การหนุนช่วยในยามที่ชีวิตประสบความเจ็บปวด
เพื่อน...จะมีส่วนร่วมทุกข์ร่วมสุขในภาวะเช่นนั้นได้อย่างไร?
ในเวลาที่ชีวิตเจ็บปวดและสิ้นหวัง
อะไรที่เราคาดหวังจากเพื่อนที่เราไว้วางใจมากที่สุด?
กลุ่มเล็กที่เราเป็นสมาชิกควรจะมีส่วนเช่นไรบ้างในเวลาดังกล่าว?
เมื่อเราต้องตกลงในภาวะที่สิ้นหวัง
วิกฤติขวางอยู่ข้างหน้า หรือ ในเวลาที่ต้องพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต ในเวลาเช่นนั้นเราต้องการเพื่อน ในเวลามืดมิดเช่นนี้เราต้องการเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กาย เราต้องการคนที่จะเคียงข้างร่วมทุกข์ร่วมสุข ในเวลาเช่นนั้นเราต้องเปิดใจยอมรับ “มือ” และ
“น้ำใจ” ที่ยื่นเข้ามาข้างหน้า และ ในชีวิตของเรา
ในเวลาเช่นนี้พระเจ้าไม่พระประสงค์ที่จะให้เรารับมือและจัดการวิกฤติ ความเจ็บปวด
และความสิ้นหวังทั้งสิ้นในชีวิตที่เราเผชิญด้วยตัวของเราเอง ชีวิตที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น
พระเจ้าไม่ได้ทรงสร้างแต่ละชีวิตให้ขับเคลื่อนไปอย่างโดดเดี่ยวเสรี
แต่ทุกชีวิตมีเยื่อใยสายสัมพันธ์กับชีวิตคนอื่น ๆ รอบข้าง
ชีวิตมนุษย์ถูกสร้างขึ้นให้เป็นสังคมแห่งสายสัมพันธ์ ให้เราระลึกถึงการทรงสร้างมนุษย์ในสวนเอเดนว่า “ไม่ควรให้ชายผู้นี้อยู่คนเดียว
เราจะสร้างผู้อุปถัมภ์ที่เหมาะสมเท่าเทียมกับเขา” (ปฐมกาล 2:18 อมต.) พระเจ้าสร้างผู้ที่จะอุปถัมภ์กันและกันที่เหมาะสม
มิใช่สร้างผู้ที่มีสิทธิ และ สิ่งดี ๆ ในชีวิตที่เหมือนและเท่าเทียมกันและกัน ความสำคัญคือการอุปถัมภ์มิใช่การเท่าเทียมกัน
หรืออุปถัมภ์กันและกันด้วยสิ่งดีที่เรามีและสิ่งดีที่เพื่อนต้องการ
บางครั้ง
เราอาจจะมีเพื่อนที่เชื่อในพระเจ้า
แต่เพราะเขาต้องเผชิญกับความทุกข์ยากเจ็บปวดอันใหญ่หลวง จนพูดออกมาว่า
“แล้วจะให้ฉันเชื่อพระเจ้าต่อไปได้อย่างไร” ในเวลาเช่นนั้น
เขาต้องการพลังหนุนเสริมจากเราผู้เป็นเพื่อน เราสามารถยืนยันกับเขาได้ว่า เพราะเราเชื่อพระเจ้า ดังนั้น
เราจึงยังยืนหยัดเคียงข้างกับเพื่อนไม่ว่าสถานการณ์มันจะเลวร้ายปั่นป่วนสักปานใดก็ตาม
ดังในพระธรรมโยบกล่าวไว้ว่า “ถึงแม้ว่าคนสิ้นหวังจะหมดความยำเกรงองค์ทรงฤทธิ์
แต่เขายังสมควรได้รับความเห็นอกเห็นใจจากเพื่อนฝูง” (โยบ 6:14 อมต.)
ในพระธรรมกาละเทียบอกกับคริสตชนว่า “(พี่น้องทั้งหลาย)จงช่วยรับภาระของกันและกัน ดังนี้แล้วท่านก็ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระคริสต์
(กาลาเทีย 6:2 อมต.) ที่ว่า “...ท่านได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระคริสต์” แล้วอะไรคือบทบัญญัติของพระคริสต์ล่ะ? ก็คือพระมหาบัญญัติของพระองค์คือ “...(และ)...รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” พระคัมภีร์บอกให้คริสตชนให้ยืนหยัดเคียงข้างผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง เจ็บปวดทุกข์ระทม หมดกำลังหมดความเชื่อ
เพราะการทำเช่นนั้นคือการรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง
การทำเช่นนี้คือการที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระคริสต์
เมื่อเราตกอยู่ในภาวะวิกฤติในชีวิต ท่ามกลางความทุกข์ระทม พบกับสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เราหนีไม่พ้นที่จะเกิดความเครียด ในเวลาเช่นนั้นเรามักสิ้นหวัง หมดกำลังใจ
อ่อนแรงกาย ใจ และจิตวิญญาณ
ขาดสมาธิและปัญญาในการรับมือจัดการกับสิ่งที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตของเรา ในเวลาเช่นนั้นเราต้องยอมรับความช่วยเหลือ
ถึงแม้บางท่านอาจจะหมดความเชื่อที่จะพึ่งความช่วยเหลือจากเบื้องบน แต่ให้เปิดใจยอมรับความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมคือความช่วยเหลือจากเพื่อนใกล้ชิด
ให้โอกาสเพื่อนใกล้ชิดที่จะเคียงข้างร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านในเวลาเช่นนี้
ในเวลาเช่นนั้น แม้เริ่มแรกเราอาจจะมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
หรือ บางครั้งมองไม่เห็นความเป็นไปได้
แต่เราเชื่อว่าท่ามกลางความสิ้นหวัง
หรือ ท่ามกลางที่ความหวังริบหรี่พระเจ้าทรงกระทำงานตามแผนการที่ดีเลิศของพระองค์เพื่อให้เกิดสิ่งดีแก่ชีวิตของเรา
ข้อคิดประเด็นใคร่ครวญ
- ใครคือผู้ที่จะหนุนเสริมท่านในเวลาที่เกิดวิกฤติ ทุกข์ยาก และ สิ้นหวังในชีวิต? ในทางกลับกัน ท่านจะเป็นผู้หนุนเสริมเขาในเวลาที่เขาเกิดวิกฤติในชีวิตได้หรือไม่?
- เมื่อท่านต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกข์ระทมลำบาก อะไรคือสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านในเวลานั้นมากที่สุด?
- ท่านคิดว่าเพื่อนในกลุ่มเล็กสามารถให้การหนุนเสริมท่านอย่างไรที่จะเป็นความช่วยเหลือในเวลาเช่นนั้นที่ดีที่สุด?
- เราสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้างผ่านการเสริมหนุนจากเพื่อนสนิทคริสตชนของเราในเวลาแห่งความทุกข์ยาก?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น