13 มีนาคม 2560

ไว้วางใจพระเจ้าทีละวัน ในแต่ละวัน

พระเจ้าประสงค์ให้เราไว้วางใจในพระองค์วันต่อวัน  ไว้วางใจพระองค์ไปทีละวัน
พระองค์มิได้ประสงค์ให้เราไว้วางใจพระองค์สำหรับสัปดาห์หน้า เดือนหน้า หรือ ปีหน้า
แต่จงไว้วางใจพระองค์วันต่อวัน   ไว้วางใจพระองค์ทีละวัน  ไว้วางใจพระองค์วันนี้
พระองค์สอนสาวกอธิษฐานว่า  ขอ​ประ​ทาน​อาหาร​ประ​จำ​วัน​แก่​พวก​ข้า​พระ​องค์​ “ใน​วัน​นี้” (มตฐ.)

ในฟีลิปปี 4:6 และ 8 เปาโลได้เตือนเราให้ไว้วางใจพระเจ้า  ด้วยการ...
อย่า​กระ​วน​กระ​วาย​ใน​สิ่ง​ใด ๆ เลย แต่​จง​ทูล​พระ​เจ้า​ให้​ทรง​ทราบ​ทุก​สิ่ง​ที่​พวก​ท่าน​ขอ โดย​การ​อธิษ​ฐาน​และ​การ​วิง​วอน พร้อม​กับ​การ​ขอบ​พระ​คุณ... ​จง​ใคร่​ครวญ​ดู​สิ่ง​เหล่า​นี้​คือ สิ่ง​ที่​เป็น​จริง สิ่ง​ที่​น่า​นับ​ถือ สิ่ง​ที่​ยุติ​ธรรม สิ่ง​ที่​บริ​สุทธิ์ สิ่ง​ที่​น่า​รัก สิ่ง​ที่​ควร​แก่​การ​สรร​เสริญ รวม​ทั้ง​ถ้า​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ยอด​เยี่ยม สิ่ง​ใด​ที่​น่า​ยก​ย่อง  (ฟิลิปปี 4:6, 8 มตฐ.)

ซึ่งสามารถให้เห็นชัดว่าเราจะไว้วางใจพระเจ้าในแต่ละวันอย่างไรบ้าง
  1. อย่ากังวล หรือ กระวนกระวายด้วยสิ่งใดเลย   ทำไมถึงคิดว่าเรื่องความวิตกกังวลเป็นเรื่องใหญ่?   เพราะความกังวลเป็นผลสืบเนื่องมาจากอิทธิพลของความบาปที่กระทบในชีวิตของเรา   แต่เราสามารถที่จะไว้วางใจในพระองค์ว่าจะทรงดูแลเอาใจใส่เรา   พระองค์บอกเราถึงความจริงที่ว่า “เพราะ​ฉะนั้น อย่า​กระ​วน​กระ​วาย​ถึง​วัน​พรุ่งนี้ เพราะ​ว่า​พรุ่ง​นี้​ก็​มี​เรื่อง​กระ​วน​กระ​วาย​ของ​มัน​เอง แต่​ละ​วัน​ก็​มี​ทุกข์​พอ​อยู่​แล้ว” (มัทธิว 6:34 มตฐ.)   แต่ที่สำคัญคือพระองค์จะทรงดูแลเราแต่ละวันแม้ต้องเผชิญหน้ากับความห่วงกังวลเช่นไรก็ตาม
  2. จงทูลทุกเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างต่อพระเจ้า   การอธิษฐานคือพลังที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง   โรม 8:32 ถามถึงความไว้วางใจของเราต่อพระเจ้าว่า  “พระ​องค์​ผู้​ไม่​ทรง​หวง​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์​เอง แต่​ประ​ทาน​พระ​บุตร​นั้น​เพื่อ​เรา​ทุก​คน ถ้า​เช่น​นั้น​พระ​องค์​จะ​ไม่​ประ​ทาน​สิ่ง​สาร​พัด​ให้​เรา​ด้วย​กัน​กับ​พระ​บุตร​นั้น​หรือ” (มตฐ.)  พระเจ้าทรงกระทำการกอบกู้และไถ่ถอนเราออกจากอำนาจแห่งความบาปชั่ว   พระองค์ผู้ทรงนำคุณภาพชีวิตในสวรรค์มาเป็นจริงในแผ่นดินโลก   เมื่อพระองค์ทรงรักเรามากมายถึงเพียงนี้ ขนาดให้ชีวิตแก่เราแล้ว   แค่ความวิตกกังวลในแต่ละวันพระองค์จะไม่ใส่ใจและสามารถที่จะจัดการปัญหาที่เราแต่ละคนเผชิญได้หรือ?  
  3. จงขอบพระคุณทุกสิ่งที่ทรงกระทำในชีวิตของเรา   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  จงขอบพระคุณพระเจ้า   มิได้หมายความว่าที่เราขอบพระคุณพระเจ้าเพราะสิ่งเลวร้ายมาจากพระเจ้า   แต่จงขอบพระคุณในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเราเชื่อและไว้วางใจว่า พระองค์ทรงเอาใจใส่เราทุกคน  จะทรงกระทำให้เกิดสิ่งดีสำหรับเราแต่ละคนท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายที่เราเผชิญในวันนี้
  4. จงคิดและใคร่ครวญในสิ่งที่สอดคล้องกับพระประสงค์และสัจจะความจริงของพระองค์  กล่าวคือสิ่งที่เป็นสัจจะความจริงของพระองค์ สิ่งที่ยุติธรรม  สิ่งที่เป็นที่ยกย่อง/สรรเสริญ  สิ่งที่บริสุทธิ์  สิ่งที่น่ารัก  สิ่งที่เห็นว่าดีเยี่ยม   สิ่งเหล่านี้เราสามารถพบและใคร่ครวญในพระวจนะของพระเจ้า   และให้พระวจนะเหล่านั้นซึมลึกเข้าในความคิดจิตใจของเรา   น่าคิดว่า วันหนึ่งเราเปิดไลน์กี่ครั้ง   แล้วเราเปิดอ่านพระวจนะของพระเจ้าบ่อยแค่ไหน?   อิสยาห์เคยกล่าวว่า  “พระ​องค์​จะ​ทรง​พิ​ทักษ์​ผู้​มีใจ​แน่ว​แน่(ในพระองค์)   ​ไว้​ใน​สวัสดิ​ภาพ​ที่สม​บูรณ์” (อิยาห์ 26:3 มตฐ.) เพราะ​เขา​วาง​ใจใน​พระ​องค์


ในปีที่ผ่านมาเราวิตกกังวลในเรื่องอะไรบ่อยมากที่สุด?
ในปีที่ผ่านมาเราไว้วางใจใคร/อะไรมากที่สุด?
ในปีที่ผ่านมาเราคิดใคร่ครวญในเรื่องอะไรมากที่สุด?
ในปีที่ผ่านมา  ท่านมีเหตุการณ์ใดที่จะขอบพระคุณพระเจ้าบ้าง?
แล้วในปีหน้า จะให้เราคิดใคร่ครวญในพระวจนะและรำลึกถึงพระสัญญาของพระองค์ในแต่ละวันอย่างไรดี?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น