ริก วอร์เรน
บอกกับทีมงานของตนว่า
แต่ละคนควรจะทำผิดพลาดสัปดาห์ละครั้ง
ใช่ครับ...
เราเรียนรู้แล้วว่าถ้าใครไม่ทำผิดอะไรเลยก็แสดงว่าคน ๆ นั้นไม่ได้ทดลอง
หรือ พยายามทำสิ่งใหม่อะไรเลย
และหลายคนที่ไม่กล้าทดลองสิ่งใหม่ ๆ ที่ตนไม่คุ้นชินก็เพราะเขาไม่กล้าเสี่ยง เขาไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำผิดใช่ไหม เพราะไม่กล้าทดลองทำสิ่งใหม่ใช่ไหมจึงไม่ได้เรียนรู้
แต่มีข้อแม้ครับ ในการทำสิ่งที่ผิดพลาดสัปดาห์ละครั้ง ต้องไม่ทำสิ่งผิดพลาดซ้ำในสิ่งเดิม เพราะการกระทำผิดพลาดซ้ำในสิ่งเดิมแสดงให้เห็นว่า
เมื่อทำผิดพลาดแล้วไม่มีการเรียนรู้ แต่
ริก วอร์เรน บอกทีมงานว่า “ให้ทำสิ่งที่ผิดพลาดใหม่ ๆ แต่ละสัปดาห์”
เพราะในการทำผิดพลาดเรื่องใหม่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการเปิดประตูแห่งการเรียนรู้บานใหม่ที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่
ๆ ที่ตนไม่เคยทำมาก่อนเลย
ในการที่ใครคนใดคนหนึ่งกล้าที่จะทำแม้อาจจะพบกับความผิดพลาดได้นั้น คน ๆ นั้นต้องมีความเชื่อศรัทธา เพราะถ้าใครที่ขาดความเชื่อศรัทธาแล้วย่อมไม่กล้าที่จะเสี่ยง ยิ่งกว่านั้นคน ๆ นั้นจะกลัวว่าทำแล้วจะผิดพลาดได้ ดังนั้น
ใครที่จะกล้าเสี่ยงที่อาจทำผิดคน ๆ นั้นต้องมีความเชื่อศรัทธา
และความเชื่อศรัทธาเป็นหัวใจที่นำไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ นำไปสู่การเกิดผลในชีวิต
และ ความสำเร็จ
ท่านเชื่อไหมว่า
พระเจ้ามีประสงค์ยิ่งใหญ่สำคัญในชีวิตของเราแต่ละคน?
ถ้าท่านเชื่อ
ท่านจะเชื่อแต่ในใจเท่านั้นไม่ได้
เพราะถ้าเชื่อจริงจะต้องลงมือทำตามความเชื่อนั้น แต่การที่ใครจะลงมือกระทำกระสิ่งที่ตนเชื่อที่ยังไม่เห็นผลเกิดขึ้น คน ๆ นั้นต้องมีความกล้าที่จะเสี่ยงลงมือทำสิ่งที่เชื่อ จากนั้นจะเกิดผลจากการลงมือทำ
แม้ผลที่เกิดขึ้นนั้นบ่งบอกว่ามีการผิดพลาด แต่การผิดพลาดนั้นก็เป็นสิ่งที่คน ๆ นั้นสามารถเรียนรู้ได้ เขาต้องถาม ค้นหา แสวงหาว่า ทำไมถึงผิดพลาด ทำอย่างไรถึงผิดพลาด
ในเวลาเดียวกันแม้ทำลงไปแล้วถูกต้องเกิดผล คน ๆ นั้นจะค้นหา แสวงหา ถามสะท้อนคิดว่า ทำไมทำเช่นนี้แล้วจึงเกิดผล มันเกิดผลเช่นนี้ได้อย่างไร? การค้นพบในระดับต่อไปนั่นคือการเรียนรู้
การเรียนรู้เช่นนี้กลายเป็นความเชื่อศรัทธาที่หยั่งรากลึกลงไปในประสบการณ์กับการทำงานของพระเจ้าในชีวิตของเรา
ไม่มีสิ่งยิ่งใหญ่ใดเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องเสี่ยง
อิสราเอลก้าวลงในทางเดินที่พระเจ้าทรงแหวกน้ำออกจากกัน พวกเขาต้องกล้าเสี่ยง กล้าเสี่ยงที่น้ำทั้งสองข้างจะไหลกลับมาท่วมกลบพวกเขาตายในทะเล เพราะเขามีความเชื่อแล้วจึงกล้าเสี่ยงเขาจึงได้รอดพ้นจากเงื้อมมือทำร้ายทำลายของพวกทหารอียิปต์ พวกเขาเรียนรู้ว่า พระเจ้าทรงปกป้องพวกเขาได้แน่นอน
อิสราเอลมีความเชื่อศรัทธาที่มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น
พวกเขากล้าที่จะไว้วางใจพระเจ้ามากยิ่งขึ้น พวกอิสราเอลมีความเชื่อศรัทธาที่เข้มแข็งมั่นคงยิ่งขึ้น
ตรงกันข้าม
ถ้าเราไม่กล้าที่จะเสี่ยง
เรากลายเป็นคนที่ขาดความเชื่อ
แม้ปากจะบอกว่าเชื่ออย่างมั่นคง
แต่ไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงมือทำตามความเชื่อ
เรากลายเป็นคนที่ไม่สัตย์ชื่อต่อพระเจ้า
ไม่ต่างอะไรกับโยนาห์ที่เชื่อศรัทธาในพระเจ้า แต่ไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำสิ่งที่ทรงเรียกให้เขากระทำ
นอกจากที่ไม่กล้าเสี่ยงทำตามที่พระเจ้าทรงเรียกให้ทำแล้ว เขายังหนีไปหลบซ่อนอยู่ใต้ท้องเรือ และทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้กระทำ
ไปคนละทิศกับที่ที่พระเจ้าทรงเรียกให้เขาไป นอกจากชีวิตของโยนาห์ไม่เกิดผลแล้ว เขากลายเป็นคนที่ไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้า ความเชื่ออ่อนแอล้มเหลว ไม่ได้เกิดการเรียนรู้ในชีวิต
คริสตชนคนใดที่มีชีวิตประจำวันที่กล้าเสี่ยงทำตามความเชื่อศรัทธา ความเชื่อศรัทธาของคน ๆ นั้นยังมีชีวิตอยู่ มิเพียงเท่านั้น แต่เติบโต เข้มแข็ง และหยั่งรากลึกลงมากขึ้น แต่คริสตชนคนใดที่ไม่กล้าเสี่ยง หรือ
ไม่ยอมเสี่ยงตามความเชื่อศรัทธา
แม้เขาคนนั้นยังมีชีวิตอยู่แต่ความเชื่อศรัทธาของเขาได้ตายด้านเสียแล้ว
วันนี้
จงกล้าเสี่ยงทำในสิ่งที่ท่านเชื่อศรัทธา
แม้อาจจะทำผิดพลาด เกิดผลลบ แต่ท่านจะเรียนรู้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้า เรียนรู้ว่าทำไมถึงผิดพลาด ทำอย่างไรถึงจะไม่ผิดพลาดอีก และทางที่ถูกต้องจะต้องทำอย่างไร ท่านจะเรียนรู้ชัดเจนยิ่งขึ้น ความเชื่อศรัทธาของท่านจะแข็งแรง เติบโต มั่นคงยิ่งขึ้น
วันนี้
จงกล้าเสี่ยงทำในสิ่งที่ท่านเชื่อศรัทธา
ถ้าการกระทำนั้นถูกต้อง
เกิดผลดี
ท่านก็ยังต้องเรียนรู้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้า แล้วเรียนรู้ว่าทำไมถึงเกิดสิ่งดี ทำอย่างไรที่จะเกิดผลดียิ่งกว่านี้อีก
ทำอย่างไรที่จะตอบสนองพระประสงค์ของพระเจ้าได้ดียอดเยี่ยม ความเชื่อศรัทธาของท่านจะแข็งแรง เติบโต และมั่นคงยิ่งขึ้น
วันนี้
จงกล้าเสี่ยงที่จะกระทำตามในสิ่งที่ท่านเชื่อ ไม่ว่าจะเกิดผลอย่างไรก็ตาม เราจะได้เรียนรู้ และ
มีความเชื่อศรัทธาที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น