็นเจ้านายของเขาก็ตาม
โปรดช่วยให้ข้าพระองค์มีความคิดชีวิตที่เหมือนพระองค์มากยิ่งขึ้นทุกวัน อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
089-2628-310

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น