ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
จากการที่มีโอกาสลงสนามงานในที่ต่าง ๆ ในหลากหลายองค์กร ทั้งคนทำงานที่เป็น
คริสตชน
และ ที่ไม่ได้เป็นคริสตชน ผมมีโอกาสพูดคุย ถาม และเก็บข้อมูลความคิดจากคนในทีมงานต่าง
ๆ ที่ไปพบปะสนทนามา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำถามที่ว่า “จากประสบการณ์ในการทำงานของท่าน ผู้นำที่ท่านชื่นชอบ และอยากทำงานด้วยมีลักษณะอย่างไรบ้าง? หรือ
ลักษณะอะไรบ้างที่ทำให้ผู้นำคนนั้นที่เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการนำ?” ผมต้องขอบพระคุณบุคคลเหล่านี้ที่ได้กรุณาให้ข้อมูลจากประสบการณ์ของตนที่มีค่ามากมาย
ผมจะขอสกัด หรือ ตกตะกอนประสบการณ์เหล่านั้นไว้ดังนี้
ผู้นำที่ฉันนิยมชื่นชอบ
คือผู้นำที่คอยถามถึง ความคิดเห็น และ ความริเริ่มของฉัน และบางครั้งได้นำเอา
ข้อคิดเห็นของฉันไปใช้ในการวางแผนก้าวต่อไปในการทำงาน
เป็นผู้นำที่คอยกระตุ้นหนุนเสริมให้ลูกทีมมี
ความคิดที่สร้างสรรค์
เขาเป็นคนที่ใส่ใจในความคิด และ ข้อเสนอแนะของฉัน แล้วนำไปใช้อย่างมีคุณค่าและ
ชาญฉลาด
สำหรับฉัน
ผู้นำที่ฉันชื่นชอบคือผู้นำที่สนับสนุนทีมงาน ให้โอกาสและพื้นที่ในการทำงานของฉัน และแต่ละคนมีโอกาสพบกับผู้นำตัวต่อตัวเป็นประจำ
(ทุกวันอังคาร) ทำให้ฉันมีโอกาสที่จะรายงานความก้าวหน้าของงานที่ทำ และ สิ่งที่พบตลอดมา
ผู้นำที่ดีเยี่ยมสำหรับฉันคือ
ผู้นำคนนั้นควรเป็นโค้ชที่ดี เขาใส่ใจถามถึงสิ่งที่ฉันต้องการรับการสนับสนุนในการทำงาน
และ แนะนำพื้นที่ชีวิตและการงานที่ทำให้ฉันสามารถทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ แล้วชอบมากเลยที่ผู้นำให้เวลาและโอกาสที่ฉันจะทดลองทำสิ่งใหม่
ๆ วิธีการใหม่ๆ
ผู้นำที่เยี่ยมยอดสำหรับฉันเป็นผู้นำที่มีจิตวิญญาณของการรับใช้ทีมงาน
ผู้นำคนนั้นมองเห็นศักยภาพในตัวฉันบางครั้งมากกว่าที่ฉันมองเห็นเสียอีก
แล้วผู้นำคนนั้นยังมีชีวิตและการทำงานที่เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีในการนำคนอื่น
เป้าหมายแรก ๆ ของผู้นำคือการเสริมสร้างภาวะผู้นำในทีมงานแต่ละคน ทำให้กิจการงานสามารถขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องราบรื่นแม้ผู้นำจะไม่อยู่ในที่ทำงานก็ตาม
ผู้นำที่ดีสำหรับฉันแล้ว
เป็นผู้นำที่ไว้วางใจฉันว่าจะทำงานได้อย่างดี และเป็นผู้ที่รับรู้ รับทราบ
และยอมรับในงานที่ฉันได้ทำไปแล้ว และผู้นำคนนั้นชอบที่จะถกเถียงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีมงานแต่ละคน
แล้วยังสนับสนุนให้มีการค้นหาว่า ทีมงานแต่ละคนมีจุดแข็งในด้านใดบ้าง แล้วใส่ใจช่วยทีมงานแต่ละคนให้ใช้/พัฒนา
“จุดแข็ง” ของตนในการชนะจุดอ่อนที่แต่ละคนมีอยู่
ผมขออนุญาตสรุปจากบทสกัด
หรือ ตกตะกอนประสบการณ์และความคิดข้างต้นไว้ดังนี้
1)
ผู้นำที่ดี เป็นผู้ที่ไว้วางใจทีมงานแต่ละคน และ
ให้โอกาสในการทำงานที่แต่ละคนได้รับมอบหมาย
2)
ผู้นำที่ดีเยี่ยม เป็นผู้นำที่เข้าถึงลูกทีมแต่ละคน
3)
ผู้นำที่เยี่ยมยอดคือผู้นำที่รู้ถึงจุดแข็งในตัวของลูกทีม
และหนุนเสริมให้แต่ละคนพัฒนาจุดแข็งที่มีอยู่
4)
ผู้นำที่ดี เป็นผู้ที่รู้ถึงคุณค่าของทีมงานแต่ละคน และรู้ถึงศักยภาพ
และ ความสามารถของแต่ละคนที่จะทำงานไปสู่ความสำเร็จ แม้ตัวผู้นำไม่อยู่ด้วยก็ตาม
5)
ผู้นำที่เยี่ยมยอด เป็นผู้นำที่สร้างความแกร่งของทีมด้วยคำพูด
ที่ยืนยันถึงศักยภาพและความสามารถของ
ทีมงาน
ให้กำลังใจ และชื่นชมทีมงานทุกคนในงานที่ได้ทำจนประสบความสำเร็จ
ในเวลาเดียวกันผมก็มีโอกาสถามว่า
อะไรที่ไม่ใช่คุณลักษณะที่ดีของผู้นำ ซึ่งสามารถสรุปได้ประเด็นสำคัญดังนี้
≠
ผู้นำที่ดี ไม่ใช่ผู้นำที่ทำตัวเป็น “เจ้านาย” หรือ แสดงอำนาจบาทใหญ่เหนือลูกน้อง
เพียงเพราะมีตำแหน่งที่สูงกว่า นั่นหมายความว่าผู้นำที่ดี คือผู้นำที่ตระหนักชัด
และ สำนึกเสมอว่า ในฐานะผู้นำ ตนไม่ใช่เจ้านาย แต่ผู้นำที่ดีคือผู้นำที่มีความรับผิดชอบในการเอื้อและเสริมสร้างให้เกิดบรรยากาศที่คนทำงานทุกคนจะพัฒนาตนทำงานได้ดียิ่งขึ้น
เป็นบรรยากาศที่ไม่สร้างความกลัว เป็นบรรยากาศที่ทุกคนที่เติบโตขึ้นในภาวะผู้นำในการทำงานและรู้สึกปลอดภัยที่จะทำงานให้เกิดผลดีเยี่ยม
≠
ผู้นำที่ดีมิใช่ผู้นำที่ใช้ฐานะตำแหน่งเป็นโอกาสตักตวงผลประโชน์และสร้างอำนาจเพื่อตนเอง
การเป็นผู้นำมิใช่เพื่อที่จะหาสิ่งดีที่ตนต้องการ แต่เป็นโอกาสที่มองหาสิ่งดีในผู้อื่นและสร้างทีมงานให้มีภาวะผู้นำ
≠
ผู้นำที่ดี ไม่ใชผู้ที่เอาฐานะตำแหน่งแสวงหาการให้คนอื่นมารับใช้ตน
เอาตำแหน่งเพื่อแสวงหาเกียรติและการยกย่องจากคนอื่น แต่ตรงกันข้าม การเป็นผู้นำที่ตนจะรับใช้คนอื่นและทีมงาน
และในเวลาเดียวกันรับใช้ หนุนเสริมเพิ่มพลังให้ทีมงานสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ดังนั้น การเป็นผู้นำจึงเป็นผู้ที่จะให้ด้วยความรักเมตตาและถ่อมใจ มิใช่เป็นผู้ที่จะแสวงหาที่อยากจะได้อยู่ร่ำไป
1เปโตร 5:2-4 กล่าวถึงลักษณะผู้นำ และ ศิษยาภิบาลคริสตจักรไว้ชัดเจนว่า
จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่าน...
โดยเอาใจใส่ดูแล ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ
ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ไม่ใช่ด้วยใจโลภในทรัพย์สิ่ของ แต่ด้วยใจกระตือรือร้น
และไม่เป็นเหมือนผู้ใช้อำนาจ(บาตรใหญ่)ข่มขี่ผู้ที่อยู่ในความดูแล
แต่ให้เป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะนั้น
และเมื่อพระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่เสด็จมาปรากฏ พวกท่านจะได้รับมงกุฎแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีวันร่วงโรย
(1เปโตร 5:2-4 มตฐ.)
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น