18 มกราคม 2555

หัวใจพระกิตติคุณ...การตอบสนองด้วยชีวิตร่างกาย

หลังเทศกาลคริสต์มาส และ การเข้าสู่ปีใหม่ ให้เราใคร่ครวญถึงหัวใจของพระกิตติคุณ

อ่านโรม 12:1-2

ฉบับมาตรฐาน

ข้อ 1 ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน

ข้อ 2 อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี และอะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม

อมตธรรม

ข้อ 1 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อพิจารณาถึงพระเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการพระเจ้าที่แท้จริง (ที่สมเหตุสมผล?)

ข้อ 2 อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า คือพระประสงค์อันดี เป็นที่พอพระทัย และสมบูรณ์พร้อมของพระองค์

ในฐานะคริสเตียนเราเห็นว่าร่างกายของเราสำคัญหรือไม่? หรือเรามองว่าร่างกายของเราเป็นแค่สิ่งที่ “อยู่” หรือหุ้มห่อจิตวิญญาณของเราไว้เท่านั้น? เราทำอะไรบ้างกับร่างกายของเรา? ในพระธรรมโรม 12:1-2 ได้กล่าวถึงประเด็นเหล่านี้ เราคงจำเป็นต้องที่จะดูแล รักษา และใช้ร่างกายของเราอย่างไรถ้าเราจะตอบสนองต่อ “พระคุณ” หรือ พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

ในพระธรรมโรมบทที่ 12 เปาโลได้กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติตามหลักการหลักเชื่อในพระกิตติคุณ ตลอดโรม 11 บทก่อนหน้านี้เปาโลได้ช่วยให้เราพิจารณาพระกิตติคุณอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในบทที่ 12 ท่านได้ให้แนวทางในการปฏิบัติเพื่อตอบสนองต่อ “พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์” คือการตอบสนองถึงพระคุณของพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อชีวิตของเราทุกคน การดำเนินชีวิตที่ตอบสนองต่อ “พระคุณ” หรือ “พระกิตติคุณ” ในสิ่งที่พระคริสต์กระทำเพื่อเราคือ ให้เราถวายชีวิตร่างกายของเราแด่พระเจ้า ที่จะดำเนินชีวิตด้านร่างกายของเราเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า และเป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์ เพื่อตอบสนองต่อพระประสงค์ของพระเจ้าในพระคุณที่พระองค์สำแดงแก่เรา และเปาโลพูดชัดว่าการดำเนินชีวิตเช่นนี้เองเป็นการนมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริง (12:1) สิ่งที่เปาโลเน้นย้ำในที่นี้คือความสำคัญของ “ร่างกาย” ในชีวิตของเรา เรารับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้ามิใช่รับใช้ด้วยใจเท่านั้น มิใช่รับใช้พระองค์ด้วยความคิดเท่านั้น มิใช่รับใช้พระองค์ด้วยความรู้สึกของเราเท่านั้น และเรารับใช้พร้อมๆไปกับความสำคัญของด้านร่างกายในชีวิตของเราด้วย ดังนั้น สิ่งที่เรากระทำต่อร่างกายของเรา หรือ การใช้ร่างกายของเราในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพระเจ้าด้วย

ถ้าเป็นเช่นนั้น เมื่อเรากล่าวถึงเรื่องความเชื่อศรัทธาของเรา เราจะต้องกล่าวถึงความเชื่อของเราอย่างเป็นรูปธรรม ดั่งที่พระเยซูคริสต์ทรงสำแดง “พระวาทะ หรือ พระวจนะ” ของพระเจ้าให้เป็นรูปธรรมในการดำเนินชีวิตของพระองค์ ด้วยการกระทำที่เป็นรูปธรรม กล่าวคือพระองค์ทรงรักเมตตากรุณาต่อมนุษย์ไร้เงื่อนไขขอบเขต และความรักของพระองค์สำแดงออกมาทั้งในพระราชกิจแห่งการเยียวยารักษา การเอาใจใส่ชีวิตของผู้เล็กน้อย การสั่งสอนอย่างเป็นรูปธรรม การให้คนตายเป็นขึ้นอย่างมีพระประสงค์ และในที่สุดทรงรักด้วยชีวิตร่างกายจิตใจของพระองค์บนกางเขนเพื่อความรอดของมนุษย์ ขอเน้นย้ำที่นี่ว่า ชีวิตร่างกายมนุษย์เป็นพาหะ หรือ หนทางแห่งการทรงกระทำพระราชกิจของพระเจ้าในโลกนี้ และเพราะพระกิตติคุณเรื่อง “พระวาทะทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์” พระวจนะของพระเจ้าปรากฏในลักษณะเป็นชีวิตจริงในตัวชีวิตของพระเยซูคริสต์นี่เองจึงนำมาถึง หัวใจของการตอบสนองต่อพระกิตติคุณ หรือ พระคุณของพระคริสต์คือ การที่คริสเตียนต้องถวายชีวิตของตนเป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์แด่พระเจ้า แล้วเราแต่ละคนได้กระทำและใช้ชีวิตร่างกายของเราตอบสนองต่อพระคุณ หรือ พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์อย่างไรบ้าง มิใช่เป็นเพียงการที่เรามาพบปะกันในโบสถ์ในคริสตจักรแล้วร่วมกันร้องเพลง อธิษฐานสรรเสริญพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังหมายความว่า เราต้องสรรเสริญพระองค์ นมัสการพระองค์ผ่านการดำเนินชีวิตและการกระทำของเราในชีวิตประจำวัน ในหน้าที่การงานที่เรากระทำด้วย

การตอบสนองพระกิตติคุณด้วยชีวิตร่างกายของเราเป็นการตอบสนองที่เป็นรูปธรรมและสำคัญ และเป็นการที่เรายกย่องนับถือและสรรเสริญพระเจ้าอย่างเป็นรูปธรรม นั่นหมายความว่าเราต้องเอาจริงเอาจังกับการดำเนินชีวิตในประจำวันแต่ละวัน นั่นหมายความว่าทุกกิจกรรมชีวิตที่เราดำเนินและกระทำทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน ทั้งในสังคมชุมชนและในคริสตจักรมีความสำคัญต่อการตอบสนองพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ทั้งสิ้น

ทั้งสิ้นนี้ การตอบสนองพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ด้วยชีวิตร่างกายของเรานั้น มิใช่เริ่มต้นเพราะเราอยากทำดี แต่เริ่มต้นจากการสำนึกใน “พระคุณ” ของพระเจ้าก่อน จนยอมตนมอบถวายทั้งชีวิตแด่พระเจ้า เพื่อให้พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เปลี่ยนที่ชีวิตจิตใจ เปลี่ยนที่มอบถวายชีวิตนี้ให้เป็นของพระเจ้า มิใช่ชีวิตนี้เป็นของ “ฉัน” ต่อไป แต่เป็นของพระคริสต์ และดำเนินชีวิตของเราตามพระประสงค์ของพระเจ้า มิใช่ตามความประสงค์ตามความอยากความต้องการของตนเอง และนี่คือการนมัสการพระเจ้า และการนมัสการพระเจ้าเช่นนี้เริ่มต้นที่การถวายทั้งชีวิตของเราให้เป็นไปตามพระประสงค์ และนี่เองที่ “พระวจนะ” ก็จะสำแดงผ่านชีวิตจิตวิญญาณของเรา เข้าสู่จิตใจ และสำแดงออกในชีวิตร่างกายของเราคือการสำแดงด้วยการดำเนินชีวิต กล่าวในอีกแง่มุมหนึ่งการสำแดงทางชีวิตร่างกายของเราเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพชีวิตจิตใจ ชีวิตจิตวิญญาณของเรา เพราะทั้งชีวิตร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกันเมื่อชีวิตทั้งสิ้นของคนๆ นั้นถวายแด่พระคริสต์แล้ว เปาโลกล่าวว่า เพราะการสำแดง “พระวจนะ” ผ่านการดำเนินชีวิตประจำวันของเรานั้นเป็นการนมัสการพระเจ้าด้วยวิญญาณจิตของเรา

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญและการอภิปราย

1. ความเชื่อของคริสเตียนที่ว่า “พระวาทะมาบังเกิดเป็นมนุษย์” ในพระเยซูคริสต์ มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับวิถีในการดำเนินชีวิตประจำวันของคริสเตียนอย่างไรบ้าง?

2. ท่านจะใช้ชีวิตร่างกายของท่านในการ “นมัสการพระเจ้า” ในวันนี้อย่างไรบ้าง?

3. ในวันนี้ ท่านมีความตั้งใจที่จะสำแดง “พระวจนะ” ในเรื่องอะไรในชีวิตและการกระทำของท่าน ทั้งในที่ทำงาน ในครอบครัว และในชุมชนที่ท่านอยู่ร่วมด้วย?

ใคร่ครวญภาวนา

ขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า
ที่ทรงสร้างข้าพระองค์ให้มีชีวิตที่มีร่างกาย
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยให้ข้าพระองค์ได้สำนึกถึงความสำคัญของร่างกายนี้ที่ทรงสร้าง
ดั่งที่ชีวิตร่างกายของพระคริสต์ได้รองรับและสำแดง “พระวจนะที่บังเกิดเป็นเนื้อหนัง”
พระองค์ทรงเลือกที่จะมาบังเกิดเป็นมนุษย์อย่างเต็มตัว
พระองค์ทรงเลือกที่จะมีร่างกายของมนุษย์ อยู่ในร่างกายของมนุษย์ และใช้ร่างกายของมนุษย์
และด้วยพระวาทะที่สำแดงผ่านทางร่างกายดังกล่าว พระประสงค์จึงได้สำแดงออกอย่างเป็นรูปธรรม

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะใช้ร่างกายที่พระองค์ทรงสร้างนี้ในการรับใช้พระองค์
โปรดสอนให้ข้าพระองค์เรียนรู้ที่จะนมัสการพระองค์ในทุกขณะของการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน
เพื่อเป็นการมอบถวายชีวิตร่างกายนี้เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตแด่พระองค์
เพื่อเป็นการนมัสการพระองค์ด้วยร่างกายและทั้งสิ้นที่มีอยู่และเป็นอยู่ อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น