ในบทคิดข้อเขียนครั้งที่ผ่านมา
ผมได้ชวนเราคิดเราคุยถึงมุมมองของสมาชิกที่มีต่อศิยาภิบาลที่อาจจะคลาดเคลื่อน ในครั้งนี้ผมเชิญชวนเราลองมามองดูว่า มีอะไรไหมที่ศิษยาภิบาลอาจจะมองสมาชิกคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง? ผมหวังว่า ข้อคิดเห็นนี้คงไม่ทำให้ศิษยาภิบาลบางท่านโกรธเป็นฟืนเป็นไฟนะครับ? แต่ก็อย่างครั้งที่ผ่านมา
ผมเชิญชวนท่านผู้อ่านช่วยกันเติมเต็มให้ “มุมมอง”
ในเรื่องนี้ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- “สมาชิก/ฆราวาสในคริสตจักร มิได้รักองค์พระผู้เป็นเจ้า” ใช่ถ้าเราดูอาการภายนอกอาจจะมองได้เช่นนั้น แต่แท้จริงแล้วสมาชิกแต่ละคนรักองค์พระผู้เป็นเจ้า และพวกเขายังคิดถึงพระเจ้าในวันต่าง ๆ ระหว่างสัปดาห์ นอกเหนือจากวันอาทิตย์เท่านั้น
- “สมาชิก/ฆราวาสไม่สนใจเรื่องวินัยชีวิตจิตวิญญาณ” พวกเขาได้ยินได้ฟังผู้นำคริสตจักรบอกแล้วบอกเล่าถึงการที่พวกเขาควรที่จะถวายอุทิศตนแด่พระเจ้า และมีวินัยชีวิตจิตวิญญาณ แต่ก็ไม่มีใครที่จะเดินเคียงข้างในชีวิตประจำวันที่จะฝึกฝนชีวิตของพวกเขาว่าจะทำได้อย่างไร
- “สมาชิก/ฆราวาสไม่สนใจคนที่หลงหาย” เป็นความจริงว่า ไม่บ่อยครั้งนักที่พวกเขาจะบอกคนอื่นถึงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้สนใจใส่ใจคนอื่น แต่บางครั้งที่เขาเป็นเช่นนั้นเพราะพวกเขาถูกครอบงำด้วยความกลัว เขาห่วงกังวลว่า คนอื่นอาจจะปฏิเสธ หรือ ไม่ยอมรับพวกเขา หรือ เขารู้สึกว่าเขาไม่มีคำตอบต่อคำถามของคนอื่นที่อาจจะถามเขา
- “สมาชิก/ฆราวาสไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง” นั่นคงไม่ใช่ความจริง พวกเขาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า หรือบางกรณีก็เปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไป หรือ ไม่ก็ไม่มีการสื่อสารอธิบายให้เข้าใจถึงกาเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ
- “สมาชิก/ฆราวาสไม่ยอมตามผู้นำ” ถ้าผู้นำมีนิมิตที่พระเจ้าประทานให้ แล้วนำไปสู่นิมิตหมายนั้นอย่างดี รับรองสมาชิกหลายคนในคริสตจักรจะร่วมไปในขบวนของศิษยาภิบาลแน่ แต่ที่พวกเขาไม่ต้องการตามผู้นำ เพราะผู้นำไม่ทำหน้าที่นำพวกเขา
- “สมาชิกสูงอายุต่างจมจ่อมอยู่กับอดีต” แน่นอนว่าชีวิตของพวกผู้สูงอายุไม่ได้อยู่ในอดีต แต่พวกเขาอาจจะอาลัยหาเมื่อวันวานที่พวกเขารู้สึกปลอดภัย แต่พวกเขาเข้าใจในส่วนลึกของจิตใจว่า คริสตจักรต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทุกยุคทุกสมัย
- “สมาชิกส่วนใหญ่ดูขี้เหนียว” บางครั้งพวกเขาอาจจะมีภาระทางการเงินที่รับผิดชอบมาก ไม่ว่าการผ่อน การใช้หนี้ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่ระมัดระวัง การที่จะท้าทายให้สมาชิกถวายทรัพย์จำเป็นอย่างยิ่งต้องแสดงชัดเจนถึงจุดประสงค์ของการใช้เงินนั้น ถ้าเขาเข้าใจ และ เห็นความสำคัญจำเป็นของวัตถุประสงค์ สมาชิกก็พร้อมที่จะถวาย
- “สมาชิกไว้ใจลำบาก” พูดง่าย แต่เป็นการมองที่ผิดพลาด เป็นการมองฆราวาสในมุมลบ อาจจะมีมาจากประสบการณ์กับสมาชิกบางคนเท่านั้น แต่ไม่ควรเหมารวมหรือเหมาโหลทั้งหมด ฆราวาสหลายคนที่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจได้
- “สมาชิกเพียงน้อยนิดที่สนใจที่เข้ามีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานคริสตจักร” อย่างที่เราเห็น มีคนที่รับใช้งานคริสตจักรอยู่เพียงไม่กี่คน แต่ในความเป็นจริงว่า หลายคนที่นั่งเฉย ๆ แท้จริงก็อยากจะมีส่วนร่วมในงานคริสตจักร เพียงแต่ไม่มีใครที่จะช่วยพวกเขาให้ค้นพบและเข้าใจถึงของประทาน ศักยภาพ ที่ตนเองมีอยู่ และบางครั้งก็เพราะไม่มีใครช่วยให้เขารู้ว่าจะเข้ามีส่วนร่วมในงานคริสตจักรในเรื่องอะไร และได้อย่างไร
- “สมาชิกไม่รักศิษยาภิบาลของเขา” แม้แต่ศิษยาภิบาลที่ได้รับบาดแผลในชีวิตก็ไม่สามารถกล่าวเช่นนี้ได้เต็มปาก เพราะก็ยังมีสมาชิกที่รัก ยอมเสียสละ ให้ และสนับสนุนศิษยาภิบาล
โปรดแสดงความคิดเห็นของท่าน หรือ
ตอบสนองความคิดข้างต้นอย่างอิสระ หรือ
ท่านคิดว่าผมมองสมาชิก/ฆราวาสในมุมบวกมากเกินไปหรือเปล่า?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น