สำหรับคนที่เป็นผู้นำแล้ว
“เวลาที่ถูกต้องเหมาะสม” ของแต่ละเรื่องในการนำของเขาเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
แล้วพระราชาตรัสกับข้าพเจ้าว่า
“เจ้าต้องการอะไร?”
ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
(เนหะมีย์ 2:4)
ในพระธรรมตอนนี้
กล่าวถึงเนหะมีย์ทูลเรื่องกำแพงเยรูซาเล็มที่พังทลายแก่กษัตริย์ อารทาเซอร์ซีส ขอตั้งข้อสังเกตว่า พระคัมภีร์บันทึกไว้ชัดเจนว่า เมื่อเนหะมีย์รู้เรื่องราวกำแพงเมืองเยรูซาเล็มที่พังทลายมิได้ทูลขอความช่วยเหลือจากพระราชาทันที
แต่สิ่งแรกที่เนหะมีย์ทำคืออธิษฐานต่อพระเจ้า นักวิชาการทางพระคัมภีร์ชี้ไว้ว่า จากเวลาที่เขารู้เรื่องกำแพงเยรูซาเล็มพังถึงเวลาที่เขาทูลเรื่องนี้แก่พระราชาห่างกันประมาณ
4 เดือน
ทำไมเนหะมีย์ถึงเสียเวลารอตั้ง
4 เดือน?
ทำไมเขาถึงไม่รีบทูลเรื่องนี้แก่พระราชาทันที เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับ
“นครของพระเจ้า”?
แล้วจะได้รีบลงมือจัดการสร้างกำแพงขึ้นใหม่?
“เวลาที่ถูกต้องเหมาะสม”
เป็นเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่งของบรรดาผู้นำมืออาชีพ! ที่แตกต่างกันอยู่ที่ผู้นำมืออาชีพเหล่านั้นมีวิธีอะไรบ้างที่จะรู้ว่าเวลาใดที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งผู้นำแต่ละคนเลือกใช้ที่แตกต่างกันไป อีกประการหนึ่ง แต่ละคนย่อมมีความ “อดทน”
ที่จะรอคอยให้ถึงเวลาที่ถูกต้องเหมาะสมที่ไม่เท่ากัน
มีบางหลักเกณฑ์ที่ผู้นำมืออาชีพใช้ในการพิจารณาตัดสินเลือก
“เวลาที่ถูกต้องเหมาะสม” ในการจัดการเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ใดโดยทั่วไปเช่น...
- ผู้นำมีภาระใจ หรือ เห็นว่าตนมีความรับผิดชอบในเหตุการณ์นั้นหรือไม่? แค่ไหน?
- ผู้นำมีเป้าหมายปลายทางในการเข้าไปจัดการให้เหตุการณ์นั้นที่ชัดเจนหรือไม่? แค่ไหน?
- ผู้นำรู้สึกว่าตนมีความพร้อม ศักยภาพ ความสามารถ และพลังที่จะจัดการให้สำเร็จหรือไม่
- ในเรื่องของเนหะมีย์ เขาต้องประเมินให้ดีว่า ในช่วงเวลานั้น ๆ จิตใจ อารมณ์ของพระราชาเป็นอย่างไรบ้าง? พร้อมที่จะรับรู้ หนุนเสริม หรือ กำลังวุ่นวายใจ หรือ อารมณ์เสีย
- ความสัมพันธ์ระหว่างเนหะมีย์ กับพระราชา เหนียวแน่นลึกซึ้งพอที่จะปรึกษาและขอความช่วยเหลือได้ไหม? มีความไว้วางใจต่อกันมากน้อยแค่ไหน?
- สภาพแวดล้อม เช่น อากาศ
ฤดูกาลใดที่เอื้ออำนวยต่อการจัดการเดินทางกลับไปสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่น่าจะเป็นช่วงเวลาใด?
แต่สำหรับเนหะมีย์แล้ว ประการหลักประการสำคัญคือ ประการที่ 7 ... - เนหะมีย์เริ่มแสวงหา “เวลาที่สำคัญเหมาะสม” สำหรับเรื่องกำแพงเมืองเยรูซาเล็มด้วยการ อธิษฐาน เขาใช้เวลาอธิษฐานในเรื่องนี้เป็นเวลาประมาณ 4 เดือนก่อนที่เขาจะเข้าพบพระราชและทูลเรื่องนี้ต่อพระองค์
ขอตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงเวลา 4 เดือน
ที่เนหะมีย์มุ่งมั่นในการอธิษฐานต่อพระเจ้า
เขามีโอกาสใคร่ครวญถึงรายละเอียดของ เวลา ความพร้อม ความสำคัญ
และความเหมาะสม ของการจะดำเนินการในเรื่องกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม ทั้ง 6 ประการที่กล่าวข้างต้น
ผ่านการใคร่ครวญอธิษฐานต่อพระเจ้า
นั่นหมายความว่า
เมื่ออธิษฐานต่อพระเจ้า
พระองค์จะทรงค่อย ๆ เปิดเผยถึง “เวลาที่สำคัญและเหมาะสม”
ในเรื่องนี้แก่เนหะมีย์
แม้แต่เมื่อพระราชาเอ่ยปากถามถึงเรื่องนี้ว่าจะจัดการอย่างไร? เนหะมีย์มิได้ตอบทันที แต่เขาอธิษฐานต่อพระเจ้า ก่อนที่จะทูลพระราชา
เนหะมีย์ตระหนักชัดว่า เขามีภาระใจในงานนี้ แต่งานนี้เป็นแผนการของพระเจ้า ดังนั้น เขาจึงขอความชัดเจนจากพระองค์
เพื่อว่าสิ่งที่เขาจะดำเนินการในเรื่องนี้มิใช่เป็นแผนการของเขาเอง แต่เป็นแผนการของพระเจ้า ที่เขาเข้าร่วมในพระราชกิจครั้งสำคัญนี้ ดังนั้น
“เวลาที่สำคัญและเหมาะสม”
สำหรับการดำเนินการเรื่องนี้ในแต่ละขั้นตอนต้องมาจากเบื้องบน
การที่เราจะรู้ว่าเวลาใดที่เป็น
เวลาสำคัญเหมาะสมที่เป็น “เวลาของเบื้องบน” นั้น
คุณธรรมประการหนึ่งที่ผู้นำคริสตชนจะต้องมีคือ “การรอคอย” บ่อยครั้งที่เราอดใจไม่ไหว รอคอยต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะเราคิดว่า “เราทำได้”?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น