30 มีนาคม 2560

ผู้นำที่ผู้คนนิยมชื่นชอบ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากการที่มีโอกาสลงสนามงานในที่ต่าง ๆ ในหลากหลายองค์กร ทั้งคนทำงานที่เป็น
คริสตชน และ ที่ไม่ได้เป็นคริสตชน ผมมีโอกาสพูดคุย ถาม และเก็บข้อมูลความคิดจากคนในทีมงานต่าง ๆ ที่ไปพบปะสนทนามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำถามที่ว่า “จากประสบการณ์ในการทำงานของท่าน ผู้นำที่ท่านชื่นชอบ และอยากทำงานด้วยมีลักษณะอย่างไรบ้าง? หรือ ลักษณะอะไรบ้างที่ทำให้ผู้นำคนนั้นที่เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการนำ?” ผมต้องขอบพระคุณบุคคลเหล่านี้ที่ได้กรุณาให้ข้อมูลจากประสบการณ์ของตนที่มีค่ามากมาย ผมจะขอสกัด หรือ ตกตะกอนประสบการณ์เหล่านั้นไว้ดังนี้

ผู้นำที่ฉันนิยมชื่นชอบ คือผู้นำที่คอยถามถึง ความคิดเห็น และ ความริเริ่มของฉัน และบางครั้งได้นำเอา
ข้อคิดเห็นของฉันไปใช้ในการวางแผนก้าวต่อไปในการทำงาน เป็นผู้นำที่คอยกระตุ้นหนุนเสริมให้ลูกทีมมี
ความคิดที่สร้างสรรค์ เขาเป็นคนที่ใส่ใจในความคิด และ ข้อเสนอแนะของฉัน แล้วนำไปใช้อย่างมีคุณค่าและ
ชาญฉลาด

สำหรับฉัน ผู้นำที่ฉันชื่นชอบคือผู้นำที่สนับสนุนทีมงาน ให้โอกาสและพื้นที่ในการทำงานของฉัน และแต่ละคนมีโอกาสพบกับผู้นำตัวต่อตัวเป็นประจำ (ทุกวันอังคาร) ทำให้ฉันมีโอกาสที่จะรายงานความก้าวหน้าของงานที่ทำ และ สิ่งที่พบตลอดมา

ผู้นำที่ดีเยี่ยมสำหรับฉันคือ ผู้นำคนนั้นควรเป็นโค้ชที่ดี เขาใส่ใจถามถึงสิ่งที่ฉันต้องการรับการสนับสนุนในการทำงาน และ แนะนำพื้นที่ชีวิตและการงานที่ทำให้ฉันสามารถทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ แล้วชอบมากเลยที่ผู้นำให้เวลาและโอกาสที่ฉันจะทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ วิธีการใหม่ๆ

ผู้นำที่เยี่ยมยอดสำหรับฉันเป็นผู้นำที่มีจิตวิญญาณของการรับใช้ทีมงาน ผู้นำคนนั้นมองเห็นศักยภาพในตัวฉันบางครั้งมากกว่าที่ฉันมองเห็นเสียอีก แล้วผู้นำคนนั้นยังมีชีวิตและการทำงานที่เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีในการนำคนอื่น เป้าหมายแรก ๆ ของผู้นำคือการเสริมสร้างภาวะผู้นำในทีมงานแต่ละคน ทำให้กิจการงานสามารถขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องราบรื่นแม้ผู้นำจะไม่อยู่ในที่ทำงานก็ตาม

ผู้นำที่ดีสำหรับฉันแล้ว เป็นผู้นำที่ไว้วางใจฉันว่าจะทำงานได้อย่างดี และเป็นผู้ที่รับรู้ รับทราบ และยอมรับในงานที่ฉันได้ทำไปแล้ว และผู้นำคนนั้นชอบที่จะถกเถียงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีมงานแต่ละคน แล้วยังสนับสนุนให้มีการค้นหาว่า ทีมงานแต่ละคนมีจุดแข็งในด้านใดบ้าง แล้วใส่ใจช่วยทีมงานแต่ละคนให้ใช้/พัฒนา “จุดแข็ง” ของตนในการชนะจุดอ่อนที่แต่ละคนมีอยู่

ผมขออนุญาตสรุปจากบทสกัด หรือ ตกตะกอนประสบการณ์และความคิดข้างต้นไว้ดังนี้

1) ผู้นำที่ดี เป็นผู้ที่ไว้วางใจทีมงานแต่ละคน และ ให้โอกาสในการทำงานที่แต่ละคนได้รับมอบหมาย

2) ผู้นำที่ดีเยี่ยม เป็นผู้นำที่เข้าถึงลูกทีมแต่ละคน

3) ผู้นำที่เยี่ยมยอดคือผู้นำที่รู้ถึงจุดแข็งในตัวของลูกทีม และหนุนเสริมให้แต่ละคนพัฒนาจุดแข็งที่มีอยู่

4) ผู้นำที่ดี เป็นผู้ที่รู้ถึงคุณค่าของทีมงานแต่ละคน และรู้ถึงศักยภาพ และ ความสามารถของแต่ละคนที่จะทำงานไปสู่ความสำเร็จ แม้ตัวผู้นำไม่อยู่ด้วยก็ตาม

5) ผู้นำที่เยี่ยมยอด เป็นผู้นำที่สร้างความแกร่งของทีมด้วยคำพูด ที่ยืนยันถึงศักยภาพและความสามารถของ
ทีมงาน ให้กำลังใจ และชื่นชมทีมงานทุกคนในงานที่ได้ทำจนประสบความสำเร็จ

ในเวลาเดียวกันผมก็มีโอกาสถามว่า อะไรที่ไม่ใช่คุณลักษณะที่ดีของผู้นำ ซึ่งสามารถสรุปได้ประเด็นสำคัญดังนี้

ผู้นำที่ดี ไม่ใช่ผู้นำที่ทำตัวเป็น “เจ้านาย” หรือ แสดงอำนาจบาทใหญ่เหนือลูกน้อง เพียงเพราะมีตำแหน่งที่สูงกว่า นั่นหมายความว่าผู้นำที่ดี คือผู้นำที่ตระหนักชัด และ สำนึกเสมอว่า ในฐานะผู้นำ ตนไม่ใช่เจ้านาย แต่ผู้นำที่ดีคือผู้นำที่มีความรับผิดชอบในการเอื้อและเสริมสร้างให้เกิดบรรยากาศที่คนทำงานทุกคนจะพัฒนาตนทำงานได้ดียิ่งขึ้น เป็นบรรยากาศที่ไม่สร้างความกลัว เป็นบรรยากาศที่ทุกคนที่เติบโตขึ้นในภาวะผู้นำในการทำงานและรู้สึกปลอดภัยที่จะทำงานให้เกิดผลดีเยี่ยม

ผู้นำที่ดีมิใช่ผู้นำที่ใช้ฐานะตำแหน่งเป็นโอกาสตักตวงผลประโชน์และสร้างอำนาจเพื่อตนเอง การเป็นผู้นำมิใช่เพื่อที่จะหาสิ่งดีที่ตนต้องการ แต่เป็นโอกาสที่มองหาสิ่งดีในผู้อื่นและสร้างทีมงานให้มีภาวะผู้นำ

ผู้นำที่ดี ไม่ใชผู้ที่เอาฐานะตำแหน่งแสวงหาการให้คนอื่นมารับใช้ตน เอาตำแหน่งเพื่อแสวงหาเกียรติและการยกย่องจากคนอื่น แต่ตรงกันข้าม การเป็นผู้นำที่ตนจะรับใช้คนอื่นและทีมงาน และในเวลาเดียวกันรับใช้ หนุนเสริมเพิ่มพลังให้ทีมงานสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ดังนั้น การเป็นผู้นำจึงเป็นผู้ที่จะให้ด้วยความรักเมตตาและถ่อมใจ มิใช่เป็นผู้ที่จะแสวงหาที่อยากจะได้อยู่ร่ำไป

1เปโตร 5:2-4 กล่าวถึงลักษณะผู้นำ และ ศิษยาภิบาลคริสตจักรไว้ชัดเจนว่า

จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่าน...
โดยเอาใจใส่ดูแล ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ
ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ไม่ใช่ด้วยใจโลภในทรัพย์สิ่ของ แต่ด้วยใจกระตือรือร้น
และไม่เป็นเหมือนผู้ใช้อำนาจ(บาตรใหญ่)ข่มขี่ผู้ที่อยู่ในความดูแล
แต่ให้เป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะนั้น
และเมื่อพระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่เสด็จมาปรากฏ พวกท่านจะได้รับมงกุฎแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีวันร่วงโรย
(1เปโตร 5:2-4 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น