ในฐานะศิษยาภิบาล ผู้นำ
แกนนำคริสตจักร และ ในฐานะที่เป็นคริสตชนคนหนึ่ง ท่านคิดและเข้าใจว่า เรารวมตัวกันที่คริสตจักรในวันอาทิตย์เพื่อจุดประสงค์อะไร? เราคงมีคำตอบที่หลากหลายแตกต่างกันไป บ้างก็ตอบว่า...
เรามาที่คริสตจักรในวันอาทิตย์เพื่อที่จะสรรเสริญพระเจ้า เฉลิมฉลองขอบพระคุณพระองค์
เรามาคริสตจักรในวันอาทิตย์เพื่อที่จะได้พบปะพี่น้องความเชื่อเดียวกัน มีโอกาสหนุนจิตชูใจกัน
เรามาคริสตจักรในวันอาทิตย์เพื่อที่จะรับใช้พระเจ้าในการทำหน้าที่ต่าง
ๆ ตามที่เราได้รับมอบหมาย และ ตามของประทานและความสามารถของเรา
เรามาคริสตจักรในวันอาทิตย์เพื่อที่จะร่วมในการประกอบศาสนพิธีที่สำคัญของคริสตจักร ดังนั้น ในวันอาทิตย์สำคัญ ๆ ทางคริสต์ศาสนา
เช่น คริสต์มาส อิสเตอร์ วันอาทิตย์ที่พิธีมหาสนิท จะมีคนมาร่วมมากเป็นพิเศษ
เป็นต้น
สำหรับผมส่วนตัวแล้ว
เป้าประสงค์ของการที่เรามาร่วมกันในวันอาทิตย์ที่คริสตจักรก็เพื่อที่พบปะเพื่อนหนุนเสริมเพิ่มพลังความเชื่อแก่กันและกันในชีวิตการเป็นสาวกของพระคริสต์ กล่าวแบบตรงไปตรงมาก็คือ
เรามาเพื่อที่จะเสริมสร้างกันและกันให้มีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่ง
ๆ ขึ้น หรือที่เราเรียกการกระทำนี้ว่า “สร้างสาวกของพระคริสต์”
แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า
การพบปะสามัคคีธรรมในวันอาทิตย์ของคริสตจักรที่จะให้เกิดการบ่มเพาะ
เสริมสร้าง ให้สมาชิกคริสตจักรเป็น “สาวกของพระคริสต์” นั้น เพียงการเข้าร่วมนมัสการพระเจ้าร่วมกันในโบสถ์อาทิตย์ละครั้งดูจะไม่น่าไปถึงเป้าหมายได้
เพราะในการนมัสการมักเป็นการสื่อสารทางเดียว
ขาดโอกาสที่จะสะท้อนคิดถึงประสบการณ์ชีวิตที่ประสบพบเจอมาตลอดสัปดาห์
ขาดโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกันและกัน ขาดโอกาสที่จะรับใช้หนุนเสริมกันและกัน ด้วยเหตุนี้
การที่สมาชิกมาคริสตจักรในวันอาทิตย์เพื่อร่วมในการนมัสการพระเจ้าเท่านั้น จึงเป็นที่มาของ “คริสตจักรถุงก้นรั่ว” (ผู้เชื่อจำนวนเพิ่มขึ้นแต่ก็อยู่ไปสักพักแล้วก็เงียบหายไป)
หนทางหนึ่งที่จะใช้การพบปะสามัคคีธรรมของสมาชิกคริสตจักรในวันอาทิตย์ให้เป็นโอกาสของการเสริมสร้างสมาชิกคริสตจักรให้เป็นสาวกของพระคริสต์ เพื่อที่สมาชิกแต่ละคนจะกลับเข้าไปสู่ครอบครัว
และชุมชน/สังคมเพื่อสำแดงชีวิตแบบพระคริสต์มากยิ่งขึ้นนั้น คริสตจักรควรจะจัดให้มี “กลุ่มเล็ก” หรือ
การจัดการให้มีกลุ่มคนที่ไม่มากเกินไปประมาณ 3-12 คน ที่จะพบปะอย่างไว้วางใจกันและกัน รับฟังซึ่งกันและกัน
เสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ให้สนิทชิดเชื้อจนกล้าที่จะแบ่งปันประสบการณ์
และ ประเด็นชีวิตส่วนตัวที่ต้องเผชิญแก่กันละกัน
แล้วร่วมกันค้นหาและเรียนรู้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตประจำวันของกันและกัน มีส่วนหนุนเสริมรับใช้กันและกัน ความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้มิใช่มีเพียงในกลุ่มเล็ก
1-2 ชั่วโมงในวันอาทิตย์เท่านั้น แต่เป็นความสัมพันธ์ ห่วงใย เอื้ออาทรที่สานต่อไปในทุกวันตลอดสัปดาห์ที่จะมาถึงด้วย
การเสริมสร้างชีวิตสาวกพระคริสต์จะเกิดขึ้นก็เพราะ
“ความสัมพันธ์” ในชีวิตที่มีต่อกันและกัน
มิใช่อยู่ที่ข้อมูลความรู้ หรือ หลักการที่ท่องบ่นจดจำกันได้เท่านั้น
แต่เป็นการไว้เนื้อเชื่อใจกันจนสามารถแบ่งปันว่า ในชีวิตประจำวันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พระเจ้าทรงกระทำอะไรบ้างในแต่ละวัน ทั้งชีวิตที่พบกับความชื่นชมยินดี และ
ในความห่วงวิตก หรือ ความขัดข้องใจในวิกฤติชีวิตที่ต้องประสบ เป็นโอกาสที่จะร่วมกันแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้า
และใช้พระกิตติคุณของพระคริสต์ในการตอบโจทย์ชีวิตที่แต่ละคนต่างต้องพบประสบเผชิญหน้า เป็นโอกาสที่คนในกลุ่มเล็กจะใส่ใจและรับใช้กันและกัน
และด้วยกระบวนการนี้เป็นการเสริมสร้างให้สมาชิกในกลุ่มเกิดการเสริมสร้างชีวิตของกันและกัน
สิ่งสำคัญคือ... คริสตจักรต้องเน้นย้ำให้ความสำคัญว่า
การเสริมสร้างชีวิตสมาชิกให้เป็นสาวกของพระคริสต์เป็นเป้าหมายอันดับแรกที่คริสตจักรต้องเอาจริงเอาจัง มิสามารถที่จะละเลยและมองข้าม
ทำไมต้องใช้กระบวนการกลุ่มเล็กในการเสริมสร้างสมาชิกให้เป็นสาวกพระคริสต์?
- ถ้าคริสตจักรต้องการแก้ไขอาการ “คริสตจักรถุงก้นรั่ว” การปกป้องรักษาผู้คนที่มาเชื่อในคริสตจักรไม่ให้ “หลุดหาย” ไป คริสตจักรจำเป็นจะต้องสร้างสมาชิกให้เป็นสาวก ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องมีกลุ่มเล็กเพื่อการเสริมสร้างสาวกในคริสตจักร
- เพราะคริสตจักรต้องการเอาใจใส่ทุกชีวิตที่เข้ามาร่วมในคริสตจักร และเป็นความจริงว่า ถ้าผู้คนมาคริสตจักรแล้วเขาไม่รู้สึกว่า “เขาได้รับอะไรในชีวิต” โอกาสที่เขาจะไม่มาร่วม จนถึงหลุดหายไปย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
- ในกลุ่มเล็ก เป็นโอกาสที่เกิดการสร้างเสริมกันและกันในการรับใช้ การรับใช้เป็นรากฐานของการเกิดความรู้สึกของสมาชิกแต่ละคนว่า ตนเป็นผู้ที่มีคุณค่า เป็นการเสริมสร้างความหมายในชีวิตของสมาชิกคนนั้นๆ
- ทำให้เกิดโอกาสในการติดตามหนุนเสริมกันและกันในวันอื่น ๆ ตลอดสัปดาห์ กลุ่มเล็กกลายเป็นกลุ่มความสัมพันธ์ที่เอาใจใส่ชีวิตของกันและกันแม้ในเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
- โดยกระบวนการกลุ่มเล็กนี้ เป็นกระบวนการเสริมสร้างภาวะผู้นำของกันและกัน และ เสริมสร้างการเป็นสาวกของพระคริสต์แก่กันและกันด้วย
- กลุ่มเล็กเป็นโอกาสที่เราจะได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและกิจการงานที่ทำในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการชื่นชมกันและกัน และในเวลาเดียวกันเป็นโอกาสที่จะบอกเล่าถึงสิ่งที่แต่ละคนห่วงกังวล หรือ วิกฤติที่เผชิญ ทำให้มีเวลาที่จะรับฟังกันและกัน ตลอดจนการหนุนเสริมให้กำลังแก่กันและกัน ทั้งร่วมกันอธิษฐานเพื่อแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าในเรื่องนั้น ๆ ร่วมกัน และนี่ก็เป็นการเสริมสร้างภาวะผู้นำในยามวิกฤติแก่กันและกันด้วย
- กลุ่มเล็กเป็นโอกาสที่จะแสวงหาว่า สมาชิกกลุ่มจะทำสิ่งที่ต่อยอดจากความสำเร็จที่ผ่านมาแล้วอย่างไร เพราะมิเช่นนั้นแล้วเมื่อผู้คนทำอะไรที่ประสบกับความสำเร็จแล้วมักคิดว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว และอาจจะเกิดภาวะหยุดทำต่อได้
คริสตจักรเป็นชุมชนของผู้เชื่อ ที่ศิษยาภิบาล ผู้นำ และ แกนนำคริสตจักรกระตุ้น
หนุนช่วยให้สมาชิกคริสตจักรมีชีวิตที่เป็นสาวกของพระคริสต์มากยิ่ง ๆ ขึ้นในการดำเนินชีวิตประจำวัน และเราเรียนรู้จากพระคริสต์ว่า
แนวทางในการสร้างสาวกเริ่มต้นที่การวางรากฐานความสัมพันธ์ การดำเนินชีวิตที่เป็นตัวอย่างตามคำสอนและตามแบบอย่างชีวิตของพระคริสต์ แล้วพระองค์ส่งพวกเขาออกไปสร้างสาวกต่อเนื่อง
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น