ในยุคนี้ต่างพูดถึงเรื่องสิทธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักมุ่งเน้นให้ความสำคัญด้านสิทธิส่วนบุคคล เราจึงพูดถึงสิทธิต่าง ๆ ที่ตนพึงมีพึงได้ คนที่ไม่ได้รับตามสิทธิพึงมีพึงได้ก็มักจะลุกขึ้นเรียกร้องทวงถามถึงสิทธิของตน แต่น่าสังเกตว่า มีสิทธิหนึ่งที่ผู้นำที่รับใช้แบบพระเยซูคริสต์จะไม่ได้รับเลยคือ...
สิทธิในการเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน
สิทธิในการเห็นแก่ตน
หรือพูดแบบฟันธงคือ สิทธิในการเห็นแก่ตัว
การเป็นผู้นำที่รับใช้ การเป็นผู้นำที่ไม่เห็นแก่ตัว มีลักษณะบางประการ ดังนี้.
- ผู้นำที่ปฏิเสธตนเอง: ผู้นำตามคำสอน และ
แบบอย่างของพระเยซูคริสต์คือผู้นำที่ไม่มุ่งเน้นความสำคัญ และ
ความปรารถนาของตนเอง กล่าวคือต้องปฏิเสธตนเอง พระเยซูจึงตรัสกับบรรดาสาวกของพระองค์ว่า
“ถ้าใครต้องการจะติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง
รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา” (มัทธิว 16:24 มตฐ.)
ซึ่งพระคริสต์ได้เป็นแบบอย่างที่ดีในชีวิตของพระองค์
พระองค์ยอมทนทุกข์และสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อมนุษยชาติ
- ผู้นำที่เสริมสร้างคนอื่น:
ผู้นำที่รับใช้แบบพระคริสต์ เมื่อปฏิเสธตนเองแต่ต้องยอมรับคนอื่น และเสริมสร้างคนอื่น เปาโลกล่าวในโรม 15:2
ว่า “(ให้)เรากระทำเพื่อเสริมสร้างความเชื่อของเขา” (มตฐ.)
และการที่เราเสริมสร้างเขาคนนั้นมิใช่เพราะเขาเป็นคนดี หรือ คนที่เราพอใจ
หรือ คนที่เรารัก
แต่เพราะเราต้องการเสริมสร้างทุกคนที่เราเป็นผู้นำของเขา
และเราต้องการเสริมสร้างให้คนที่เรานำมีคุณค่ามากขึ้นในชีวิตของเขา
- ผู้นำที่ทรหดอดทน: ผู้นำตามแบบพระเยซูคริสต์ เป็นผู้นำที่เปี่ยมล้นด้วยน้ำอดน้ำทน ทั้งต่อการกระทำที่มิดีมิงาม การทำร้าย
การกล่าวร้าย และ การเยาะเย้ย (ดูโรม 15:3, 4) ทั้งนี้เพราะผู้นำที่รับใช้แบบพระคริสต์
เขาเป็นผู้นำมิใช่เพื่อจะทำตามสิ่งที่ตนเองพอใจ แต่มุ่งสร้างความพอใจแก่คนรอบข้างที่เขานำ และนำประโยชน์ให้เกิดขึ้นในชีวิตของผู้คน
แต่การที่ใครจะเป็นผู้นำที่รับใช้แบบนี้ได้นั้น มิใช่เพราะความแข็งแกร่งของคน ๆ นั้น แต่เพราะคน ๆ นั้นได้รับพลังหนุนเสริมจากพระวจนะของพระเจ้า
(ดูข้อ 4 มตฐ.)
และสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจของผู้นำที่รับใช้คือ การทำตามแบบอย่างของพระคริสต์
- เสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในพระคริสต์: ผู้นำที่รับใช้แบบพระคริสต์มุ่งเสริมสร้างชุมชน องค์กรที่ตนเองเป็นผู้นำที่จะกระทำสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า การที่องค์กร หรือ ชุมชนจะสามารถดำเนินการทุกอย่างให้เป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าได้นั้น เพราะชุมชนนั้น องค์กรนั้นเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์ ทั้งนี้เพราะคนทั้งหลายจะรู้จักว่าเราเป็นองค์กร เป็นชุมชนของพระคริสต์ก็เพราะเราทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน ดังนั้น บทบาทผู้นำที่รับใช้จึงมิเพียงแต่ทำทุกอย่างให้คนในองค์กร และ ชุมชนรัก และ ยอมรับตนเองเท่านั้น แต่เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนรักพระคริสต์และรักซึ่งกันและกัน (ระบบการเมืองน้ำเน่าปัจจุบันจึงไม่เหมาะสมสำหรับผู้นำที่รับใช้แบบพระคริสต์ต้องการ) (ดูโรม 15:6)
ถ้าเราจะเป็นผู้นำที่รับใช้แบบพระคริสต์ตามลักษณะดังกล่าวข้างต้น สิทธิประการหนึ่งที่เรามีไม่ได้คือ สิทธิที่เราจะเห็นแก่ตัว สิทธิที่เราจะทำเพื่อตนเอง สิทธิเพื่อตนเอง เพราะทั้งสิ้นที่เราเป็นเราทำก็ทำตามแบบอย่างพระคริสต์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น