08 ธันวาคม 2562

พระกิตติคุณเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม

ถึงแม้ในยุคของเราจะไม่มีทาสแล้ว (เขาว่ากันอย่างนั้น?) แต่เรายังมี “คนงาน กรรมกร คนใช้  ลูกจ้าง คนสวน พี่เลี้ยงเด็ก และ คนที่ทำงานด้วยแรงงาน ฯลฯ” แต่อย่างไรก็ตาม จากรายงานขององค์การสหประชาชาติ ประมาณว่า มีประชากรมากกว่า 89 ล้านคนที่ตกเป็นทาสในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และนี่ยังมิได้รวมถึงแรงงานข้ามชาติที่เป็นชาติพันธุ์ที่ถูกเอาเปรียบกดขี่แรงงานอีกมากมาย

ปัจจุบันเรามักกล่าวร้ายตีตราการใช้แรงงานทาสในอดีตว่าเป็นสังคมที่ไม่เจริญ แต่ในยุคของเราการใช้แรงงานเยี่ยงทาสมีดาษดื่นที่เราพบเห็นได้ คริสตชนหลายคนอ่านพระธรรมฟีเลโมนแล้วบอกว่า จดหมายฝากจากอาจารย์เปาโลฉบับนี้ “น่าจะตกยุคแล้ว” ปัจจุบันเราไม่มีทาสแล้ว แต่ถ้าเราอ่านพระธรรมสั้น ๆ ฉบับนี้อย่างใส่ใจ คำแนะนำ คำสอน และคำขอร้องจากเปาโลยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับสังคมโลกเราในปัจจุบัน

ในปัจจุบันนี้ เราอาจจะไม่มี “ทาส” แบบในอดีต แต่เราใช้คนงานเยี่ยงทาส ในที่นี้รวมถึงนายจ้างที่เป็นคริสตชน เราปฏิบัติต่อผู้คนที่ใช้แรงงานเหล่านี้เหมือน "คนชั้นต่ำ" ส่วนลูกเรา “พยายามให้เรียนสูง ๆ เพื่อไม่ต้องเป็นคนขายแรงงาน” เรามองคนที่ใช้แรงงานว่าด้อยคุณค่า แย่ยิ่งกว่านั้น แม้แต่นายจ้างคริสตชนบางคนยังเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้แรงงานที่ไม่มีทางสู้ทางกฎหมาย ไม่ยอมจ่ายค่าแรงตามตกลง (โกงค่าแรง) ดังนั้น แม้ว่าเราไม่มีทาสตามรูปแบบ แต่พฤติกรรมของนายจ้างยังทำตนเป็น “นายทาส” และทำต่อคนใช้แรงงานของตนเยี่ยง “ทาส” หรือแย่กว่า “ทาส”

ในพระธรรมฟีเลโมน ข้อ 15-16  เปาโลเขียนถึงฟีเลโมนว่า...

อาจเป็นได้ว่าเหตุผลที่เขา(ทาสของฟีเลโมน ที่ชื่อโอเนสิมัส)จากท่านไปชั่วระยะหนึ่งก็เพื่อท่านจะได้เขากลับคืนมาอย่างถาวร  ไม่ใช่ในฐานะทาสอีกต่อไป แต่ดียิ่งกว่าทาสอีกคือเป็นพี่น้องที่รัก เขาเป็นที่รักยิ่งของข้าพเจ้าและเขาจะเป็นที่รักของท่านมากยิ่งกว่า ทั้งในฐานะเพื่อนมนุษย์และในฐานะพี่น้องในองค์พระผู้เป็นเจ้า (ฟีเลโมน ข้อ 15-16 อมธ.)

ในสมัยนั้น ทาสเป็นเรื่องธรรมดาที่มีกันทั่วไป ตามกฎหมาย นายทาสเป็นเจ้าของชีวิตของทาส  คือมีสิทธิอำนาจเหนือชีวิตของทาส ยิ่งถ้าเป็นทาสที่หนีจากนายทาส เมื่อจับได้ชีวิตของทาสอยู่ในกำมือของนายทาย แต่เปาโลบอกฟีเลโมนในฐานะนายทาสของโอเนสิมัสว่า เมื่อเราเชื่อในพระเยซูคริสต์แล้ว เรามีฐานเชื่อกรอบคิด (Mindset) มุมมองใหม่ แบบพระคริสต์คือ เราจะไม่มองโอเนสิมัสว่าเป็น “ทาส” อีกต่อไป แต่มองเขาว่าเป็น “เพื่อนมนุษย์” ที่มีคุณค่าเพราะทั้งเราและเขาต่างเป็นฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า และเราต่างเป็นพี่น้องในองค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนกัน   ต่างมีคุณค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า

นายจ้างในปัจจุบัน โดยเฉพาะนายจ้างคริสตชน จะต้องมีฐานเชื่อกรอบคิด และ มุมมอง ต่อผู้ใช้แรงงานเช่นเดียวกันนี้คือ...
©       เป็นเพื่อมนุษย์ที่มีคุณค่าตามที่พระเจ้าทรงสร้างให้อยู่ร่วมกัน และ
©       เป็นพี่น้องในองค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนกัน

การเปลี่ยนแปลงสังคม วัฒนธรรม แบบเปาโล มิได้มุ่งเน้นเปลี่ยนแปลงที่โครงสร้างสังคม หรือ กฎหมายของบ้านเมือง แต่เปาโลมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงภายในส่วนลึกแห่งจิตวิญญาณของคนกลุ่มเป้าหมาย และเมื่อคนกลุ่มเป้าหมายมีการเปลี่ยนแปลงจากส่วนลึกภายในชีวิต มุมมอง ความคิด การตัดสินใจ การกระทำก็จะเปลี่ยนแปลงด้วย และเมื่อเกิดผลดีจากการกระทำดังกล่าว   ประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงนั้นย่อมมีอิทธิพลที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม แล้วนำสู่การเปลี่ยนแปลงวิถีการคิด วิถีปฏิบัติในวงกว้างขึ้น จนเกิดการเปลี่ยนแปลง “วัฒนธรรมในสังคม”  นั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงวัฒนธรรมในสังคม นั่นย่อมนำสู่การเสริมสร้างสังคมในส่วนนั้นให้มีวัฒนธรรมตามพระกิตติคุณ กลายเป็น “การเปลี่ยนแปลงไปสู่แผ่นดินของพระเจ้าในโลกนี้”  ตามเป้าหมายแห่งพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ได้เริ่มต้นไว้ ให้เป็นชุมชนสังคมที่ครอบครองโดยน้ำพระทันของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกนี้

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น