10 เมษายน 2560

เรากำลัง...นมัสการพระเจ้า หรือ นมัสการรูปเคารพ?

สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีคือ “นิสัย”

นิสัยคือพฤติกรรมที่คน ๆ นั้นทำอย่างคุ้นชิน   บ่อยครั้ง ทำโดยไม่จำเป็นต้องคิดไตร่ตรอง   บ่อยครั้งที่ทำเพราะพลังของจิตใต้สำนึก   เมื่อนิสัยเป็นสิ่งที่เรากระทำด้วยความคุ้นชินเช่นนี้   หลายครั้งเราจึงทำอะไรต่อมิอะไรโดยไม่ต้องถามตนเองว่า “ทำไมถึงคิด ถึงทำเช่นนั้น?”   น่าอันตรายคือ “นิสัย” กลายเป็นตราประทับว่า  สิ่งที่ทำนั้นถูกต้องควรทำโดยไม่จำเป็นต้องคิดทบทวนใคร่ครวญอะไร   และแย่ยิ่งกว่านั้น นิสัยมีอิทธิพลต่อการขีดกรอบคิด/กล่องคิด หรือ มุมมองของเราในเรื่องต่าง ๆ  ที่ไม่แตกต่างไปจากความคุ้นชินของเราทำใช่ไหม?   ดังนั้น เมื่อทำอะไรเป็นนิสัยจึงเป็นความยากที่เราจะเปิดใจรับสิ่งใหม่ถึงแม้สิ่งใหม่จะมีความสำคัญแค่ไหนก็ตาม

ทุกวันนี้  เราเข้าร่วมนมัสการพระเจ้าด้วยความคุ้นชินสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำมาเป็น “นิสัย” หรือไม่?   ถ้าใช่  นั่นกำลังเป็นสัญญาณบอกถึงอันตรายในการนมัสการพระเจ้าของเรา

การนมัสการพระเจ้าอย่างคุ้นชิน   เกิดจากประสบการณ์และนิสัยที่ถูกหล่อหลอมจนตกตะกอนเป็นนิสัยของแต่ละคน และ เป็น “นิสัยร่วม” ของกลุ่มคนที่มานมัสการพระเจ้าร่วมกัน   คนกลุ่มนี้จึงคุ้นชินกับวิธีการนมัสการที่เคยทำกันมาและยากที่จะเปลี่ยนแปลง   เพราะเขาเชื่อว่านี่เป็นวิธีที่เป็นสัจจะถูกต้อง!   เป็นการนมัสการพระเจ้าไปตามขั้นตอนวิธีการที่กำหนดมาแล้ว   ทำตามที่ผู้นำได้เตรียมและได้นำ   และขอตั้งข้อสังเกตว่า   การนมัสการพระเจ้าที่ว่านี้มิได้พุ่งล้นจากภายในจิตใจ ความคิด ส่วนลึกของชีวิตของผู้คนที่นมัสการพระเจ้า

ทั้ง ๆ ที่ “หัวใจของการนมัสการมิใช่เพลง ดนตรีที่ใช้  เครื่องเสียง และ สไตล์การนำนมัสการ และ การเทศนาของผู้นำ  แต่เป็นเรื่องของ “จิตใจ” และ “ความคิด” และ ทั้งชีวิตที่ชื่นชมยินดีด้วยความยำเกรงในองค์พระเยซูคริสต์” 

Matt Redman ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงนมัสการ และ ผู้นำนมัสการในคริสตจักร   ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในคริสตจักรที่เขาร่วมนมัสการพระเจ้าว่า   ผู้เข้าร่วมนมัสการพระเจ้าคุ้นชินจนติดยึดกับบทเพลงที่ใช้   ประเภทเพลงที่เลือกร้อง   วิธีการร้องเพลง และเครื่องดนตรีที่ใช้ในการนมัสการพระเจ้า   ตลอดจนเครื่องเสียงที่ใช้ในพระวิหารของคริสตจักรแห่งนั้น   ศิษยาภิบาลของคริสตจักรแห่งนี้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะนำสมาชิกในคริสตจักรของตนให้นมัสการพระเยซูคริสต์อย่างถูกต้องแท้จริง   แทนที่จะหลงจากทางในการนมัสการพระเจ้า  ไปนมัสการ “รูปเคารพ” คือ ประเภทเพลง  วิธีร้องเพลง  วิธีอธิษฐาน  วิธีนำเพลง  เครื่องดนตรี  เครื่องเสียง สไตล์การนำนมัสการ และ การเทศนา ฯลฯ

ศิษยาภิบาลแห่งนี้ได้ปรึกษา ตกลง และ นำคริสตจักรแห่งนี้ให้เข้าสู่การนมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริงด้วยการงดการใช้เครื่องดนตรีต่าง ๆ   ไม่กะเกณฑ์รูปแบบการนำนมัสการ   การอธิษฐาน และ การร้องเพลง   แต่ให้สมาชิกแต่ละคนนมัสการ อธิษฐาน และ ร้องเพลงจาก “ชีวิต จิตใจ และ ความนึกคิด” ของตนที่ต้องการยกย่องนมัสการพระเจ้าให้เป็นที่หนึ่งในชีวิตของตน และ ของชุมชนคริสตจักร   ให้ทุกคนหันความคิดจิตใจและชีวิตของตน   ทิ้งทุกสิ่งที่เกาะกุมชีวิต ความคิด และ จิตใจที่นมัสการพระเจ้าออกไป   กลับมาติดสนิทใกล้ชิดกับพระเยซูคริสต์ในการนมัสการพระเจ้า

ในการนมัสการพระเจ้าของคริสตจักรแห่งดังกล่าว   ศิษยาภิบาลท้าทายให้ทุกคนในที่นมัสการพระเจ้า  เป็นผู้ที่เข้าร่วมในการยกย่อง นมัสการ และขอบพระคุณพระคุณของพระเจ้า   มิใช่ “ผู้ชม”  “ผู้แสวงหาเพื่อบริโภคพระคุณ”  แต่เข้ามาร่วมนมัสการพระเจ้าด้วยชีวิต ความคิด จิตใจที่ต้องการใกล้ชิดผูกพันชีวิตตนกับพระเจ้า ศิษยาภิบาลต้องการให้สมาชิกทุกคนเข้ามาร่วมในฐานะ “ผู้ที่ยกย่องนมัสการพระเจ้า” จากชีวิตจริงของตน   มิใช่ผู้เข้าร่วม “ชม” “มีอารมณ์ร่วม” อย่างกับไปชมคอนเสิร์ท หรือ การแสดง   จากการที่งดใช้เครื่องดนตรี เครื่องเสียง และ การเข้าร่วมตามสไตล์ที่กำหนด  สมาชิกร้องเพลงนมัสการพระเจ้าด้วยปากเปล่าของแต่ละคนร่วมกัน   สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์และบทเรียนล้ำค่าสำหรับทุกคนที่เข้าร่วมนมัสการพระเจ้า   ประสบการณ์และบทเรียนชีวิตการนมัสการพระเจ้าในครั้งนี้เป็นพลังที่เปลี่ยนแปลง “นิสัย” “ความคุ้นชิน” การนมัสการแบบเดิม ๆ ไปสู่การนมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริง (ยอห์น 4:24)   ตามที่พระคริสต์ประสงค์ให้สาวกของพระองค์ทุกคนนมัสการพระเจ้าเช่นนั้น

ชุมชนคริสตจักรแห่งนี้ได้รับประสบการณ์ เรียนรู้  และเกิดมุมมองใหม่ว่า  พระคริสต์ทรงเป็นแก่นหลักศูนย์กลางของการนมัสการ   ที่ผู้เข้าร่วมนมัสการทุกคนยกย่องพระเจ้าจากส่วนลึกก้นบึ้งแห่งจิตใจ ความคิด และ ความรู้สึกของตนต่อพระเจ้า   และนี่คือหัวใจของการนมัสการที่ปรากฏเป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรม  และย้อนกลับเป็นพลังหนุนเสริมการดำเนินชีวิตของผู้เข้าร่วมนมัสการทุกคน

เราไม่ปฏิเสธการมีเครื่องดนตรีชั้นเยี่ยม   นักดนตรีมืออาชีพ  นักร้องเสียงทอง  มือกลองจังหวะหนักแน่น  คณะนักร้องที่ประสานไพเราะ   ผู้นำเพลงที่เข้าถึงอารมณ์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งดีทั้งนั้น   แต่ในการนมัสการพระเจ้าต้องการสิ่งดีกว่านั้นคือ  จิตใจ และ ความคิดที่ถ่อมลงต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า  ที่ซ้องสรรเสริญถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงมีในชีวิตของแต่ละคนในเวลาที่ผ่านมา   รับการทรงสัมผัสจากพระวิญญาณบริสุทธิ์   รับการทรงเปิดเผยและทรงชี้นำชีวิตข้างหน้าของเราแต่ละคน   การนมัสการเป็นเรื่องของจิตวิญญาณและความจริง  ด้วยจิตใจและความคิดทั้งสิ้นทั้งชีวิต

ความสำคัญของการนมัสการพระเจ้าจึงมิใช่สิ่งสรรพที่สำคัญภายนอก   ไม่ใช่เครื่องดนตรี  กลองชุดราคาหลายหมื่น  เครื่องเสียงไมโครโฟนราคาหลายแสน  คณะนักร้องที่ประสานไพเราะ คนนำนมัสการที่เข้าถึงอารมณ์   การร้องเพลงและอธิษฐานที่เปี่ยมด้วยพลัง นักเทศน์ที่มีชีวิตชีวา  ที่เทศน์ได้จับใจ  ขอให้เราไม่ติดยึดกับสิ่งภายนอกเหล่านี้  ถ้าเรายึดว่าสิ่งเหล่านี้คือการนมัสการพระเจ้า หรือ นำเราเข้านมัสการพระเจ้าแล้ว   เรากำลังกราบไหว้รูปเคารพ  เรากำลังเทิดทูน “วัวทองคำ” แทนพระเจ้าที่ทรงเป็นเจ้าชีวิตของเรา

ให้เราหันกลับมานมัสการพระเจ้า   ด้วยจิตใจที่สารภาพ  ด้วยความคิดที่หันกลับมาหาพระเจ้า    ให้เราเข้าร่วมนมัสการพระเจ้า  มิใช่ร่วมในพิธีนมัสการเท่านั้น   ไม่ใช่แค่ถวายทรัพย์สิ่งของเท่านั้น  แต่มอบทั้งชีวิตและจิตใจแด่พระองค์   มิใช่แค่ร้องซ้องสรรเสริญเสียงดัง  หรือ  ร่วมในการอธิษฐานออกเสียงดังกระหึ่มและเปี่ยมด้วยพลังเท่านั้น   แต่ก้มกราบถ่อมทั้งชีวิต จิตใจ และ ความคิดของเราต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า  ให้เราฟังสิ่งที่พระองค์ตรัสแก่เราด้วยใจจดจ่อ   เพราะนั่นเป็นพระประสงค์ของพระองค์สำหรับชีวิตเราแต่ละคน   ที่ทรงต้องการให้เราดำเนินชีวิตประจำวันตามพระประสงค์นั้น   และนั่นคือการนมัสการพระเจ้าด้วยชีวิตจิตใจ   ที่มิได้นมัสการพระองค์จำกัดในโบสถ์ ในพระวิหารเท่านั้น   แต่เรานมัสการพระองค์ในพื้นที่ชีวิตประจำวันทุกเวลา และ ทุกบริบท

ระวังที่จะไม่ให้การนมัสการของเราเป็นการนมัสการรูปเคารพ  แทนการนมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้   ให้เรานมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริง   และนมัสการพระองค์ด้วยจิตใจ ความคิดและชีวิตทั้งสิ้นในชีวิตประจำวัน   ที่เป็นการนมัสการด้วยการดำเนินชีวิตในทุกสถานการณ์ และ บริบท


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น