เมื่อเราติดตามและรับใช้พระเจ้า
พระองค์ไม่ได้สัญญาว่าเราจะประสบความสำเร็จเสมอ
แต่เรารับใช้พระเจ้าที่ทรงสัญญาว่าพระองค์ทรงอยู่เคียงข้างเราในทุกสถานการณ์ชีวิต
บ่อยครั้งมิใช่หรือที่เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับชีวิต เรารู้สึกว่าชีวิตล้มเหลว ล้มเหลวในการงานที่ทำ ล้มเหลวในชีวิตครอบครัว ล้มเหลววันแล้ววันเล่าในชีวิต
และพระเจ้าก็มิได้สัญญาว่า
ชีวิตเราจะประสบกับความสำเร็จที่เราคาดหวังในทุกเรื่อง
นอกจากนั้นแล้ว
บาดแผลที่ได้รับจากความล้มเหลวยังสร้างความเจ็บปวดในชีวิต มันทำให้เรารู้สึกว่าเราทำอะไรก็ผิดก็พลาดไปหมด
แม้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตามก็ไม่เห็นมันเกิดผล เราเริ่มเชื่อว่าเราเป็นคนที่ไม่ดีพอ เราไม่ได้เป็นสามี หรือ ภรรยาที่ดีพอ เราไม่ได้เป็นลูกที่ดีพอ เราไม่ได้เป็นพ่อแม่ที่ดีพอ
เราไม่ได้เป็นปู่ย่าตาทวดที่ดีพอ เราไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีพอ
ฯลฯ
บางครั้งมันเกิดเสียงก้องย้อนถามตนเองว่า “ทำไมเราจะทำให้บ้านของเรามีความสุขรื่นชื่นชมไม่ได้? ทำไมบ้านเราถึงดูเลอะเทอะวุ่นวาย?
ทำไมเราจะประสบชัยชนะในชีวิตสักครั้งไม่ได้เลยหรือ?
ในเวลาเช่นนั้น... แทนที่เราจะจมจ่อมอยู่ในความคิดความรู้สึกว่า
“เราล้มเหลว”
ในภาวะเช่นนั้นพระเจ้ากำลังตรัสกับเราว่า
พระเจ้าจะทำให้เราสำเร็จในชีวิตได้
พระองค์บอกกับเราว่า ให้เราไว้วางใจในพระองค์
แล้วพระเจ้ามีมุมมองอย่างไรในความล้มเหลวของเรา? จากประสบการณ์ชีวิตของเปาโลได้กล่าวว่า
แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าแล้วว่า
“การมีพระคุณของเราก็เพียงพอกับเจ้า
เพราะว่าความอ่อนแอมีที่ไหน
ฤทธานุภาพของเราก็ปรากฏเต็มที่ที่นั่น”
เพราะฉะนั้น
ข้าพเจ้าจะอวดบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้ามากขึ้นด้วยความยินดีอย่างยิ่ง
เพื่อว่าฤทธานุภาพของพระคริสต์จะอยู่ในข้าพเจ้า
เพราะเหตุนี้
เพื่อเห็นแก่พระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงพอใจในบรรดาความอ่อนแอ
ในการถูกเยาะเย้ยต่าง
ๆ ในความลำบาก ในการถูกข่มเหง ในเหตุวิบัติต่าง ๆ
เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด
ข้าพเจ้าก็จะเข้มแข็ง(เพราะพระเจ้า)มากเมื่อนั้น
(2โครินธ์ 12:9-10
มตฐ. ในวงเล็บผู้เขียนเพิ่มเติม)
ในสังคมปัจจุบัน มักสอนเราว่า
“การล้มเหลวเป็นประสบการณ์หรือโอกาสแห่งการเรียนรู้เพื่อเราจะเข้มแข็งขึ้น” แต่เราต้องระมัดระวังหลุมพรางที่ว่า “การล้มเหลวในชีวิตทำให้เกิดความเข้มแข็ง” เราต้องเข้าใจชัดเจนว่า การล้มเหลวไม่ได้ทำให้คน ๆ นั้นเข้มแข็งขึ้น แต่ผู้ที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับชีวิตที่ล้มเหลวคือพระเจ้า พระเจ้าทรงใช้ “ประสบการณ์แห่งการล้มเหลวของเรา
เป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลง และ เสริมสร้างเราขึ้นใหม่ ทำให้เรามีมุมมองต่อชีวิต
ต่อความสำเร็จและล้มเหลวใหม่ เกิดความคิดความเข้าใจใหม่ เกิดการตัดสินใจใหม่ และ เกิดการกระทำใหม่ พบกับประสบการณ์ใหม่ ที่หนุนเสริมให้ชีวิตของเราเข้มแข็งขึ้น
สัจจะความจริงของชีวิตในที่นี้คือ
เราไม่สามารถที่จะกระทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวของเราเองได้ บางครั้งเรืออับปาง การงานที่ทำต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก การเป็นคริสตชนไม่ได้ค้ำประกันว่าเราจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ
แต่สิ่งที่ได้จากการเป็นคริสตชนคือ โอกาสที่เราจะเรียนรู้จักพระเจ้ามากยิ่งขึ้น และในวิกฤติ/ล้มเหลวในชีวิต
เราได้เรียนรู้ว่า เราจะเผชิญวิกฤติเหล่านั้นในชีวิตได้ด้วยพระคุณ และ
การทรงเสริมพลังชีวิตจากพระกำลังของพระเจ้าอย่างไร
ในฐานะคริสตชน ให้เรา “หยุด”
ที่จะรับมือกับความล้มเหลวในชีวิตว่า เป็นเรื่องที่เราจะเอาชนะ เป็นเรื่องที่เราจะจัดการให้ผ่านพ้นไปให้ได้ เป็นเรื่องที่เราจะต้องทำให้สำเร็จ! แต่ในทุกความล้มเหลวในชีวิตให้เรามองว่า
เป็นเวลาโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้จักพระเจ้าดียิ่งขึ้น อย่าลืมนะครับว่า
พระเจ้าทรงสนพระทัยในทุกรายละเอียดของชีวิตแต่ละคน
เราจะอยู่รอดกับงานที่มหาโหดในวันนี้ได้อย่างไร แล้วจะทำอย่างไรกับการทำให้อ้ายเจ้าตัวเล็กที่บ้าน
3 คนยอมนอนหลับในค่ำคืนนี้?
เราจะทำอย่างไรกับโครงการที่ไม่มีทางทำให้สำเร็จได้?
เราจะทนรับมือกับเหตุการณ์เลวร้ายให้ผ่านพ้นวันนี้ไปได้อย่างไร?
เมื่อเราต้องประสบกับวิกฤติ และ ความล้มเหลวในชีวิต... สิ่งดีประการแรกที่เราทำได้คือ ยอมรับว่าตัวเรากำลังล้มเหลว อย่าพยายามหาทางเลี่ยง แล้วโยนให้เป็นความผิดพลาดของคนอื่น หรือ
“หาแพะ” มารับผิดชอบความล้มเหลวนั้น แต่ตรงกันข้าม เมื่อเรายอมรับความจริงว่าเรากำลังล้มเหลวแล้ว
ให้เราหันหน้าเข้าหาพระเจ้า เพื่อแสวงหาการทรงนำของพระเจ้าในวิกฤติชีวิตครั้งนี้ แล้วพึ่งพิงการทรงนำทั้งความคิด มุมมอง
เพื่อที่เราจะตัดสินใจด้วยพระปัญญา และ พระกำลังจากเบื้องบน ให้เราตระหนักชัดในความจริงว่า เพราะชีวิตของเราอ่อนแอ บาดเจ็บ
และล้มเหลว ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องพึ่งในพระเจ้า
ที่จะทรงนำ ทรงประคับประคอง และชี้ช่องทางที่จะออกจากวิกฤติและความล้มเหลวในชีวิตอย่างสร้างสรรค์
สำหรับมุมมองของคริสตชนต่อวิกฤติและความล้มเหลวในชีวิตคือ
หนทางที่เราจะเข้าใกล้ชิดสนิทกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้น และก็ไม่ยอมให้ความล้มเหลวมามีอำนาจครอบงำชีวิตของเรา แต่เราจะแสวงหาพระปัญญา พระกำลังของพระเจ้า ที่จะทรงชี้นำ หนุนเสริม
เพิ่มพลัง ในการรับมือ และ ทะลุผ่านวิกฤติและความล้มเหลวในครั้งนั้น
ๆ ได้ด้วยพระคุณของพระองค์ เมื่อนั้นเราจะได้ประสบการณ์ และ
เกิดการเรียนรู้ถึงพระคุณของพระเจ้าต่อชีวิตของเรา ทำให้เรามีชีวิตที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น
คริสตชนต้องตระหนักเสมอว่า เราไม่ได้รับใช้พระเจ้าที่ทรงสัญญาว่าเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกครั้งไป แต่เรารับใช้พระเจ้าที่ทรงสัญญาว่า พระองค์อยู่เคียงข้างเราทุกเหตุการณ์ ทุกสถานการณ์ชีวิตเสมอไป พระองค์ทรงเป็นพระปัญญา และ
พระกำลังที่พร้อมอยู่ในทุกสถานการณ์ชีวิตของเรา
ทรงพร้อมอยู่ทั้งในเวลาที่เราสำเร็จ และ ในเวลาที่เราล้มเหลว
ด้วยพระปัญญาและพระกำลังของพระองค์ที่เข้ามาทำงานในชีวิตของเรานี้เอง ที่เราได้เรียนรู้จักพระองค์ดียิ่งขึ้น
เราเรียนรู้ทางที่จะนำให้เรามีชีวิตที่เข้มแข็งขึ้น
เรียนรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นที่พึ่งพิงในทุกมิติชีวิตของเราได้ เป็นพระเจ้าที่เราไว้วางใจได้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น