พระเจ้าประสงค์ให้เราไว้วางใจในพระองค์วันต่อวัน ไว้วางใจพระองค์ไปทีละวัน
พระองค์มิได้ประสงค์ให้เราไว้วางใจพระองค์สำหรับสัปดาห์หน้า เดือนหน้า
หรือ ปีหน้า
แต่จงไว้วางใจพระองค์วันต่อวัน
ไว้วางใจพระองค์ทีละวัน
ไว้วางใจพระองค์วันนี้
พระองค์สอนสาวกอธิษฐานว่า ขอประทานอาหารประจำวันแก่พวกข้าพระองค์
“ในวันนี้” (มตฐ.)
ในฟีลิปปี 4:6 และ 8
เปาโลได้เตือนเราให้ไว้วางใจพระเจ้า
ด้วยการ...
อย่ากระวนกระวายในสิ่งใด
ๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ
โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ... จงใคร่ครวญดูสิ่งเหล่านี้คือ
สิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์
สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม
สิ่งใดที่น่ายกย่อง (ฟิลิปปี 4:6, 8 มตฐ.)
ซึ่งสามารถให้เห็นชัดว่าเราจะไว้วางใจพระเจ้าในแต่ละวันอย่างไรบ้าง
- อย่ากังวล หรือ กระวนกระวายด้วยสิ่งใดเลย ทำไมถึงคิดว่าเรื่องความวิตกกังวลเป็นเรื่องใหญ่? เพราะความกังวลเป็นผลสืบเนื่องมาจากอิทธิพลของความบาปที่กระทบในชีวิตของเรา แต่เราสามารถที่จะไว้วางใจในพระองค์ว่าจะทรงดูแลเอาใจใส่เรา พระองค์บอกเราถึงความจริงที่ว่า “เพราะฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงวันพรุ่งนี้ เพราะว่าพรุ่งนี้ก็มีเรื่องกระวนกระวายของมันเอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว” (มัทธิว 6:34 มตฐ.) แต่ที่สำคัญคือพระองค์จะทรงดูแลเราแต่ละวันแม้ต้องเผชิญหน้ากับความห่วงกังวลเช่นไรก็ตาม
- จงทูลทุกเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างต่อพระเจ้า การอธิษฐานคือพลังที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โรม 8:32 ถามถึงความไว้วางใจของเราต่อพระเจ้าว่า “พระองค์ผู้ไม่ทรงหวงพระบุตรของพระองค์เอง แต่ประทานพระบุตรนั้นเพื่อเราทุกคน ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ประทานสิ่งสารพัดให้เราด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ” (มตฐ.) พระเจ้าทรงกระทำการกอบกู้และไถ่ถอนเราออกจากอำนาจแห่งความบาปชั่ว พระองค์ผู้ทรงนำคุณภาพชีวิตในสวรรค์มาเป็นจริงในแผ่นดินโลก เมื่อพระองค์ทรงรักเรามากมายถึงเพียงนี้ ขนาดให้ชีวิตแก่เราแล้ว แค่ความวิตกกังวลในแต่ละวันพระองค์จะไม่ใส่ใจและสามารถที่จะจัดการปัญหาที่เราแต่ละคนเผชิญได้หรือ?
- จงขอบพระคุณทุกสิ่งที่ทรงกระทำในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงขอบพระคุณพระเจ้า มิได้หมายความว่าที่เราขอบพระคุณพระเจ้าเพราะสิ่งเลวร้ายมาจากพระเจ้า แต่จงขอบพระคุณในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเราเชื่อและไว้วางใจว่า พระองค์ทรงเอาใจใส่เราทุกคน จะทรงกระทำให้เกิดสิ่งดีสำหรับเราแต่ละคนท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายที่เราเผชิญในวันนี้
- จงคิดและใคร่ครวญในสิ่งที่สอดคล้องกับพระประสงค์และสัจจะความจริงของพระองค์ กล่าวคือสิ่งที่เป็นสัจจะความจริงของพระองค์ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่เป็นที่ยกย่อง/สรรเสริญ สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่เห็นว่าดีเยี่ยม สิ่งเหล่านี้เราสามารถพบและใคร่ครวญในพระวจนะของพระเจ้า และให้พระวจนะเหล่านั้นซึมลึกเข้าในความคิดจิตใจของเรา น่าคิดว่า วันหนึ่งเราเปิดไลน์กี่ครั้ง แล้วเราเปิดอ่านพระวจนะของพระเจ้าบ่อยแค่ไหน? อิสยาห์เคยกล่าวว่า “พระองค์จะทรงพิทักษ์ผู้มีใจแน่วแน่(ในพระองค์) ไว้ในสวัสดิภาพที่สมบูรณ์” (อิยาห์ 26:3 มตฐ.) เพราะเขาวางใจในพระองค์
ในปีที่ผ่านมาเราวิตกกังวลในเรื่องอะไรบ่อยมากที่สุด?
ในปีที่ผ่านมาเราไว้วางใจใคร/อะไรมากที่สุด?
ในปีที่ผ่านมาเราคิดใคร่ครวญในเรื่องอะไรมากที่สุด?
ในปีที่ผ่านมา ท่านมีเหตุการณ์ใดที่จะขอบพระคุณพระเจ้าบ้าง?
แล้วในปีหน้า
จะให้เราคิดใคร่ครวญในพระวจนะและรำลึกถึงพระสัญญาของพระองค์ในแต่ละวันอย่างไรดี?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น