26 เมษายน 2559

ในบทคิดข้อเขียนครั้งที่ผ่านมา   ผมได้ชวนเราคิดเราคุยถึงมุมมองของสมาชิกที่มีต่อศิยาภิบาลที่อาจจะคลาดเคลื่อน   ในครั้งนี้ผมเชิญชวนเราลองมามองดูว่า   มีอะไรไหมที่ศิษยาภิบาลอาจจะมองสมาชิกคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง?    ผมหวังว่า ข้อคิดเห็นนี้คงไม่ทำให้ศิษยาภิบาลบางท่านโกรธเป็นฟืนเป็นไฟนะครับ?   แต่ก็อย่างครั้งที่ผ่านมา ผมเชิญชวนท่านผู้อ่านช่วยกันเติมเต็มให้ “มุมมอง” ในเรื่องนี้ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

  1. “สมาชิก/ฆราวาสในคริสตจักร มิได้รักองค์พระผู้เป็นเจ้า”   ใช่ถ้าเราดูอาการภายนอกอาจจะมองได้เช่นนั้น   แต่แท้จริงแล้วสมาชิกแต่ละคนรักองค์พระผู้เป็นเจ้า   และพวกเขายังคิดถึงพระเจ้าในวันต่าง ๆ ระหว่างสัปดาห์  นอกเหนือจากวันอาทิตย์เท่านั้น
  2. “สมาชิก/ฆราวาสไม่สนใจเรื่องวินัยชีวิตจิตวิญญาณ”   พวกเขาได้ยินได้ฟังผู้นำคริสตจักรบอกแล้วบอกเล่าถึงการที่พวกเขาควรที่จะถวายอุทิศตนแด่พระเจ้า  และมีวินัยชีวิตจิตวิญญาณ   แต่ก็ไม่มีใครที่จะเดินเคียงข้างในชีวิตประจำวันที่จะฝึกฝนชีวิตของพวกเขาว่าจะทำได้อย่างไร  
  3. “สมาชิก/ฆราวาสไม่สนใจคนที่หลงหาย”   เป็นความจริงว่า  ไม่บ่อยครั้งนักที่พวกเขาจะบอกคนอื่นถึงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์   แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้สนใจใส่ใจคนอื่น   แต่บางครั้งที่เขาเป็นเช่นนั้นเพราะพวกเขาถูกครอบงำด้วยความกลัว   เขาห่วงกังวลว่า คนอื่นอาจจะปฏิเสธ หรือ ไม่ยอมรับพวกเขา   หรือ  เขารู้สึกว่าเขาไม่มีคำตอบต่อคำถามของคนอื่นที่อาจจะถามเขา
  4. “สมาชิก/ฆราวาสไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง”   นั่นคงไม่ใช่ความจริง   พวกเขาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า   หรือบางกรณีก็เปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไป  หรือ ไม่ก็ไม่มีการสื่อสารอธิบายให้เข้าใจถึงกาเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ
  5. “สมาชิก/ฆราวาสไม่ยอมตามผู้นำ”  ถ้าผู้นำมีนิมิตที่พระเจ้าประทานให้  แล้วนำไปสู่นิมิตหมายนั้นอย่างดี   รับรองสมาชิกหลายคนในคริสตจักรจะร่วมไปในขบวนของศิษยาภิบาลแน่    แต่ที่พวกเขาไม่ต้องการตามผู้นำ  เพราะผู้นำไม่ทำหน้าที่นำพวกเขา
  6. “สมาชิกสูงอายุต่างจมจ่อมอยู่กับอดีต”   แน่นอนว่าชีวิตของพวกผู้สูงอายุไม่ได้อยู่ในอดีต   แต่พวกเขาอาจจะอาลัยหาเมื่อวันวานที่พวกเขารู้สึกปลอดภัย   แต่พวกเขาเข้าใจในส่วนลึกของจิตใจว่า   คริสตจักรต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทุกยุคทุกสมัย
  7. “สมาชิกส่วนใหญ่ดูขี้เหนียว”   บางครั้งพวกเขาอาจจะมีภาระทางการเงินที่รับผิดชอบมาก   ไม่ว่าการผ่อน  การใช้หนี้  หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่ระมัดระวัง   การที่จะท้าทายให้สมาชิกถวายทรัพย์จำเป็นอย่างยิ่งต้องแสดงชัดเจนถึงจุดประสงค์ของการใช้เงินนั้น   ถ้าเขาเข้าใจ และ เห็นความสำคัญจำเป็นของวัตถุประสงค์   สมาชิกก็พร้อมที่จะถวาย
  8. “สมาชิกไว้ใจลำบาก”  พูดง่าย  แต่เป็นการมองที่ผิดพลาด   เป็นการมองฆราวาสในมุมลบ  อาจจะมีมาจากประสบการณ์กับสมาชิกบางคนเท่านั้น   แต่ไม่ควรเหมารวมหรือเหมาโหลทั้งหมด   ฆราวาสหลายคนที่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจได้  
  9. “สมาชิกเพียงน้อยนิดที่สนใจที่เข้ามีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานคริสตจักร”   อย่างที่เราเห็น  มีคนที่รับใช้งานคริสตจักรอยู่เพียงไม่กี่คน  แต่ในความเป็นจริงว่า หลายคนที่นั่งเฉย ๆ แท้จริงก็อยากจะมีส่วนร่วมในงานคริสตจักร   เพียงแต่ไม่มีใครที่จะช่วยพวกเขาให้ค้นพบและเข้าใจถึงของประทาน  ศักยภาพ ที่ตนเองมีอยู่   และบางครั้งก็เพราะไม่มีใครช่วยให้เขารู้ว่าจะเข้ามีส่วนร่วมในงานคริสตจักรในเรื่องอะไร  และได้อย่างไร
  10. “สมาชิกไม่รักศิษยาภิบาลของเขา”   แม้แต่ศิษยาภิบาลที่ได้รับบาดแผลในชีวิตก็ไม่สามารถกล่าวเช่นนี้ได้เต็มปาก   เพราะก็ยังมีสมาชิกที่รัก  ยอมเสียสละ  ให้  และสนับสนุนศิษยาภิบาล  


โปรดแสดงความคิดเห็นของท่าน หรือ ตอบสนองความคิดข้างต้นอย่างอิสระ   หรือ ท่านคิดว่าผมมองสมาชิก/ฆราวาสในมุมบวกมากเกินไปหรือเปล่า?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น